วันพุธ, 8 พฤษภาคม 2567

Kick Off “51 วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน”

Spread the love

Kick Off “51 วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน” ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำขอความร่วมมือไม่เผาในที่โลงและพื้นที่ทางการเกษตรอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่ 1 มี.ค. – 20 เม.ย. พบเห็นแจ้งเบาะแสได้ที่ 0-5311-2236 หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

นายสมคิด ปัญญาดี ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “เฝ้าระวัง” ค่า PM10 อยู่ระหว่าง 46 – 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงสุดพบที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างใกล้ชิดในช่วงเริ่มมาตรการ “51 วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน”

สำหรับ พื้นที่ที่เกิดจุด Hotspot มากที่สุด คือ พื้นที่ที่อยู่ในโซนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่เป็นส่วนมาก เช่น อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด อำเภออมก๋อย และอำเภอดอยเต่า ซึ่งมีจุดความร้อนอยู่สูง แต่สำหรับพื้นที่อื่นๆในภาคเหนือขึ้นไปของจังหวัดเชียงใหม่ ก็เริ่มมีจำนวนจุด hotspot อยู่แล้ว ซึ่งในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ หวังจะลงจุดhotspot ลง จากปีที่แล้วมีทั้งหมด 904 จุดทั้งปี ปีนี้ได้เริ่มขึ้นมาที่ 228 จุด โดยปกติแล้วภาคเหนือจะรวมประมาณ 5,000 กว่าจุด และในส่วนของพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม และอำเภอสันป่าตอง

ด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในห้วงเวลาที่มีการดำเนินการห้ามเผาอย่างเด็ดขาดในช่วง 51 วันนั้น จะมีกิจกรรมมาตรการรับมือในพื้นที่ต่างๆ อาทิ การเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ไว้ในการดับไฟให้พร้อมใช้งาน ทั้งในพื้นที่ชุมชนของแต่อำเภอ อปท. และหน่วยอาสาต่างๆ ที่จะจัดเตรียมเจ้าหน้าของภาครัฐและภาคประชาชน ประกอบกับในช่วงที่ลาดตระเวนก็จะมีการทำแนวกันไฟควบคู่กันไปด้วย เพื่อสามารถป้องกันไม่ให้เกิดหมอกควันและไฟป่า ขณะเดียวกัน จะได้แจ้งให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ของอำเภอประกาศเสียงตามสายให้กับชุมชนในทุกหมู่บ้าน ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ห้ามเผาทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ในช่วง 51 วัน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 20 เมษายน 2561 โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ จะมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาด หากมีผู้ใดก่อให้เกิดไฟขึ้นในพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นโทษที่ คสช. ได้ประกาศเพิ่มโทษหากเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่าสงวน และเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และหากเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ชุมชน จะใช้ พรบ.สาธารณสุข ถ้าเผาเกิน 25 ไร่ขึ้นไป ปรับ 200,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท จำคุก 4-20 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ชี้เบาะแสการเผาเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด จะมีรางวัลนำจับรายละ 5,000 บาท สามารคแจ้งเหตุได้ที่ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5311-2236 หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารย้อนหลังได้ที่ แฟนเพจเฟสบุ๊ค “อากาศบ้านเฮา”