DSI ป้องกันปราบปราม นอมินีต่างด้าวแย่งธุรกิจคนท้องถิ่นเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 57 เวลา 08.30 น. DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จัดอบรมโครงการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายของคนต่างด้าว ด้านการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ณ โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในระดับพื้นที่ และเตรียมความพร้อมกับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนในปี 2558 รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวของคนต่างด้าวให้กับภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการพัฒนาความร่วมมือด้านการข่าวและการสืบสวนสอบสวนคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ตลอดจนการจัดตั้งศูนย์ประสานความร่วมมือในการป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวของคนต่างด้าว

โดยทาง พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้กล่าวว่า สืบเนื่องจากประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและเปิดเสรีทางการค้าทำให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนเข้ามาประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของคนในท้องถิ่น ในลักษณะการแย่งอาชีพของคนในพื้นที่ ซึ่งแอบแฝงการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวแบบครบวงจรประเภท นำเที่ยว เช่าที่พัก เช่ารถ ร้านอาหารซักรีด นวดแผนไทย ไกด์ทัวร์ และธุรกิจสปา โดยว่าจ้างให้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้บางรายยังมีพฤติกรรมข่มขู่นักท่องเที่ยวไม่ให้ใช้บริการรถแท็กซี่ของผู้ประกอบการท้องถิ่นด้วย ซึ่งการดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าวและบุคคลที่เป็นนอมินี อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่เป็นกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเป็นประเด็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตมาแล้ว

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ทั้งในส่วนข้อมูล ข่าวสาร องค์ความรู้ และการสนธิกำลังเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดจะเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้มีประสิทธิภาพ อันส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยดำเนินต่อไปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและเกิดผลดีต่อผู้ประกอบธุรกิจของคนไทย ตลอดจนสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวังการกระทำความผิดในพื้นที่และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาครัฐและประชาชนใน้ด้านมิติของการดำเนินคดีพิเศษอีกด้วย

รพิรัตน์  สุขแยง รายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ