“อาชีพช่างภาพข่าว แม้จะมีรายได้ไม่ดีเท่ากับช่างภาพสาขาอื่น แต่ผมก็ภูมิใจ และดีใจที่ได้ทำงานนี้ เพราะทำให้ผมได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์และเป็นส่วนหนึ่งที่ได้บันทึกภาพประวัติศาสตร์”

“เชร์” พงศ์มนัส ทาศิริ หนุ่มเชียงใหม่ วัย 35 ปี ช่างภาพข่าว (Photojournalist) สังกัดสำนักข่าว European Pressphoto Agency หรือ EPA ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของสำนักข่าวระดับโลกคือ รอยเตอร์ เอเอฟพี เอพี และอีพีเอ

เขาเป็นช่างภาพข่าว 1 ใน 5 คน ของ อีพีเอ ที่ประจำในประเทศไทย โดยทำงานในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด และบางครั้งอาจถูกโยกไปช่วยงานกีฬาระดับโลก และข่าวการเมือง ในกรุงเทพฯ  ซึ่งเขาบอกว่า ช่างภาพข่าวของอีพีเอ ต้องมีความคล่องตัวสูง และสามารถทำงานได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการชุมนุมทางการเมือง การเลือกตั้งในพม่า การแข่งเทนนิสระดับโลก งานประเพณีวัฒนธรรมไทยในภาคเหนือ ซึ่งภาพของเขามักจะได้คัดเลือกไปปรากฏต่อสายตาชาวโลกบ่อย ๆ เช่น งานประเพณีปอยส่างลอง ที่แม่ฮ่องสอน การปล่อยโคมลอย และงานสงกรานต์  ที่เชียงใหม่ ซึ่งเขาเติบโตมากับประเพณี วัฒนธรรมเหล่านี้  จึงทำให้เขาสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม

เชร์เล่าว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นช่างภาพอาชีพ เพราะก่อนหน้านี้ไม่สนใจ และไม่ชอบการถ่ายภาพเลย เนื่องจากมีแต่ศัพท์ภาษาอังกฤษ และเป็นเรื่องทางเทคนิค แต่เป็นวิชาที่ทุกคนต้องเรียน ที่คณะนิเทศศิลป์ ชั้น ปวส. มหามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ เชียงใหม่

จนกระทั่งเขาได้รับแรงบันดาลใจจากคนสองคน คนแรกคือ เพื่อนที่เรียนด้วยกัน ซึ่งบอกกับเขาเสมอว่า “เราไม่จำเป็นต้องไปสนใจทฤษฎี แต่ขอให้ถ่ายภาพบ่อย ๆ เดี๋ยวก็จะรู้เองว่าเราจะเอาทฤษฎีไหนมาใช้ ส่วนอีกคนคือ “ดลธร อินศิธร” เจ้าของโฟโต้จาย สตูดิโอ เชียงใหม่ ที่เรียกพวกผมสองคนไปช่วยงาน ถือว่าเป็นครูถ่ายภาพคนแรกของผม” เชร์กล่าว

หลังเรียนจบ 2 ปีหลังที่คณะศึกษาศาสตร์ เอกสุขศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะพ่อไม่อนุญาตให้ไปเรียนต่อที่ราชมงคลคลองหก เขาจึงได้สมัครงานกับ เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊บ จำกัด (มหาชน) สาขาเชียงใหม่ ซึ่งกำลังเปิดหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ในเครือคือ คมชัดลึก โดยเขาได้ทำงานในส่วนของการตลาด และสายส่ง จากนั้นได้โยกไปเป็นผู้สื่อข่าว ในกองบรรณาธิการ ซึ่งจะต้องถ่ายภาพเอง ทำให้เขาได้เริ่มเข้าสู่เส้นทางช่างภาพอย่างจริงจัง

ทำงานที่เนชั่นได้ 2 ปี กว่าได้ลาออก และได้งานใหม่ในนิตยสาร โฮม บายเออร์ ไกด์ เชียงใหม่ ซึ่งด้วยจังหวะ โอกาส บวกกับฝีมือ ในเวลาไม่นานเขาได้นั่งบริหารในตำแหน่งบรรณาธิการบริหารนิตยสารฉบับนี้มาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับการเป็นช่างภาพข่าว ที่อีพีเอ

“ผมคิดว่า ผมได้รับโอกาสที่ดีมาตลอด จึงมาถึงตรงนี้ได้ ซึ่งคนที่สนใจ และอยากก้าวเข้ามาทำงานสาขานี้ ขอให้มีความขยัน ใฝ่หาความรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มีความรับผิดชอบ และมีวินัยในการทำงาน”

ส่วนผลงานภาพข่าวที่เขาภาคภูมิใจคือ ภาพช้างไทยที่เขียนลายธงชาติบนหน้า  ได้ถูกนำไปโพสต์ลงหน้าปกเว็บไซต์ข่าวชื่อดัง aap image ซึ่งช่างภาพข่าวทั่วโลกส่วนใหญ่จะติดตามข่าวจากเว็บนี้

เหตุการณ์ที่เขาคิดว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิต และการทำงานแบบมีค่าสุด ๆ คือ เมื่อครั้งที่นางอองซาน ซูจี ได้ออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก หลังถูกกักบริเวณอยู่ในพม่าเป็นเวลากว่า 20 ปี เขาบอกว่าต้องงัดทุกวิชาออกมาใช้ เพราะงานนั้นเจ้าหน้าที่รัฐของไทยมีบัตรสื่อมวลชนให้เพียง 10 ใบเท่านั้น แต่ช่างภาพ และนักข่าวไทย เทศ แห่มาจากทุกสารทิศ เขาจึงต้องหาทางแฝงตัวเข้าไปปะปนกับผู้อพยพในสนามฟุตบอลของ ค่ายลี้ภัยที่ อ.ท่าสองยาง  จ.ตาก

เมื่อรถของนาง

อองซานเข้ามาถึง เขาจึงปรี่เข้าไปถ่ายภาพในระยะประชิดได้ แม้จะถูกเจ้าหน้าที่พยายามกันเขาให้ออกมาจากจุดนั้น ทั้งดึงหู หยิกเอว แต่เขาอดทน และขอสัมผัสมือกับนางอองซาน ซูจี ซึ่งเธอก็ยื่นมือมาให้เขา ดังนั้นภาพนี้จึงเห็นมือซ้ายของเชร์จับมือกับนางอองซาน  ขณะที่มือขวาของเขาก็ทำหน้าที่กดชัตเตอร์ไป

“ในใจผมตอนนั้นคิดว่า นี่อาจเป็นแค่ครั้งเดียวในชีวิตก็ได้ ที่เราได้อยู่ใกล้และสัมผัสมือกับคนระดับโลกแบบนี้ จึงเป็นแรงบันดาลใจ และความภาคภูมิใจในอาชีพ รวมทั้งเรายังมีโอกาสได้อยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลาย ๆ ครั้ง เช่น งานพระบรมศพของสมเด็จพระพี่นางฯ ตลอดจนเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ซึ่งนับได้ว่า ช่างภาพคือคนหนึ่งที่เป็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไปในอนาคต”.

‘จ๊อบแมน’

job_man28@yahoo.co.th

ขอบคุณที่มา http://www.dailynews.co.th/Content/Article/207717/%E2%80%98%E0%B9%80%

สำนักข่าว