อาจารย์แพทย์ มช. คว้ารางวัล “บุคคลที่มีผลงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินดีเด่น” ประจำปี 2558
อาจารย์แพทย์ มช. ได้รับรางวัล“บุคคลที่มีผลงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินดีเด่น” ประจำปี 2558 จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ศูนย์นิทรรศการและประชุมไบเทค จากการประเมินผลงานในปีที่ผ่านมา
ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าทำงานร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องการแพทย์ฉุกเฉิน มีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะพัฒนามาตรฐานในการดูแลผู้บาดเจ็บหรือ ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่ได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน และเมื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินประมาณ 3 ปี รวมถึงได้ทำงานกับราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย มีเรื่องใหญ่ ที่ได้ปฏิบัติอยู่ 3 เรื่องคือ มีส่วนสนับสนุนงานการฝึกอบรมการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บชั้นสูง (Advanced trauma life Support : ATLS ) หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บที่ห้องฉุกเฉิน ที่มีการใช้อยู่ทั่วโลกมาแล้ว หากผู้ใดได้เข้าอบรมหลักสูตรการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บชั้นสูง (ATLS)นี้ จะเรียกได้ว่าเป็นผู้มีความสามารถเทียบเคียงได้กับนานาประเทศ นอกจากนี้ ตนได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้ในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว และมีการพัฒนาการฝึกอบรมมาโดยตลอด จนปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการหลักสูตรของระดับชาติ ภายใต้คณะกรรมการจากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ดูแลในเรื่องมาตรฐานการดูแลผู้บาดเจ็บในห้องฉุกเฉิน หลักสูตรปัจจุบันเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติว่ามีการฝึกอบรมในประเทศไทย มีการฝึกอบรมมาเป็นระยะเวลานานให้แก่ แพทย์ทั่วประเทศ ทั้งศัลยแพทย์ แพทย์ศัลยกรรมออร์โทปิดิกส์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินจำนวนมาก ด้วยประสบการณ์ที่มีในการสอนมาเป็นเวลานานและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ตนจึงได้มีโอกาสรับเชิญให้สอนตามประเทศต่างๆ อาทิ มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ มองโกเลีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา
ด้วยเล็งเห็นว่าการดูแลผู้บาดเจ็บไม่ได้เริ่มจากที่ห้องฉุกเฉินเท่านั้น การดูแลที่ได้มาตรฐาน น่าจะเริ่มมาจากจุดเกิดเหตุโดยทีมแพทย์พยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ก็ควรจะได้รับการพัฒนาเช่นกัน หลักสูตร ATLS ที่สอนไปในช่วงแรก ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับการดูแลผู้บาดเจ็บ ในปี พ.ศ. 2557 ตนจึงได้เขียนโครงการการนำหลักสูตรที่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ ที่เรียกว่า Pre-hospital Trauma Life Support (PHTLS) นำเสนอต่อกรรมการของ ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหลักสูตรในการดูแลผู้บาดเจ็บก่อนถึงโรงพยาบาล หมายถึงตั้งแต่จุดเกิดเหตุบนท้องถนน จนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาล กลุ่มบุคลากรที่จะได้ประโยชน์จากหลักสูตรนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ออกไปดูแลผู้บาดเจ็บบนท้องถนน อาทิ แพทย์ พยาบาลรถกู้ชีพมูลนิธิ,รถกู้ภัย เป็นต้น ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ใช้ระบบดูแลผู้ป่วยตามหลักสูตรที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งปรับแต่งหลักสูตรมาจากต่างประเทศ เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งมีความเข้าใจไม่ตรงกับนานาประเทศอยู่บางเรื่อง ตนจึงได้ประสานกับผู้ดูแลหลักสูตรในสหรัฐอเมริกา ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจาก 2 แหล่งคือ ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ในการส่งแพทย์ผู้ที่มีความสามารถจำนวน 6 ท่าน ให้เข้าอบรมในต่างประเทศ และนำคนที่มีความสามารถจากต่างประเทศมาช่วยสอนครั้งแรก ในประเทศไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการนำหลักสูตร PHTLS นี้เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ที่นานาประเทศยอมรับเมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 และได้เริ่มฝึกอบรมให้กับแพทย์ในประเทศไทยทั้งหมด 10 กว่ารุ่น และคาดว่าในปลายนี้จะเริ่มฝึกอบรมให้กับพยาบาลและทีมของผู้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ ดูแลผู้บาดเจ็บนอกโรงพยาบาล และในอนาคตอันใกล้นี้ การนำหลักสูตรดังกล่าวเข้ามาในไทย น่าจะเป็นการพัฒนามาตรฐานการดูแลผู้บาดเจ็บนอกโรงพยาบาลให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และเรื่องสุดท้ายคือได้รับตำแหน่งเป็นประธานการประเมินการฝึกอบรม กลุ่มอาชีพวิชาชีพใหม่ ที่เรียกว่าพาราเมดิก (นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์) ซึ่งเป็นบุคลากรที่จะออกไปดูแลผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วยในจุดเกิดเหตุได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นวิชาชีพใหม่ แต่เดิมที่ผ่านมา การดูแลผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วยฉุกเฉิน อาศัยแพทย์และพยาบาลเป็นหลักในการดูแล ซึ่งพยาบาลและแพทย์ส่วนใหญ่ได้รับการฝึกฝนให้ดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล อาจไม่คุ้นเคยนักในการดูแลผู้บาดเจ็บในสถานที่นอกโรงพยาบาลซึ่งมีทรัพยากรจำกัด การมีนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ซึ่งจบการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี จะเป็นบุคคลสำคัญที่มีความรู้ในการดูแลตั้งแต่ก่อนถึงโรงพยาบาล ปัจจุบันตนดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการที่ทำการประเมินผู้เข้าฝึกอบรมเหล่านี้ ภายใต้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เมื่อมีคณะกรมการชุดนี้ ทำให้การฝึกอบรมเป็นรูปธรรมและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น
จากผลงานหลักทั้ง 3 เรื่องนี้ ได้สอดคล้องกัน และส่งผลให้การอบรมด้านวิชาการเพื่อให้ได้ระบบและบุคลากรที่มีคุณภาพออกไปดูแลผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ปลอดภัยและรอดชีวิต มากยิ่งขึ้น จนทำให้ได้รับรางวัลบุคคลที่มีผลงานทางการแพทย์ฉุกเฉินดีเด่น ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนภาคภูมิใจ และถือว่าเป็นเกียรติที่ได้ทำชื่อเสียงให้คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย