สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ไล่ล่ามาราธอน โจรตีนแมวอาวุทคู่กายแค่ไขควงอันเดียว!! ก่อเหตุทั่วเชียงใหม่

วันที่ 7 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์รายสำคัญ โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บุญประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้, โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่,พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.ฯนำโดยพ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ,พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ผัดก๋า สว.สส.ฯ ,ร.ต.อ.อนันต์ คำมี รอง สว.สส.ฯ , ร.ต.ท.อนันต์ พรหมมานอก , ด.ต.ศักดา ถุงเงิน , ด.ต.พนาพันธ์ ผ่องพันธ์ , ด.ต.ธนวินท์ พรมวังขวา , ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ , ส.ต.อ.ประดิษฐ์ แก้วก๋อง, ส.ต.อ.สมเจตน์ คงเมือง และ ส.ต.ต.เสถียร เปาแก้ว ร่วมด้วย ตำรวจ สภ.แม่แจ่ม ได้แก่ พ.ต.ต.ธีรวัฒน์ อ้นจันทร์ ​สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.วีรเดช โกฏิคำ​รอง , ร.ต.อ.ไพโรจน์ รัฐบำรุง​ , ด.ต.ณรงค์ ศรีนวล , ด.ต.นพรัตน์ รู้ซื่อ​ , ด.ต.วิทยา ดอนชัย , ส.ต.ท.ศราวุฒิ วรรณการ , ส.ต.ท.ธนวันต์ แสงจันทร์ ได้ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาคือ นายอนุกร หรือใหญ่ หรือเอ็ม สิงห์แก้ว อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 1/3002 ม.1 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก

 นายอนุกร หรือใหญ่ หรือเอ็ม ได้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2560 บ้านเลขที่ 14/4 หอพักบ้านป้าช้อย ห้องที่ 8 ม.1 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่และจะเลือกก่อเหตุที่หอพักเป็นส่วนใหญ่ และใช้พาหนะในการก่อเหตุคือรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่าฟีโน่ สีดำ ชมพู ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (แต่มีหมายเลขทะเบียน กษย-525 พะเยา) และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว ทะเบียน 1 กท-8955 เชียงใหม่ ในวันเกิดเหตุ ได้ทรัพย์สินภายในห้องดังกล่าวไปร่วม ๆ 20,000 บาทหลังจากนั้น ผู้ต้องหารายนี้ก็ได้ก่อเหตุเช่นเดียวกันนี้หลายท้องที่ ใน จ.เชียงใหม่ทั้งใน อ.เมือง และต่างอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงเช่น ลำพูน ลำปางโดยใช้อาวุธคู่กายแค่เพียงไขควงอันเดียว เมื่อผู้ต้องหาขโมยทรัพย์สินได้แล้วจะนำไปขายแล้วนำเงินมาเที่ยวผู้หญิง นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ฯ มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ไล่ล่าติดตามจับกุมได้ที่ม่านรูดแฮปปี้โอที ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูนเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2560 เวลาประมาณ 06.00 น.

จากการขยายผลการกระทำความผิด ของคนร้ายในคดีนี้รับว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ หลายท้องที่ ดังนี้

ท้องที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

1. วันที่ 31 มี.ค. 2554 ก่อเหตุลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน (ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 255/2554 ลงวันที่ 25 พ.ค. 2554เหตุเกิดที่หน้าร้านวิชคลับ หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รถยนต์(ได้คืนแล้ว)และโน้ตบุค

2. วันที่ 19 ก.พ. 2560 ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่บ้านเลขที่ 14/4 หอพักบ้านป้าช้อย ห้องที่ 8 ม.1 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เงินสด จำนวน 20,000 บาท (คดีหลัก มีหมายจับ)

3. วันที่ 13 มิ.ย. 2560 ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่ห้อง 202 หอพักสุพัตรา เลขที่ 31/5 ม.1 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้กล้องถ่ายรูปยี่ห้อ นิคอน รุ่น D3200 จำนวน 1 ตัว

4. วันที่ 10 ก.ค. 2560 ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่ห้อง 104 หอพักไม่ทราบชื่อ เลขที่ 30/1 ถ.ป่าพร้าวนอก ซ.3 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เงินสด 4,000 บาท

5. วันที่ 19 ก.ค. 2560 ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่หอพักรัตนาคอร์ท(จำนวนทั้งสิ้น 5 ห้อง) หมู่บ้านวรุณนิเวศน์ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ทรัพย์สินไป คือ เงินสด จำนวน 3,000 บาท , เหรียญพระ ไม่ทราบจำนวน , กระเป๋าสะพายหลัง

ท้องที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์

1. วันที่ 20 มิ.ย.60 เวลา 17.00 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่บ้านเลขที่ 36/9 ซ.3 ถ.สิโรส ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เหรียญกษาปณ์หลายรายการ (มีหมายจับ)

2. วันที่ 20 ก.ค.60 เวลาประมาณ 14.30 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่หอพักหนูแดง 138 หมู่ 5 ซ.วัดร่ำเปิง ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ไอแพ็ดมินิ ขนาด 16 Gb สีเทา จำนวน 1 เครื่อง (มีหมายจับ)

ท้องที่ สภ.ช้างเผือก

1. วันที่ 10 ก.ค.60 เวลาประมาณ 09.00-18.00 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่หอพักกุลนิตย์เพลส ห้องพักที่ 101 เลขที่ 33/2 หมู่1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้โทรทัศน์สี จอแบน ขนาด 49 นิ้ว ยี่ห้อพานาโซนิค  จำนวน 1 เครื่อง (มีหมายจับ)

ท้องที่ สภ.แม่ปิง

1. วันที่ 11 ก.ค.60 เวลาประมาณ 21.00 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่หอพักเม็คเฮ้า ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (จำนวน 6-7 ห้อง) ได้คอมพิวเตอร์แท็ปเลต ยี่ห้อ Asus จำนวน 1 เครื่อง , เงินในกระปุกออมสิน จำนวนประมาณ 20,000 บาท , นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ SEIKO จำนวน 1 เรือน , เงินสด จำนวน 2,000 บาท

ท้องที่ สภ.สันทราย

1. วันที่ 17 มิ.ย.60 เวลาประมาณ 16.20 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่บ้านเลขที่ 113 หมู่บ้านสันคะยอมใต้ หมู่ 7 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ เบล จำนวน 1 เครื่อง , เงินเหรียญไม่ทราบจำนวน , นาฬิกาข้อมือ (มีหมายจับ)

 ท้องที่ สภ.สารภี

1. ต้นเดือน มี.ค. 60 เวลากลางวัน ก่อเหตุลักทรัพย์ฯ ที่บ้านพักท้องที่ อำเภอสารภี ได้โน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง (ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 527/2560 ลงวันที่ 7 ส.ค. 2560 ข้อหาลักทรัพย์ ในเคหสถานฯ)

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ปิดฉาก โจรตีนแมวรายนี้ได้ จึงบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในเชียงใหม่และ จังหวัดใกล้เคียงได้อย่างน่าชื่นชม

รพิรัตน์ สุขแยง รายงาน

CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ จับยาบ้า 1.5 แสนเม็ดพร้อมไอซ์กว่า 7 กรัมเตรียมกระจายในตัวเมือง

วันที่ 17 มิ.ย. 59 เวลาประมาณ 11.00 น. ณ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 โดยการอำนวนการของ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์  ผบช.ภ.5 ได้ทำการแถลงข่าว จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ของกลางยาบ้า 152,000 เม็ด ยาไอซ์ 775.50 กรัม พร้อมทีมจับกุม สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ต.ฐนศกณ  ประมาณ สว.สส.ฯ พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.อนันนต์  คำมี รอง สว.สส.ฯ ร.ต.ท.อนันต์ พรหมมานอก ด.ต.ศักดา ถุงเงิน ด.ต.เกียรติศักดิ์ หลักดี ด.ต.พนาพันธ์ ผ่องพันธ์ ด.ต.ธนวินท์ พรมวังขวา ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ ส.ต.อ.ประดิษฐ์ แก้วก๋อง

ผู้ต้องหา 4 ราย

1. นางสาวมนทิรา หรือโบ้ บังอาญ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 18/6 ม.8 ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่
2. นางสาวภคภรณ์ หรืออิส ชัชวรัตน์ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 66 หมู่ 3 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
3. นางสาวนุชจรี หรือนุช ดวงมณี อายุ 23 ปี ที่อยู่ 67 หมู่ 6 ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
4. นายภาสกร หรือเออี้ วราหะ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 115 หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ของกลาง

1. ยาบ้า 152,000 เม็ด
2. ยาไอซ์ 775.50 กรัม
3. รถยนต์ทะเบียน กพ 2263 เชียงราย 1 คัน
4. รถจักรยานยนต์ 2 คัน
5. โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการจับกุม น.ส.ภคภรณ์ , น.ส.นุชจรีฯ และ นายภาสกรฯ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 16,000 เม็ด ได้ก่อนบริเวณคูเมือง ด้านหน้าแมนดาเลย์บาร์ และสืบสวนขยายผลจนมาจับกุม น.ส.มนทิราฯ พร้อมของกลางยาบ้า 136,000 เม็ด และยาไอซ์ 775.50 กรัม โดยติดตามและจับกุมได้ที่บ้านพักอาศัย ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ในการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ผู้ผลิตยาบ้า ได้ออกแบบแพคเกจจิ้งใหม่เป็นซองขนมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่สามารถทราบได้เลยว่าเป็นยาบ้า ออกแบบให้เหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไป  เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อดำเนินคดีต่อไป

CNX NEWS  เจาะข่าว  ตรงใจคุณ

สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ รวบอันธพาลต่างด้าวกระหน่ำฟันเหยื่อสาหัส !!!

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นำโดยพ.ต.อ.อักษร วงศ์ใหญ่ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่,พ.ต.ท.ศักดิ์ศรี ยะปาละ รองผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่,นำโดยพ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์,พ.ต.ต.ยุทธการ เมธา สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่,ร.ต.อ.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง,ร.ต.ท.อนันต์ คำมี,ร.ต.ต.มนัส วรรณสาร รอง สว.สสฯ,ได้จับกุมตัว
1.นายทูนอ่อง นายพง อายุ 25 ปี สัญชาติพม่า
2.นายทรงพล ไม่มีนามสกุล อายุ 16 ปี สัญชาติพม่า
3.นายสี่ห้า ทรายมูล อายุ 18 ปี สัญชาติพม่า
4.นายคำลู่ นามแสง อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า
5.นายอรนุช เพชรทอง อายุ 19 ปี สัญชาติพม่า
พร้อมของกลาง
1.มีดดาบ ความยาว 70 เซนติเมตร 1 เล่ม
2.มีดดาบ ความยาว 60 เซนติเมตร 1 เล่ม
จับกุมในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส”
พฤติการณ์แห่งการจับ – ด้วยเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 02.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด บริเวณหน้าร้านนิ่มซีเส็ง ถนนช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จว.เชียงใหม่ จึงได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายสุริยา บุญเรือง อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ใบหน้าและข้อเท้าจำนวนหลายแผล นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลและได้สอบปากคำกลุ่มเพื่อนผู้ได้รับเจ็บทราบว่า พวกตนได้ยืนอยู่ริมถนนในหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 6 คนถือมีดดาบและไม้วิ่งเข้ามาจะทำร้าย ทำให้กลุ่มของตนวิ่งหนีออกมาทางถนนช้างคลาน แต่กลุ่มคนร้ายไล่ติดตามมาทันถึงตัวนายสุริยาฯที่วิ่งอยู่ด้านหลังแล้วได้รุมทำร้ายโดยใช้อาวุธมีดดาบฟันและเตะต่อย จากนั้นกลุ่มเพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะยังรวมตัวอยู่ในหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเข้าไปตรวจสอบพบกลุ่มคนร้ายกำลังทุบทำลายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายอยู่และในมือยังถือมีดดาบและไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมแล้วนำตัวมาที่สภ.เมืองเชียงใหม่ ต่อมากลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บได้มาชี้ยืนยันว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายสุริยาฯจริง สอบถามผู้ถูกจับทั้ง 5 ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาและสิทธิ จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินต่อไป

ขอบคุณ ภาพและข่าว หน่วยงานสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่

สืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ซ้อนแผนจับคนร้ายรีดไถ อ้างตัวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ 

เมื่อเวลา วันที่ 16 มีนาคม 56 พ.ต.อ.อักษร วงค์ใหญ่ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ต.ยุทธนา เมธา สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมทีมสืบสวน จับกุมตัว ผู้ต้องหาที่แอบอ้างตัวเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ เพลงของค่ายต่าง ๆ แล้วไปรีดทรัพย์ผู้ประกอบการสถานบันเทิงต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่

ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวัชร เย็นสินธุ์ อายุ 51 ปี หัวหน้าโจ๊ก อยู่บ้านเดิมเลขที่ 2782 ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. มีหมายจับ ข้อหาร่มกันกรรโชกทรัพย์ เลขที่หมายจับที่ จ.128.4/2556 ลงวันที่ 14 มี.ค. 56 นายชัชพงศ์ แสงหล้า อายุ 38 ปี อยู่บ้านเดิมเลขที่ 222 หมู่ 1 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เลขที่หมายจับ 128.3/2556 ลงวันที่ 14 มี.ค. 56 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ฯ นายประดิษฐ์ วงศ์วรรณ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 7 ต.ห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา หมายจับเลขที่ 128.5/2556 ลงวันที่ 14 มี.ค. 56 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น นำตัว 3 ผู้ต้องหาส่ง ร.ต.อ.เกริกชัย กิตติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ดำเนินคดี

พ.ต.ต.ยุทธนา เมธา สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ จะแอบอ้างตัวเป็นตัวแทนของบริษัทลิขสิทธิ์ เพลงและตระเวนก่อเหตุในหลายจังหวัด โดยแก็งพวกนี้จะใช้วิธีมาติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ก่อนและจะหลอกว่าจ้างตำรวจที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ไปด้วยและเข้าบุกตรวจสอบผู้ประกอบการต่าง ๆ ตามสถานบันเทิง ห้องอาหาร ร้านอาหารต่าง ๆ และอ้างว่าเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์เพลง ร้านไหนเปิดเพลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ก็จะเข้าแสดงตัวและใช้วาจาข่มขู่อ้างว่าหากส่งฟ้องศาลหรือเรื่องถึงพนักงานสอบสวน จะต้องถูกปรับในราคาที่แพงมากนับแสนบาท มีผู้ประกอบการไม่อยากเสียเงินมากยอมจ่ายเงิน แต่หากมีผู้ประกอบการคนไหนไม่เชื่อ กลุ่มแก็งพวกนี้ก็จะให้ตำรวจที่หลอกมานำตัวมายังสถานีตำรวจ แต่จะไม่ขึ้นโรงพักและอ้างว่า หากส่งฟ้องศาลจะมีราคานับแสน แต่หากยอมจ่ายเพื่อเคลียร์จะเสียเพียงแค่ 3-5 หมื่นบาทเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายไม่อยากเสียเงินมาก ประกอบกับเห็นตำรวจมาด้วย จึงเชื่อสนิทและยอมจ่ายเงินให้กับแก็งพวกนี้ กลุ่มขบวนการผู้ต้องหากลุ่มนี้มีด้วยกัน 5 คน และทางตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ 3 และหลบหนีไปได้ 2 คน ซึ่งก็จะได้สืบสวนสอบสวนและขอหมายจับกุมต่อไป ตอนนี้กลุ่มแก็งแอบอ้างตัวแทนลิขสิทธิ ได้ขึ้นมาอาลาวาดทั่วภาคเหนือ

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน