สลดแม่และลูกชายรมควันเสียชีวิตคารถเก๋ง เหตุน้อยใจเกี่ยงเลี้ยงลูกกับสามี
วันที่ 13 สิงหาคม 64 พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก. สภ.แม่ริม เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเลขที่ 201/104 หมู่บ้านกาญจน์กนก 6 บ้านหนองเขียว ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังเกิดเหตุแม่และลูกชายรมควันหมดสติอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง เบื้องต้นสามีที่เพิ่งกลับมาบ้านพบเหตุการณ์ ภรรยาและลูกหมดสติอยู่ในรถมีควันขึ้นโขมง จึงแจ้งตำรวจ 191 ก่อนที่รถกู้ภัยเหมืองแก้ว และของโรงพยาบาลนครพิงค์ จะรีบมายังที่เกิดเหตุ พบว่าทั้งแม่และลูกชายหมดสติไม่มีสัญญาณชีพ จึงนำร่างออกมาปั้มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล จึงรีบนำส่งไปที่โรงพยาบาลนครพิงค์เพื่อช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการ และเสียชีวิตทั้งคู่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณที่จอดรถในบ้าน พบรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ Type Z สีเทา หมายเลขทะเบียน ขข 4586 เชียงใหม่ จอดอยู่โดยหันหน้ารถยนต์เขาในบ้าน โดยพบว่าข้างรถยนต์เก๋งมีเตาอั้งโล่ลักษณะใหม่ และถ่ายที่เผาไหม้และดับแล้วตกอยู่บริเวณสนามหญ้าข้างที่จอดรถ โดยรถยนต์มีสภาพเหมือนไม่ได้ใช้งานมานานและมีฝุ่นเกาะอยู่
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้น นายชัยสิทธิ์ ฉ่ำเฉลิม อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่า ตนมีอาชีพเป็นทนายความ ทุกวันจะออกบ้านในช่วงสายเพื่อไปออฟฟิศในตัวเมือง ส่วนภรรยาคือ นางปาริฉัตร ทาวินนา อายุ 36 ปี ทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ 7-11สาขาโรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ และจะเข้าเวรสลับเป็นช่วงๆ โดยช่วงนี้จะเข้าเวรตั้งแต่ 3 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนทุกวัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนได้ทะเลาะกับภรรยา เรื่องการดูแลลูกชายวัย 10 ขวบ ที่เป็นเด็กพิเศษออทิสติก และเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านริมใต้ อ.แม่ริม โดยในช่วงก่อนหน้านี้ปกติตนจะพาลูกชายไปออฟฟิศด้วยทุกวัน แต่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ฝากภรรยาให้ดูแลลูกชาย แต่ก็มามีปากเสียงกัน จนกระทั่งก่อนเกิดเหคุวันนี้ คาดว่าภรรยาเกิดความน้อยใจ จึงขับรถยนต์คันดังกล่าวไปซื้อเตาอั้งโล่และถ่าน หลังจากที่ตนออกไปทำงานแล้ว และกลับมาที่บ้าน ก่อนที่ภรรยาจะจุดไฟเผาถ่านในเตาอั้งโล่ และนำไปไว้บริเวณที่วางขาของเบาะหลัง ก่อนที่จะนำลูกชายเข้ามานั่งรมควันด้วยกันในรถและปิดประตูรถทิ้งไว้จนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิต ในสภาพลูกนั่งหันหน้าเข้ากอดแม่และหมดสติไปพร้อมกัน ก่อนที่ตนจะเข้าบ้านมาพบเมื่อ 15.00 น. จึงเปิดประตูรถและนำเตาอั้งโล่ออกมาทิ้งด้านนอก ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ ของนายชัยสิทธิ์ ฉ่ำเฉลิม ผู้เป็นสามี เนื่องจากยังพบว่าให้การมีพรุธหลายจุด รวมทั้งหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งต้องรอการตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานก่อน.
