วันพุธ, 8 พฤษภาคม 2567

ศปอส.ภ.5 รวบผู้ต้องหาส่ง (SMS) หลอกลวงขอข้อมูลทางการเงินเสียหายกว่า 4 แสนบาท

25 ม.ค. 2021
813
Spread the love

ศปอส.ภ.5 รวบผู้ต้องหาส่ง (SMS) หลอกลวงขอข้อมูลทางการเงินเสียหายกว่า 4 แสนบาท

ศปอส.ภ.5จับกุมตัวผู้ต้องหาส่งข้อความ (SMS) หลอกเอาข้อมูลทางการเงินของผู้เสียหาย ไปลงแอพพลิเคชั่น SCB Easy แล้วโอนเงินของผู้เสียหายออกจากบัญชีธนาคาร

 

วันเดือนปี 25 ม.ค.64  เวลา 10.00 น. โดยการอำนวยการ ของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.,    พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.๕, พล.ต.ต.สัณห์  โพธิ์รักษา รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.เจษฎา จุโฑปะมา ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.5

เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5)               และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.5 ได้จับกุม ผู้ต้องหา 

1. นายเป่าฉาง แซ่หลู่ อายุ 23 ปี เชื้อชาติ/สัญชาติ : ไทย ที่อยู่ บ้านเลขที่ 214 หมู่ 5 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ จ.33/2564 ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 ข้อหา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน  หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน , ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น

2.นาย ยู เชา เหว่ย (YU CHAO WEI) อายุ 36 ปี  เชื้อชาติ/สัญชาติ : ไต้หวัน ที่อยู่ บ้านเลขที่ 44 หมู่ 7 ต.เชียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ จ.34/2564 ลงวันที่ 8 มกราคม 2564 ข้อหา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน  หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น

3.นายวราวุธ ปามือ อายุ 20 ปี เชื้อชาติ/สัญชาติ ไทย ที่อยู่ บ้านเลขที่ 86 หมู่ 6 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนตามหมายจับ   ศาลอาญาที่ 1908/2563 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ข้อหา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน  หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น

4. นายพรสวรรค์ ไพรสีเขียว อายุ 19 ปี เชื้อชาติ/สัญชาติ ไทย ที่อยู่ บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอนตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1912/2563 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ข้อหา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน  หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. สืบสวน ปรามปราบ อาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงเอาข้อมูลทางการเงินไปลงแอพพลิเคชั่น (SCB EASY) แล้วโอนเงินของผู้เสียหายออกจากบัญชีธนาคารเป็นจำนวนมาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้

พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.๕ สืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายดังกล่าว ต่อมา พล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.๕ จึงได้มอบหมายให้ ศปอส.ภ.5 สืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายที่ได้ตระเวนถอนเงินในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งทาง ศปอส.ภ.5 ร่วมกับ สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทำการสืบสวน ติดตามกลุ่มคนร้าย จนทราบพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ว่ามีการส่งข้อความ (SMS) ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเข้าไปที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งข้อความดังกล่าวจะมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นข้อความมาจากธนาคารไทยพาณิชย์และให้ประชาชนกดเข้าไปเพื่ออัปเกรดแอพพลิเคชั่นโอนเงินออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายกดเข้าไปที่ลิงค์จะปรากฏหน้าเว็บไซต์ที่มีลักษณะให้กรอกข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลทางการเงิน และรหัสผ่านแอพพลิเคชั่น จากนั้นกลุ่มคนร้ายจะนำข้อมูลของผู้เสียหายไปทำการลงทะเบียนแอพพลิเคชั่น SCB Easy อีกอัน ระหว่างนั้นจะมีข้อความรหัสรักษาความปลอดภัย OTP ของธนาคารแจ้งไปยังเครื่องผู้เสียหาย เพื่อยืนยันว่าต้องการลงแอพพลิเคชั่นใหม่หรือเพิ่มอีก 1 อัน ซึ่งหากผู้เสียหายไม่ได้อ่านข้อความหรือดูให้แน่ใจ หลงเชื่อนำรหัส OTP ดังกล่าวไปกรอกที่หน้าเว็บไซต์ที่คนร้ายทำไว้ เพราะเข้าใจว่าเป็นกระบวนการอัปเกรดแอพพลิเคชั่นจริง จากนั้นคนร้ายจะสามารถใช้แอพพลิเคชั่นบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้ พร้อมกับรู้รหัสแอพพลิเคชั่น SCB Easy ของผู้เสียหายทุกอย่าง และทำการโอนเงินของผู้เสียหายออกจากบัญชี เพื่อส่งต่อให้กับผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ ที่แบ่งหน้าที่กันทำ

โดยเริ่มทำตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.63 – ปัจจุบัน มีผู้เสียหาย  ทั่วประเทศ จำนวน 21 ราย มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 429,180 บาท ในส่วนของพื้นที่ ภ.5  มีผู้เสียหายร้องทุกข์ จำนวน 2 คดี คือ สภ.แม่ปิง จว.เชียงใหม่ และ สภ.บ้านดู่ จว.เชียงราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการขยายผลและดำเนินการออกหมายจับชาวบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป จากการตรวจสอบ พบว่า นาย ยู เชา เหว่ย ยังมีความสัมพันธ์กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2560 ซึ่งจะได้ตรวจสอบส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอเตือนประชาชนให้ระวังการโทรศัพท์สอบถามรหัส OTP ของแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยมีข้อสังเกต ดังนี้

  1. ขอประชาสัมพันธ์ฝากสื่อมวลชนและประชาชนว่าสิ่งสำคัญของดิจิตอลแบงค์กิ้ง ประชาชนต้องไม่ควรให้รหัส OTP กับคนที่ไม่รู้จักหรือคนที่โทรมาถามทางโทรศัพท์ไม่ว่าจะอ้างเป็นผู้ใดก็แล้วแต่ ธนาคารทุกธนาคารไม่มีนโยบายที่จะขอ OTP ที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของท่าน
  2. ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรเครดิตลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบข้อความ หรือรูปภาพ
  3. ระมัดระวังการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงินต่างๆ เช่น การกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านทางเว็ปลิ้ง ที่อ้างเป็นธนาคาร และการมอบสมุดบัญชีพร้อมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้อื่น หรือผู้ปล่อยเงินกู้ ตามเพจต่างๆ ที่ให้เงินกู้ออนไลน์
  4. อย่าเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นใช้ หรือรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร อาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะจำถูกนำเอาบัญชีไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้