วันพุธ, 8 พฤษภาคม 2567

ลุ้นโครงการบ้านประชารัฐ เข้า ครม. ผ่อนปรนเงื่อนไงสุดๆให้กู้ได้ง่ายขึ้น

16 มี.ค. 2016
226
Spread the love

scoop2

สกู๊ปพิเศษ CNX NEWS 

ลุ้นโครงการบ้านประชารัฐ เข้า ครม. ผ่อนปรนเงื่อนไงสุดๆให้กู้ได้ง่ายขึ้น

เป็นข่าวมาตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่รัฐบาลนี้จะผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการ ให้การขอสินเชื่อเพื่อการมีบ้านหลังแรกง่ายขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยคนที่มีรายได้น้อยได้มีบ้านหลังแรกง่ายขึ้น

               หลายมาตรการที่จะช่วยเหลือในเรื่องนี้เท่าที่ผมจำได้คือ การให้กู้วงเงินสูงถึงหนึ่งล้านบาทสำหรับผู้ที่มีรายได้เดือนละหมื่นขึ้นไป  มาตรการลดค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง เป็นต้น

และวันนี้ ข่าวที่เคยนำเสนอก็มีความคืบหน้าไประดับหนึ่งครับ

โดยคุณวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเมื่อต้นเดือนมีนาคมมาแล้ว ว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์ กระทรวงการคลัง จะเสนอโครงการบ้านประชารัฐ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชน ข้าราชการ ทหารตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา และผู้มีรายได้ไม่แน่นอน หรือ ผู้มีอาชีพอิสระ ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยโครงการมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี ทั้งนี้ โครงการบ้านประชารัฐ ผ่อนปรนสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) รายย่อยถึง 50% สวัสดิการให้ถึง 80%

สำหรับผู้อยู่ในข่ายได้รับอานิสงในมาตรการนี้ประกอบด้วยต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน สามารถกู้ซื้อ เช่าซื้อ หรือ สร้างใหม่ รวมถึง เป็นทรัพย์รอการขาย(เอ็นพีเอ) ในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท แต่ถ้ามีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยแล้ว สามารถกู้ซ่อมแซมหรือต่อเติมในวงเงิน 5 แสนบาท มีข้อแม้ว่าบ้านและที่ดินต้องมีมูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ทั้งนี้ มีข้อจำกัดเพียงเป็นบ้านหลังแรกเท่านั้น

คุณวิสุทธิ์ กล่าวว่า โครงการนี้มีธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ร่วมปล่อยกู้ 7 หมื่นล้านบาท โดยการปล่อยกู้ให้กับประชาชน มีอัตราดอกเบี้ยและการผ่อนชำระ 2 แบบ คือ

1..  บ้านราคาไม่เกิน 7 แสนบาท และกู้ตกแต่งและต่อเติมไม่เกิน 5 แสนบาท ปีแรกดอกเบี้ย 0%

 2 …บ้านราคาสูงกว่า 7 แสนบาท ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ดอกเบี้ยปี 1-3 อัตราดอกเบี้ย 3% เอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้ช่วยรับภาระค่าธรรมเนียมการโอน 2% และการจดจะนอง1% ฟรีค่าใช้จ่ายส่วนกลางปีแรกมีส่วนลดพิเศษไม่น้อยกว่า 2% จากราคาขายสุทธิ และเอกชนช่วยรับภาระให้กับผู้ซื้อบ้านประมาณ 5%

ท่านรัฐมนตรีช่วยคลัง คาดว่าจะมีอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ ประมาณ 6 หมื่นยูนิต หรือคิดเป็น 10% ของตลาดภาพรวม ที่มีมูลค่าสูงถึง 5.4 แสนล้านบาท หากรวมธุรกิจต่อเนื่องจะมีมูลค่าถึง 1.7 ล้านล้าน คิดเป็น 13-14% จึงมีส่วนสำคัญในกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทางด้านคุณฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า หากกระทรวงการคลัง นำเสนอโครงการเข้าครม.วันที่ 15 มีนาคม ธอส.พร้อมเปิดให้ยื่นกู้ในวันถัดไป คือวันที่ 16 มีนาคมได้ทันที และคาดว่าเมษายนสินเชื่อโครงการนี้น่าจะเต็มวงเงิน

สิ่งที่รัฐบาลนี้คาดหวังคือ จะช่วยให้ผู้ที่มีรายได้เพียง 1หมื่นบาทต่อเดือนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้

         สาเหตุเพราะโครงการนี้ไม่ได้กำหนดรายได้ผู้กู้ แต่กำหนดราคาบ้าน คอนโคมิเนียม ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ทั้งมือ 1 และมือ 2 และต้องเป็นบ้านหลังแรกด้วย

ตรงนี้จะช่วยจำกัดผู้ซื้อได้ในระดับหนึ่ง เพราะผู้มีรายได้สูง ส่วนใหญ่จะมีบ้านอยู่แล้ว และซื้อบ้านราคาที่สูงกว่า 1.5 ล้านบาทแล้ว เมื่อไม่ลงมาร่วมในมาตรการนี้ ผู้มีรายได้น้อยจริงๆก็จะได้รับประโยชน์

          ก็ต้องติดตามข่าวให้ดีๆครับ ตามข่าวการประชุม ครม.วันอังคารที่15 มีนาคมนี้ ดูว่ามติ ครม.จะว่างอย่างไร หาดมติ ครม.เห็นชอบ วันถัดไป รีบไปธนาคารเลย โดยเฉพาะ ธอส.บอกไว้ชัดเจน ถ้าครม.เห็นชอบ ให้กู้ได้ทันที ขอให้โชคดี มีบ้านอยู่กันครับ

อรุณ ช้างขวัญยืน/รายงาน

CNX NEWS เจาะข่าว  ตรงใจคุณ