วันจันทร์, 13 พฤษภาคม 2567

ผู้ต้องหาวีนเจ้าทุกข์ ทำไมหลอกให้มาพบแล้วเอาตำรวจมาจับ !!!

Spread the love

ผู้ต้องหาวีนเจ้าทุกข์ ทำไมหลอกให้มาพบแล้วเอาตำรวจมาจับ !!!

56017

 

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา นางสาวฉัตรศิรินทร์ ขันทราช อายุ 55 ปี ผู้เสียหายที่ถูกขโมยบัตรเครดิต KTC ไปรูดซื้อสินค้าในห้างเซ็นทรัล กาดสวนแก้ว จ.เชียงใหม่มูลค่าร่วม 50,000 บาท ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สภ.ภูพิงค์ฯ เพื่อเชิญตัวผู้ต้องสงสัยไปเจรจาที่โรงพัก หลังพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ และนัดมาเจอกันที่ ร้านกาแฟสตาร์บัค กาดสวนแก้ว

นางสาวฉัตรศิรินทร์ ขันทราช อายุ 55 ปี ผู้เสียหาย ได้แจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ไชยชนะ พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ฯ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2558 ว่าบัตรเครดิต ของตนได้ถูกขโมยไป โดยมีการเคลื่อนไหวการใช้ผิดปกติ ที่ร้านวัตสัน ร้านทองสยามเยาวราช ร้านบลูไดม่อน ร้านเอ็กซเรย์ช็อป ในห้างเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ทางธนาคารจึงโทรมาสอบถามตนเองว่าได้ใช้จ่ายอะไรผ่านบัตรหรือเปล่า ซึ่ง ณ ขณะนั้น ตนเองไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ แต่ไปต่างประเทศแต่บัตรอยู่ที่เพื่อนชาวต่างชาติหุ้นส่วนธุรกิจของเธอได้ยืมไป ทางธนาคารจึงรีบอายัดการใช้จ่ายของบัตรโดยทันที หลังจากนั้น พอกลับจากต่างประเทศก็รีบเดินทางไปแจ้งความเมื่อวันที่ 18 เมษายน ซึ่งผู้ต้องสงสัย เป็นหญิงอายุประมาณ 30 -40 ปี อ้างชื่อว่า skyซึ่งหญิงคนนี้ เป็นคนที่เข้ามาตีสนิท กับเพื่อนของเธอที่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจโรงแรมชื่อเดอะเนส ย่านศิริมังคลาจารย์ คือ Mr.David Joel ชาวอเมริกัน อายุ 64 ปี โดยในตอนแรกนั้น ผู้ต้องสงสัย ซึ่งมาทราบชื่อภายหลัง คือ นางกีรติ อู่สุวรรณทิม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 7 ต.หนองปลาสะวาย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ได้รู้จัก กับ Mr.David Joel โดยการแชทหาคู่ผ่าน เว็บไซต์ ThaiCupid.com ซึ่งเจอกันประมาณ 10 ครั้งเมื่อปี 2557 และในครั้งนั้นที่เจอกัน นางกีรติ อู่สุวรรณทิม ก็ได้ขโมยกล้องถ่ายรูป ยี่ห้อ Nikon และ ไอแพด รวมมูลค่า ร่วม 200,000 บาท เพราะตนซื้อมาจากอเมริกา และหายตัวไปติดต่อไม่ได้เลยแต่ตนก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร   เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน นางกีรติ อู่สุวรรณทิม ได้ติดต่อกลับมา อ้างว่าจะนำกล้องถ่ายรูปและไอแพด ที่เอาไป จะนำมาคืน จึงกลับมาหา Mr.David Joel อีกครั้ง และเจอกันเพียง 40 นาทีในห้องพักที่โรงแรม และอ้างว่าจะไปหยิบกล้องถ่ายรูปในรถมาคืนให้ และก็หายไปอีกโดยหยิบบัตรเครดิตที่วางไว้บนโต๊ะไปด้วย และก็หายไปติดต่อไม่ได้เช่นเคย นางสาวฉัตรศิรินทร์ ขันทราช  ผู้เสียหาย ได้สันนิษฐานว่า นางกีรติ อู่สุวรรณทิม ผู้ต้องสงสัยคงคิดว่าเป็นบัตรของ Mr.David จึงได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์หลายครั้ง เพื่อให้นำบัตรมาคืนและนำเงินมาคืนพร้อมกับกล้องถ่ายรูป และไอแพด ถ้านำมาคืนก็จะไม่เอาเรื่อง จึงนัดกันที่ร้านกาแฟ สตาร์บัคดังกล่าว พอนางกีรติ อู่สุวรรณทิม มาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเข้าไปเจรจาเพื่อเชิญตัวมาตกลงกันที่โรงพัก ซึ่งนางกีรติ อู่สุวรรณทิม ก็มิได้เอาสิ่งของต่าง ๆ ที่ตกลงกันไว้มาคืน ผู้เสียหายจึงต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเลขที่ 171/2558 ลงวันที่ 19 เมษายน 2558 โดยกล่าวหาว่า “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกให้ได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดโดยมิชอบ ในประการที่หน้าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วกับชาวต่างชาติ บางคนเป็นนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยในระยะเวลาสั้น ๆ พอเกิดเหตุก็ไม่ทันได้ดำเนินคดีอะไรก็ต้องกลับประเทศ จึงทำให้ผู้ต้องหาย่ามใจและทำมาเรื่อยจนมาถูกดำเนินคดีในครั้งนี้

 

[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=AMcSq_qQOqM[/youtube]

 

รพิรัตน์ สุขแยง รายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ