จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุทางถนนตามยุทธศาสตร์ 5E และผลการจัดประชุมสัมมนาเส้นทางรถจักรยานเขตเมืองเชียงใหม่ วันนี้ (30 ก.ย.57) ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.57 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุทางถนนตามยุทธศาสตร์ 5E และผลการจัดประชุมสัมมนาเส้นทางรถจักรยานเขตเมืองเชียงใหม่ ในรอบเดือนที่ผ่านมา หลังจากมีการประชุม ครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2557 ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายต่าง ๆ ประกอบด้วย คณะทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านวิศวกรรมจราจร ด้านการให้ความรู้ การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านการประเมินผลและระบบสารสนเทศ และคณะทำงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความปลอดภัยทางถนนในส่วนท้องถิ่น เข้ามาร่วมดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมทั้งยังได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดเส้นทางรถจักรยานในเขตเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศด้วย
สำหรับประเด็นการจัดเส้นทางรถจักรยานในเขตเมืองเชียงใหม่นั้น เนื่องด้วยในปัจจุบันมีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมขับขี่รถจักรยานเป็นพาหนะเดินทางและท่องเที่ยวในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากการจราจรในเขตเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับผู้ขับขี่รถจักรยาน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง จังหวัดเชียงใหม่จึงได้กำหนดจัดทำเส้นทางรถจักรยานในเขตเมืองเชียงใหม่ขึ้นเพื่อเป็นการจัดระเบียบเส้นทางรถจักรยานในเขตเมืองเชียงใหม่ โดยกำหนดนโยบายและมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรที่จะเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถจักรยาน ซึ่งปัจจุบันเทศบาลนครเชียงใหม่ได้จัดเส้นทางจักรยานหลายเส้นทางโดยเฉพาะรอบคูเมือง แต่ผลปรากฏว่าไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ยกเว้นผู้ปั่นจักรยานที่มีความชำนาญแล้ว นอกจากนั้นยังพบปัญหามีรถยนต์จอดในช่องทางจักรยานทำให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุกับผู้ขี่รถจักรยาน แต่หากได้รับการปรับปรุงเส้นทางและแก้ไขถนนแล้วจะทำให้รถจักรยานสามารถวิ่งได้จำนวนมากและคาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น ในส่วนประเด็นนักท่องเที่ยวที่นิยมใช้รถจักรยานเป็นจำนวนมากแต่ขาดความรู้ความเข้าใจในการขับขี่ และจักรยานที่ใช้ในเวลากลางคืนไม่มีไฟส่องสว่างนั้นในการแก้ปัญหานั้นให้นำศูนย์บริการรถเช่าเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา ส่วนจักรยานยนต์ที่วิ่งบนทางจักรยานให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ทั้งนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดประชุมสัมมนาเส้นทางรถจักรยานเขตเมืองเชียงใหม่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมาโดยผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาได้เสนอให้ผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดความเร็วในเส้นทางรถจักรยาน ส่วนการประชาสัมพันธ์หากมีการกำหนดวัน/เวลาการขี่จักรยานของแต่ละเส้นทางเพื่อให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรม รณรงค์ให้เด็กนักเรียนใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางมาโรงเรียน ในประเด็นที่จอดรถให้จัดทำที่จอดรถให้ได้มาตรฐานและครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ๆ เพื่อให้นักปั่นจักรยานไม่ต้องกังวลเรื่องรถจักรยานหาย เป็นต้น ในส่วนของเลขานุการนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ได้นำตัวอย่างการดำเนินงานการใช้เส้นทางรถจักรยานของประเทศไต้หวันให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานในพื้นที่เขตเมืองเชียงใหม่ต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและลดอุบัติหตุทางถนนตามยุทธศาสตร์ 5E มีดังนี้
คณะทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย ได้เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฏหมายกับผู้ขับขี่รถโดยไม่ปฏิบัติตามกฏจราจร ส่วนประเด็นการบังคับใช้กฎหมายในถนนสายรองซึ่งมีการกระทำผิดกันเป็นจำนวนมากนั้นประธานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีอำนาจหน้าที่อยู่แล้วให้เข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฏหมายให้มากขึ้นด้วย นอกจากนั้นให้ปรับเปลี่ยนทั้งจุดตรวจจุดสกัด และเวลาในการตั้งจุดตรวจเพื่อให้การดำเนินการบังคับใช้กฏหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คณะทำงานด้านวิศวกรรมจราจร มีการนำเอาโครงการปลูกหญ้าแฝกซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปลูกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินเพื่อป้องกันการเกิดดินสไลด์ปิดเส้นทางการจราจร มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยเพื่อเพิ่มการมองเห็นในช่วงเวลากลางคืน มีการประสานทุก ๆ หน่วยในสังกัดกรมทางหลวงในการจัดบุคลากรเฝ้าระวังเส้นทางในช่วงฤดูฝนที่อาจเกิดกรณีดินสไลด์โดยการจัดทำเส้นทางเบี่ยงสำหรับใช้ในการเดินทางแทนเส้นทางหลักที่ไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
คณะทำงานด้านการให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาปกติได้ใช้สื่อวิทยุกระจายหลักของ กรมประชาสัมพันธ์ ประกอบด้วย สวท.เชียงใหม่ และ สวท.ฝางในการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง โดยในส่วนของ สวท.เชียงใหม่ ได้ร่วมกับกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จัดรายการจราจรเพื่อชุมชนทุกวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ ส่วน สวท.ฝางก็มีการจัดรายการวิทยุเป็นประจำทุกสัปดาห์เช่นกัน สำหรับ สทท.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับการจัดสรรห้วงเวลาสำหรับการผลิตรายการในภูมิภาคเพียงช่วงเวลาเดียวคือ รายการ มองเมืองเหนือ ระหว่างเวลา 08.00 – 09.00 น. นั้นได้มีการใช้ช่องทางดังกล่าวในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมเฉพาะกิจเนื่องจากมีเขตพื้นที่ให้บริการถึง 8 จังหวัด ส่วนการประชาสัมพันธ์การหลีกเลี่ยงเส้นทางในการจัดกิจกรรมใหญ่ ๆ ในจังหวัดนั้นได้ใช้การพูดแทรกในรายการและอักษรวิ่ง
สำหรับห้วงเทศกาลจะให้สื่อทุกแขนงในการร่วมประชาสัมพันธ์ อาทิ การแถลงข่าวประจำสัปดาห์เพื่อแจ้งมาตรการที่ใช้ในห้วงเทศกาล ประสานสถานีวิทยุหลักทั้ง 13 สถานีร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนสื่ออื่น ๆ ก็ได้ร่วมประชาสัมพันธ์ในการจัดกิจกรรมการรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนด้วย นอกจากนั้นยังได้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสาย หอกระจายข่าว วิทยุชุมชนในพื้นที่เพื่อแจ้งมาตรการเพิ่มเติมในแต่ละวันของคณะทำงานศูนย์ความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งใช้สื่อป้ายอักษรไฟวิ่งของสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และวิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ด้วย ส่วนสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่มีการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องกฎจราจรกับผู้ประกอบการขนส่งและรถรับนักเรียน 3 รุ่น หลังจากนี้จะมีการติดตามประเมินผลและออกตรวจจับในพื้นที่ที่เข้าไปจัดอบรม มีการพัฒนาศักยภาพแก่ผู้ขับขี่รถบรรทุกรองรับการเข้าสู่ AEC มีการเชิญผู้ประกอบการขนส่งประจำทางเข้าร่วมโครงการศึกษาและการจัดระเบียบรถสี่ล้อแดงเชียงใหม่ การรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย 100% และมอบหมวกนิรภัยกับหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับการให้ความรู้แก่เยาวชนในสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 6 เขต และ เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา34 นั้น มีการบูรณาการจัดการเรียนการสอนกฎวินัยจราจรเข้ากับกลุ่มสาระวิชาสุขศึกษาและวิชาพลศึกษา และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา มีการจัดวินัยจราจรในโรงเรียน รวมทั้งมีการจัดลูกเสือจราจรไว้คอยอำนวยความสะดวกหน้าโรงเรียนในเวลาเร่งด่วนด้วย ส่วนมหาวิทยาลัยทุกแห่งก็มีการรณรงค์ให้มีการสวมหมวกนิรภัยให้ครบ 100% ในกลุ่มบุคลากรและนิสิต นักศึกษาของมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะที่ขับขี่ออกจากมหาวิทยาลัย จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีการเข้มงวดกวดขันและตรวจจับและปรับในอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เกิดการเข็ดหลาบในกลุ่มนักศึกษาดังกล่าว
คณะทำงานด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน รายงานว่าในจำนวนกว่า 80% ของผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ ไม่มีการสวมหมวกนิรภัย ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตในสถานที่เกิดเหตุและในห้องฉุกเฉินค่อนข้างสูงประมาณ 60 – 70% และอัตราของผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่มีการสวมหมวกนิรภัยจำนวนถึง 95% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุระหว่าง 15 – 25 ปี ทั้งนี้ในส่วนของออกบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินนั้น จังหวัดเชียงใหม่มีหน่วยบริการทั้งหมดจำนวน 193 หน่วย ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้เจ็บป่วยจากอุบัติเหตุทางการจราจร โดยบางจุดไม่มีหน่วยบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินเข้าไปช่วยเหลือในสถานที่เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยจึงเป็นมาตรการที่จะช่วยลดอัตราการตายและการบาดเจ็บของผู้ประสบอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ในส่วนปีงบประมาณ 2558 ยังได้กำหนดจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์การให้บริการของหน่วยบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินทั้งภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ จำนวน 130 ป้ายครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างรวดเร็ว ส่วนจุดอับสัญญาณได้กำหนดแผนประสานภาคเอกชนที่ดำเนินการด้านการบริการการสื่อสารเข้ามาร่วมดำเนินการใน จุดอับสัญญาณดังกล่าว
คณะทำงานด้านการบริหารจัดการประเมินผลสารสนเทศ ได้รายงานข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ในห้วงเดือนมกราคม – สิงหาคม 2557 ว่า มีจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ 3,336 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,887 ราย และ เสียชีวิต 203 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 26.34 รองลงมาคือ ตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด คิดเป็นร้อยละ 17.47 และ ขับรถตามกระชั้นชิด คิดเป็นร้อยละ 7.76 โดยจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดถึงร้อยละ 47.23 รองลงมาคือรถปิกอัพร้อยละ 26.27 และรถเก๋งร้อยละ 19.53 ส่วนประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือทางหลวงแผ่นดิน คิดเป็นร้อยละ 50.53 รองลงมาคือถนนในเมือง (เทศบาล) ร้อยละ 24.52 โดยอำเภอสันทรายเป็นอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดถึง 12 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 7 ราย และเสียชีวิต 5 ราย
สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ