วันอังคาร, 7 พฤษภาคม 2567

ปฏิบัติการณ์ทวงคืน “เหนือเมฆ 2”

Spread the love

ปฏิบัติการณ์ทวงคืน “เหนือเมฆ 2”

ปฏิบัติการณ์ทวงคืน “เหนือเมฆ 2”

กลุ่มหน้ากากขาว ที่ออกมาเคลื่อนไหวภายใต้กิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า “ศรัทธา พลังแห่งความดี” ที่มีสมาชิกออกมารวมตัวกัน หน้าอาคารมาลีนนท์ กว่า 200 คน โดยทั้งหมดพร้อมใจกันสวมเสื้อขาว หน้ากากขาว เพื่อเรียกร้องให้นำละครเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ มาฉายให้จบ

          (13 ม.ค.) กลุ่มสังคมออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก ในนาม “กลุ่มรณรงค์แบนช่อง 3 กรณีถอดละครเหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักโกงเมือง” ประมาณ 200 คน แต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมใส่หน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้า ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ ถนนพระรามที่ 4 เพื่อจัดกิจกรรม “ศรัทธา : พลังแห่งความดี” เพื่อคัดค้านการถอดละครเรื่องดังกล่าว โดยมีการชูป้ายกระดาษให้กำลังใจทีมงานละคร “เหนือเมฆ 2” อีกด้วย

          โดยผู้ร่วมชุมนุมได้เริ่มทยอยมาถึงตึกมาลีนนท์ ตั้งแต่เวลา 10 นาฬิกา พร้อมกันนี้ได้มีการแสดงเจตนารมณ์ รวมถึงข้อเรียกร้องของการชุมนุม โดยมีนายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นตัวแทนออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมและรับหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าว

          โดยหลังจากรับหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าว นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ก็ได้ชี้แจง ถึงสาเหตุในการยุติการการออกอากาศละคร “เหนือเมฆ 2”  ซึ่งก็เป็นไปตามแถลงการณ์ที่เคยว่าไว้ ว่าทางช่อง 3 ได้พิจารณาแล้วว่าละครเรื่องนี้ มีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสม แต่ถ้าจะให้ชี้แจงว่าเรื่องราวที่ไม่เหมาะสม ก็อาจนำไปสู่ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ หรือส่งผลกระทบต่อสถานีได้ ทั้งนี้ยืนยันว่ามีการเซนเซอร์มาตลอด สำหรับละครเรื่องนี้ก็เช่นกัน ซึ่งผู้บริหารเห็นแล้วว่าไม่เหมาะสม    

          ซึ่งการชี้แจงดังกล่าว สร้างความไม่พอให้กับผู้ชุมนุมบางส่วน เพราะเป็นเนื้อหาเก่าที่ชี้แจงไปแล้ว ส่วนการที่ผู้ชุมนุมบางส่วน ตะโกนโต้แย้ง อาทิ “อย่าโกหกคนดูเลยดีกว่า” “ช่อง 3 รู้สึกผิดบ้างไหมที่ทำต่อผู้ชม” “ห่วงสัมปทานมากกว่าความถูกต้องของสื่อใช่หรือไม่” แต่การโต้แย้งก็ยุติลงเทื่อผู้นำการชุมนุมเข้ามาไกล่เกลี่ย

          อย่างไรก็ตาม นายบริสุทธิ์ ชี้แจงต่อว่า เรื่องที่เป็นผลกระทบต่อการออกอากาศของสถานี จะต้องระมัดระวัง แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสัมปทาน ซึ่งสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ถ้ามีอะไรที่เห็นว่าผิดระเบียบผิดกฎหมาย ก็ต้องควบคุม และระมัดระวัง ส่วนที่กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสทช.) จะเรียกช่อง 3 ไปชี้แจง รวมทั้งนำเทปที่ถูกตัดออกไปตรวจสอบนั้น ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือมาถึงสถานี แต่ถ้ามีมาก็คงจะชี้แจงไม่ต่างจากเดิม และจากนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยยืนยันว่าจะไม่นำละครเรื่อง “เหนือเมฆ 2” กลับมาออกอากาศอีก

         สำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องดังกล่าว เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2556 จาก จากการพูดคุยของสมาชิกในเว็บบอร์ด พันทิปดอทคอม จนกระทั่งเรื่องดังกล่าวลุกลามและกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และในวันที่ 4 มกราคม 2556 ก็เป็นที่ชัดเจน เมื่อช่อง 3 ออกแถลงการณ์ในการยุติการฉายละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ตามที่มีกระแสข่าวออกมา 

          โดยในช่วงค่ำของวันที่ 4 ม.ค. 2556 สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ได้ขึ้นตัวอักษรวิ่งชี้แจงผ่านหน้าจอโทรทัศน์ระบุว่า “ขออภัยท่านผู้ชมที่ต้องงดออกอากาศ ละครเหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์ในวันที่ 4 ม.ค. เนื่องจากทางสถานีพิจารณาแล้วพบว่า เนื้อหาละครบางช่วงบางตอนไม่เหมาะสมกับการออกอากาศ และขอเชิญชมละครเรื่องใหม่ แรงปรารถนา นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และคิมเบอร์ลี แอน เทียมศิริ เสนอคืนนี้เป็นตอนแรก”

          ทั้งที่ กำหนดการเดิมของละครเรื่องเหนือเมฆ 2 จะต้องออกอากาศด้วยกันทั้งหมด 13 ตอน โดยจะถึงตอนอวสานในวันอาทิตย์ที่ 6 ม.ค.2556 แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ต้องออกอากาศเพียง  9 ตอน และต้องยุติการฉายในวันที่ 30 ม.ค.2556 โดยไม่มีตอนจบ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนละครเรื่องดังกล่าว รวมถึงสังคมส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ต่อต้าน การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เรื่องของการเมืองในที่สุด

          นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ออกมาปฏิเสธเป็นรายแรกๆ  ถึงการตั้งข้อสังเกตจากสังคมออนไลน์ว่าการตัดจบละครเรื่องดังกล่าว เป็นเพราะมีบุคคลทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง  โดยนายวราเทพ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เนื่องจากการจบของละครเรื่องดังกล่าว อาจเป็นการจบโดยเนื้อหาของละครเองก็เป็นได้  พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แม้ตนจะเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงาน อ.ส.ม.ท. ซึ่งช่อง 3 เป็นคู่สัญญาของอ.ส.ม.ท.ก็ตามที

          เช่นเดียวกับ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีดังกล่าวโดยยืนยันว่า ไม่มีการสั่งแทรกแซงละครเรื่องดังกล่าวแน่นอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน และไม่มีใครในรัฐบาลรู้เรื่องนี้เลย

          แต่การออกมาปฏิเสธ และให้เหตุผลของบุคคลทางฝากฝั่งรัฐบาลก็ไม่ทำให้ เรื่องดังกล่าวดีขึ้น ทั้งนี้สังคมส่วนใหญ่ก็ยังมองว่าเรื่องดังกล่าว มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างได้จาก ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการงดออกอากาศละครเรื่อง “เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์” ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กับคำถามที่ว่า การงดออกอากาศของละครเรื่อง เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ มีเหตุผลในการงดออกอากาศเพียงพอหรือไม่ ประชาชนโดยส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 92 แทบตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีเหตุผล

          และที่สะท้อนถึงความคิดเห็นของสังคมได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ประชาชน ร้อยละ 77 คิดว่าการงดออกอากาศของละครเรื่องเหนือเมฆ 2 มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาล นอกเหนือจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศแล้ว การระงับการออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 ก็ได้รับความสนใจจากสื่อจากต่างประเทศเช่นเดียวกัน 

          โดยสื่อต่างประเทศจากหลายสำนัก ทั้ง เอเอฟพี  เอพี   วอลสตรีทเจอร์นัล และสถานีโทรทัศน์ NEW Asia ของสิงคโปร์ ต่างนำเสนอข่าวกรณีดังกล่าว รวมทั้งปฎิกิริยาของผู้ชมคนไทยที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ จำนวนมากที่ปรากฏบนโซเชียลมีเดีย ส่วนเอพีรายงานว่า ความเห็นประชาชนที่ปรากฏบนโซเชียลมีเดีย ระบุว่า มีคนดูกลุ่มหนึ่งที่ขู่แบนช่อง 3 เพื่อแสดงจุดยืนความไม่พอใจในกรณีระงับการออกอากาศละคร เหนือเมฆ 2

          ขณะที่วอลสตรีทเจอร์นัล รายงานข่าวว่า ละครเหนือเมฆ2 มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักการเมือง ถูกยกเลิกการออกอากาศเช่นเดียวกับ สถานีโทรทัศน์อัลจาซีเราะห์ สื่อยักษ์ใหญ่ของโลกอาหรับ ได้รายงาน ถึงปรากฏการณ์ละครเหนือเมฆ 2 ที่ถูกระงับการออกอากาศ  โดยนายเวย์น เฮย์ ผู้สื่อข่าวของสื่อดังกล่าวรายงานจากกรุงเทพมหานคร โดยมีฉากหลังเป็นทำเนียบรัฐบาล 

          ซึ่งในรายงานกล่าวว่า แม้จะเหลือเพียงตอนเดียวเท่านั้น ละครเหนือเมฆ 2 ก็จะถึงจบ แต่ละครเหนือเมฆก็ต้องถูกสั่งให้ยุติการเผยแพร่ โดยสถานีต้นสังกัดคือ ช่อง 3 ให้เหตุผลว่าตอนอวสานของละครเรื่องนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวอัลญะซีเราะห์ ระบุด้วยว่า ความโปร่งใสในเมืองไทยนั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยาก โดยจากกรณีการระงับการออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 นั้น ช่อง 3 ใช้เวลาถึง 5 วัน กว่าที่จะออกมาแถลงถึงเหตุผลของการระงับการออกอากาศ และอ้างว่าไม่มีการแทรกแซงจากฝั่งการเมือง ซึ่งช่องว่างดังกล่าวเปิดให้สังคมคาดเดาถึงสาเหตุของการระงับออกอากาศไปได้ต่างๆ นานา

          อย่างไรก็ตาม จากเรื่องดังกล่าว นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง ถึงเหตุผลในการปลด ละครเรื่องเหนือเมฆ 2 เพียงสั้นๆ ว่า สาเหตุที่ต้องงดออกอากาศเรื่องดังกล่าวนั้น เนื่องจากตัวบทมีเนื้อหารุนแรง โดยยืนยันอีกด้วยว่า ไม่ได้มีคำสั่งทางการเมืองให้ระงับแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางช่อง 3 พร้อมที่จะชี้แจงกับ กสทช. ถึงเรื่องดังกล่าว และจะไม่มีการนำละคร เหนือเมฆ 2 กลับมาฉายอีก พร้อมทั้งจะไม่โพสต์ละครเรื่องดังกล่าวลงในยูทูบ หรือ ทำเป็นซีดีขาย

 

ขอบคุณ ภาพและข่าว จาก http://www.tnews.co.th/html/news/49360/#.UPPz_SdwqSp

 

สำนักข่าว 
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน