วันอังคาร, 7 พฤษภาคม 2567

บวชป่า ร่วมใจเทิดไท้องค์ราชันที่สันป่าตอง

Spread the love

บวชป่า ร่วมใจเทิดไท้องค์ราชันที่สันป่าตอง

 

วันที่ 28 ตุลาคม 2555 เวลา 09.00น. พลตรีชัยพฤกษ์ อัยยะภาคย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พันตรีอนสรณ์ เชียงแรง ผู้ประสานงานโครงการ พันตำรวจเอกพิษณุ อุณหเสรี ผกก.สภ.สันป่าตอง ร่วมเป็นประธานในโครงการบวชป่าชุมชนคนถิ่นไทย ร่วมใจเทิดไท้องค์ราชัน ณ ป่าชุมชนบ้านโรงวัว ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

ด้วยชุมชนบ้านน้ำบ่อหลวง เป็นชุมชนที่อยู่กับป่า อาศัยผืนป่าในการดำรงชีวิตประจำวันและได้มีการดูแลป่าจัดการทรัพยากรธรรมชาติด้วยวัฒนธรรม ภูมิปัญญา จากบรรพบุรุษมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอีกหลายชุมชนโดยมุ่งเน้นการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการฟื้นฟู อนุรักษ์ และจัดการ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างยั่งยืนรวมถึงมีการกำหนด กฎระเบียบการจัดการทรัพยากรป่าชุมชน การทำแนวกันไฟ การบวชป่า การอนุรักษ์พันธ์ไม้ สัตว์น้ำและสัตว์ป่า ทั้งในระดับชุมชนและเครือข่ายมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงได้มีการจัดงานบวชป่าขึ้นเพื่อเป็นการฟื้นฟู อนุรักษ์ คุ้มครองระบบนิเวศน์และผืนป่ารวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยผืนป่าแห่งนี้ได้รับความคุ้มครองดูแลจากคนในชุมชน และเพื่อร่วมโครงการบวชป่าชุมชนคนถิ่นไทยร่วมใจเทิดไท้องค์ราชัน เป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 นี้ด้วย

ซึ่งในผืนป่าแห่งนี้ มีการสร้างฝายเพื่อรองรับน้ำ ในฤดูน้ำหลาก เก็บกักน้ำในฤดูแล้ง เพื่อให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติน้อยที่สุด มีการทำฝายจากภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยนำยางรถยนต์ที่ไม่ใช้แล้ว มาก่อเป็นรูปปีรามิด ปักหลักไม้ล้อมรอบยางรถยนต์ เพื่อความแข็งแรง แล้วนำดินใส่ลงไป ปลูกหญ้าแฝก ต้นไผ่ซาง ทำเป็นแนวห่างกันเป็นระยะ ตั้งแต่ต้นน้ำลงมา ช่วยชะลอน้ำและเบรกทราย ในฤดูน้ำหลาก ลดการถูกทำลายของผืนป่า ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านจาก นายรุจิสมบัติ เงาคำ ปราชญ์ชุมชนเครือข่ายห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อรักษาผืนป่าแห่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ประมาณ 3,000 กว่าไร่ ให้อุดมสมบูรณ์ต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน

และสืบเนื่องจากโครงการนี้ ทางพลตรี ชัยพฤกษ์ อัยยะภาคย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้มีนโยบายที่จะขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นในหมู่บ้านใช้พื้นที่ประมาณ 16 ไร่  เพื่อให้ชาวบ้านได้มีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดปี  ซึ่งในปัจจุบันนี้ ชาวบ้านยังเดือดร้อนที่ไม่มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ถือว่าเป็นการบูรณาการอย่างครบวงจร เพื่อป่าผืนสุดท้ายของสันป่าตอง

[nggallery id=1]

 

รพิรัตน์ สุขแยง รายงาน

สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ