ทริปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน อินเดีย-เนปาล และกาฐมาณฑุ 7คืน 8วัน
(BUDDHIST TOUR INDIA NEPAL)
สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งได้แก่ พุทธคยา : สถานที่ตรัสรู้ / สารนาถ : สถานที่ปฐมเทศนา / กุสินารา : สถานที่ปรินิพพาน / ลุมพินี – สถานที่ประสูติ
และพลาดไม่ได้กับการเที่ยวชมเมืองกาฐมาณฑุ แหล่งมรดกโลกของประเทศเนปาลถึง 6 สถานที่ ได้แก่ เมืองภักตะปูร์ Bhakatapur durbar square / วัดสวยัมภูวนาถ Swayambhunath temple / จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์Kathmandu durbar square / เมืองปาตัน Patan durbar square / วัดปศุปฏินาถ Pashupatinath temple / มหาเจดีย์พุทธนาถ Boudhanath Stupa /
และส่งท้ายทริป ด้วยการชมเทือกเขาหิมาลัยจาก Nagarkot อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พร้อมเสิร์ฟคุณต้อนรับปีใหม่ 2024 เริ่มต้นชีวิตดี๊ดี ไปครั้งเดียวได้ถึงสองประเทศ อิ่มบุญกับ 4 สังเวชนียสถาน อิ่มใจกับความสวยงามชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาหิมาลัยและชมมรดกโลกหลายแห่งที่เนปาล เตรียมตัวแพ็คกระเป๋าได้เลยค่ะ
เดินทางไป วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567
โดยสายการบินไทย เวลา 12:20-14:00 น. (BKK-GAY) กรุงเทพ-คยา
เดินทางกลับ วันพุธที่ 6 มีนาคม 2567
โดยสายการบินไทย เวลา 13:30-18:15 น. (KTM-BKK)กาฐมาณฑุ-กรุงเทพ
28 กุมภาพันธ์ 2567
Day 1 : เดินทางโดยสายการบินไทยจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบิน คยาประเทศอินเดีย เวลา 12:20-14:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เดินทางเข้าโรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย เตรียมตัวทำวัตรเย็น ณ วัดมหาโพธิ มหาวิหาร (Mahabodhi Mahavihara Temple) รับประทานอาหารเย็น พัก โรงแรม Anad Hotel / Bodhgaya Regency Hotel / Similar Hotel
29 กุมภาพันธ์ 2567
Day 2 : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางไปวัดไทย(1.พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้)เพื่อร่วมถวายดอกไม้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สวดมนตร์ทำวัตรเช้า ถวายข้าวปายาสและผ้าองค์พระพุทธเมตตา,เยี่ยมชมพุทธคยา ถวายอาหารเพล ผ้าไตร สังฆทาน เครื่องบริขาร และปัจจัย แด่พระภิกษุ เที่ยง รับประทานอาหารที่โรงแรม,บ้านนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาสแก่พระโพธิสัตว์ก่อนตรัสรู้ เยี่ยมชมวัดไทยหลายแห่งในพื้นที่พุทธคยา สถานที่จะถูกจัดสรรตามเวลา ตอนเย็นสวดมนต์ทำวัตรเย็น หลังจากนั้น รับประทานอาหารเย็นพักที่โรงแรม Anad Hotel / Bodhgaya Regency Hotel / Similar Hotel หรือใกล้เคียง
1 มีนาคม 2567
Day 3: รับประทานอาหารเช้า เตรียมออกเดินทางไปยัง(2. สารนาถ Sarnath) สถานที่แสวงบุญทางพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเพราะเป็นสถานที่ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาและเยี่ยมชมเมืองพาราณสี(Varanasi) ล่องเรือชมบรรยากาศสองผั่งน้ำ (ลอยประทีปสักการะพระแม่คงคา ตามอัธยาศัย) รับประทานอาหารเย็น พัก โรงแรม HHW BUDDHA LINEAGE หรือใกล้เคียง
2 มีนาคม 2567
Day 4: รับประทานอาหารเช้า เดินทางสู่(3. เมืองกุสินารา Kushinagar) เยี่ยมชมสถานที่ปรินิพพาน ถวายผ้าห่มองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าปางปรินิพาน รับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย พักโรงแรม Hotel om residency / Hotel Leela
3 มีนาคม 2567
Day 5: รับประทานอาหารเช้าเสร็จเดินทางจากกุสินาราสู่(4.ลุมพินีสถานที่ประสูติ วัดมายาเทวี (Maya-Devi) สวดมนต์นั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์ เยี่ยมชมวัดไทยและวัดต่าง ๆ ในลุมพินี ช่วงเย็นรับประทานอาหารเย็น พัก โรงแรม Lumbini Bhairahawa Hotel / Siddharthanagar Nepla หรือใกล้เคียง
4 มีนาคม 2567
Day 6: เช้าวันนี้เราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปสนามบินเพื่อบินไปยัง กาฐมาณฑุ (เนปาล) สมาชิกต้องพร้อมออกจากโรงแรมเวลา 6:30 am เพื่อไปเช็คอินที่สนามบิน 7:30 am ไฟล์ทบิน BWA-KTM เวลา 9:00-9:35 am ถึงสนามบินตรีภูวัน รับประทานอาหารเช้า เสร็จแล้วเดินทางชม (1.เมืองภักตะปูร์ Bhakatapur durbar square) ในหุบเขากาฐมาณฑุเป็นเมืองโบราณสามเมือง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกครองโดยอิสระโดยกษัตริย์มัลละ ได้แก่ กาฐมาณฑุ ปาตัน และภักตะปูร์ ในการเดินทางวันนี้ เยี่ยมชมเมืองเมืองบักตาปูร์เมื่อมาเยือนบักตาปูร์แล้ว สัมผัสประสบการณ์การย้อนเวลากลับไปในอดีตอย่างช้าๆ ด้วยถนนหนทางและสถาปัตยกรรมที่ยังคงรักษาเสน่ห์แบบเก่าที่ทำด้วยอิฐ ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับมรดกทางศาสนาที่มีร่วมกันของพวกเขา จากภูมิหลังของศาสนาพุทธและฮินดู ทั้งปาตันและบักตาปูร์ต่างมั่งคั่งไปด้วยวัด ศาลเจ้า เทวรูป และประติมากรรมเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพเจ้าของพวกเขา หลังจากนั้นเข้าชม (2.วัดสวยัมภูวนาถ Swayambhunath temple) หรือ วัดลิง เป็นวัดสำคัญทางพุทธศาสนา ตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันตกของเมืองกาฐมาณฑุ เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 2,500 ปี จุดเด่นของวัดนี้ก็คือ เจดีย์สยมภูวนาถ เจดีย์เก่าแก่ที่บริเวณยอดฐานจะมีรูปดวงตาของพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวเนปาลมีความเชื่อว่า พระเนตรของพระพุทธเจ้ายังคงมองดูโลกมนุษย์ และมีจุดระหว่างคิ้วเป็นเหมือนดวงตาที่ 3 หรือดวงตาแห่งธรรม รวมถึงเลข ๑ ตรงจมูกที่หมายถึงความเป็นหนึ่งหรือเอกภาพนั่นเอง สาเหตุที่เรียกวัดแห่งนี้กันว่า วัดลิง ก็เพราะทั่วบริเวณวัดจะเต็มไปด้วยลิงที่ลงมาเก็บเมล็ดข้าวที่คนนำมาถวายวัดเป็นอาหารนมัสการเจดีย์สยมภูวนาถนั่นเอง หลังจากนั้นเดินทางเยี่ยมชม (3.จัตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์Kathmandu durbar square) เป็นหนึ่งในสามจัตุรัสดูร์บาร์ในหุบเขากาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ทั้งหมดเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกจตุรัสนี้มีทั้งน้ำพุ รูปปั้นโบราณ สระน้ำ ลานกว้างสถานที่สำคัญในจตุรัสกาฐมาณฑุดูร์บาร์มีดังนี้ วังกุมารี (Kumari Bahal) รับประทานอาหารเย็น ช้อปปิ้งของฝากย่าน Thamel พักโรงแรมกาฐมาณฑุ The Milestone Hotel
5 มีนาคม 2567
Day 7: หลังรับประทานอาหารเช้าเดินทางเยี่ยมชม (4.เมืองปาตัน Patan durbar square) จตุรัสปาฏัน มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามและรอบล้อมไปด้วยวัดวังต่างๆซึ่งเป็นที่ประทับของเทพเจ้าหลายองค์ จตุรัสนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลลิตปูร์ บนที่ราบเลียบแม่น้ำบักมาติ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจตุรัสนี้คือ Hiranya Varna, Mahavihar, วัด Mahaboudha, วัดกฤษณะ และพิพิธภัณฑ์ปาฏัน วัดกฤษณะเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์หนึ่งเดียวของเนปาลที่มีเทวสถาน 21 แห่งที่ทำมาจากหิน เมืองปาฏันนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสามเมืองหลักในกาฐมาณฑ หลังจากนั้นเยี่ยมชม (5.วัดปศุปฏินาถ Pashupatinath temple) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันออก 5 กิโลเมตร บนริมฝั่งแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ภัคมาติ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลไปรวมกับแม่น้ำคงคา เป็นวัดสำคัญทางศาสนาฮินดูที่มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม จุดเด่นอยู่ที่หลังคาสีทอง 2 ชั้น ที่นี่เป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญประจำปีของชาวฮินดู มหาศิวะราตรี หลังจากนั้นเยี่ยมชม (6.มหาเจดีย์พุทธนาถ Boudhanath Stupa) เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาล และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองกาฐมาณฑุห่างออกไป 7 กิโลเมตร อยู่ในหมู่บ้านชาวธิเบตที่อพยพมา ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญในพุทธศาสนานิกายมหายาน จุดเด่นของที่นี่นอกจากเจดีย์ขนาดใหญ่แล้ว ตามบ้านเรือนรอบๆ วัดจะประดับไปด้วยธงทิวสีต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศนั่นเอง หลังจากนั้นเดินทางไป เทือกเขานากาก็อต (Nagarkot) ชมพระอาทิตย์ตกดินและรับประทานอาหารเย็นพักโรงแรม Gauri Shankar Hotel Nagarkot
6 มีนาคม 2567
Day 8: ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Nagarkot อีกหนึ่งไฮไลท์ของเนปาล ก็คือ เทือกเขานากาก็อต (Nagarkot) เป็นยอดเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,164 เมตร ซึ่งจากเทือกเขานี้ สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นจุดชมเทือกเขาหิมาลัยที่ใกล้กรุงกาฐมาณฑุที่สุด เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยออกจากโรงแรมประมาณ 10:30 น. ไฟล์ทบิน เวลา 13:30-18:15 น.โดยสายการบินไทย
ราคา 10 ท่าน ท่านละ 37,000 บาท
ราคา 20 ท่าน ท่านละ 34,900 บาท
ราคา 30 ท่านขึ้นไป ท่านละ 32,900 บาท
ราคานี้รวม – ค่าวีซ่าประเทศอินเดีย ประเทศเนปาล / ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ลุมพินี-กาฐมาณฑุ (BWA-KTM) / ค่าพาหนะทุกสถานที่ ตั้งแต่รับที่สนามบินและส่งสนามบินในวันกลับ / อาหารทุกมื้อและมีอาหารไทยเสริมในบางมื้อทั้งอินเดียและเนปาล / ค่าโรงแรมทั้งในประเทศอินเดียและเนปาล / ค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ ทั้งประเทศอินเดียและเนปาล / สตาฟไทยดูแลทั้งประเทศอินเดียและเนปาล
ราคานี้ไม่รวม – ทิปไกด์ / ทิปคนขับรถ / ทิปคนขนกระเป๋า / ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเช่นค่าซิมการ์ด ทั้งประเทศอินเดีย และเนปาล / ค่าช้อปปิ้ง / เครื่องดื่มบาร์ / ค่าฝากโทรศัพท์ด้านหน้าวัดพุทธคยา / ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ การบินไทยราคาประมาณ 17,XXX บาท ถ้าลูกค้าท่านไหนไม่สะดวกจองเอง ฝากทางทีมงานจองให้ได้ค่ะ
ทริปนี้เปิดจอง 2 รอบนะคะ ถ้าใครที่ไม่ทันรอบนี้ เตรียมตัวอีกครั้งช่วงเดือน พฤศจิกายน 2567 ค่ะ
Presented By : Namaste trekking (Marketing From Thailand By Peak To Peak Tours And Treks ) Registration No. 204715/075/076 Nepal
แอดไลน์มาสอบถามรายละเอียดได้ค่ะ https://line.me/ti/p/VrKukjVCvs
หรือ โทรฝ่ายการตลาด : 096 913 6342 คุณนก / 088 268 1119 คุณเก๋ ID line 0882681119/ 094 939 1515 คุณแนน ID Line @twq1143w