วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

ติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาหมอกควันเชียงใหม่

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาหมอกควัน

จังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยเน้นย้ำให้เร่งสร้างความชุ่มชื้นให้อากาศ และนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด

การประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำให้เร่งสร้างความชุ่มชื้นให้อากาศ และนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้โดยเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่  17 มี.ค.57 ที่ผ่านมา  เวลา 15.00 น. นายชนะ  แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ณ ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ อาคารอำนวยการ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่  เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอที่เกิดจุด Hotspot สะสมจำนวนมาก ประกอบด้วย อำเภออมก๋อย แม่แจ่ม ฮอด เชียงดาว  ตามลำดับ ซึ่งจากการรายงานของผู้แทนทั้ง 4 อำเภอพบปัญหาอุปสรรคในการเข้าปฏิบัติงานดับไฟป่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขาสูง อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้การเดินทางเข้าไปปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความลำบาก และต้องใช้เวลามาก ส่งผลทำให้บางพื้นที่อาจเกิดไฟป่าลุกลามขยายวงกว้าง ประกอบกับจำนวนบุคลากรในการเข้าปฏิบัติงานไม่เพียงพอ ส่วนการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทุกอำเภอได้เข้าไปชี้แจง ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยตรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จึงได้สั่งการให้มีการปรับแผนการปฏิบัติงานโดยมอบหมายให้มีการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียงโดยนำกำลังเจ้าหน้าที่และวัสดุอุปกรณ์จากพื้นที่ที่ไม่เกิดจุด Hotspot ไปสนับสนุนพื้นที่ที่เกิดเหตุ มีการเร่งสร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่เขตชุมชนเมืองเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ และนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด โดยหากพบการกระทำผิดให้จับกุมดำเนินคดีและประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายและหอกระจายข่าวเพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านทราบพฤติกรรมดังกล่าวด้วย นอกจากนั้นให้เร่งขยายพื้นที่การให้ความรู้ประชาชนในการนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาทำเป็นปุ๋ยหมัก ซึ่งจะสามารถช่วยลดปริมาณของเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่ที่สามารถเกิดเป็นเชื้อเพลงขึ้นได้

คณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นย้ำให้เร่งสร้างความชุ่มชื้นให้อากาศ 25 อำเภอ โดยจังหวัดเชียงใหม่จะจัดกิจกรรมและจะสนับสนุนรถน้ำจากท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ ทางมณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดชุดรณรงค์ให้ความรู้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการป้องกันและแก้ไขหมอกควันและไฟป่า ทางด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งไปยังอำเภอต่างๆ ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง ในที่ที่มีค่าฝุ่นละอองในอากาศมาก เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ใหญ่บ้านชาวบ้านร่วมกันบูรณาการกันช่วยกันลดปัญหาหมอกควันและไฟป่า และการขอสนับสนุนกองบิน 41 ในการใช้เครื่องบินโปรยน้ำในพื้นที่ที่เกิดปัญหา และมาตรการด้านกฎหมาย ให้รางวัลกับคนที่แจ้งเหตุ รางวัลนำจับ จากกองทุนแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ 5,000 บาท ทางด้านกรมอุตุวิทยา ได้พยากรณ์อากาศว่าในวันที่ 21-23 มีนาคม 2557 อันเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน กับประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

สำหรับคุณภาพอากาศในพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ (17 มี.ค.57) พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 25 – 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี ถึง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้ามากนักโดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่พบค่า PM10 จำนวน 113 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 96 ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10จำนวน 160 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 118 และที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นสถานีตรวจวัดเคลื่อนที่ พบค่า PM10 จำนวน 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่าAQI วัดได้ 31

โดยเมื่อวันที่ 16 มี.ค.57  มีรายงานสถิติการรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับ ไฟป่า จำนวน 35 ครั้ง ในพื้นที่ 11 อำเภอ พื้นที่ป่าเสียหาย 458 ไร่ ส่วนสถิติการเกิดไฟป่าสะสมจนถึงเมื่อวานนี้ พบเกิดขึ้น 549 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 5,026.50 ไร่ สำหรับจุด Hot spot ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้มีจำนวน 119 จุด โดยเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 47 จุด พื้นที่ป่าสงวน 70 จุด และพื้นที่เกษตร 2

ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะเศษวัสดุการเกษตรและกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ขอให้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวิธีการป้องกันตนเองที่ถูกต้องให้กับประชาชนด้วย ข้อแนะนำด้านสุขภาพเด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวนหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์

 

 

ำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน