กรณีเหตุการณ์สุดอนาจารที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ จากกรณีมีพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ หนุ่ม-สาว ทำอนาจาร บริเวณด้านหลังเจดีย์เก่าแก่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับถนนช้างเผือก ซึ่งต่อมาได้มีการส่งภาพเหตุการณ์ไปยังเพจดังในเชียงใหม่ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้เข้าทำการลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำการจับกุมตัวหญิงชายที่ปรากฎภายในคลิปดังกล่าว ได้ทันควัน ก่อนจะทำการควบคุมตัวไป สภ.ช้างเผือก เพื่อทำการสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ฝ่ายชายอายุ 48 ปี เป็นชาว จ.ลำพูน และฝ่ายหญิงอายุ 42 ปี ชาว จ.ลำปาง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป
ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทาง หญิงและชายที่ปรากฎภายในคลิปดังกล่าว ทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นบุคคลเป็นที่ปรากฎในคลิปจริง แต่ไม่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ซึ่งขณะการสอบสวนพบว่า ฝ่ายชายมีลักษณะอาการมึนเมาสุรา อีกทั้งยังมีการพูดจาท้าทายผู้สื่อข่าว บอกว่า อยากถามอะไรก็ถามมา พร้อมจะตอบคำถาม อีกทั้งยังระบุว่า “ฝ่ายหญิง ทำงานขายบริการอยู่ที่ท่าแพ” และได้นัดกันมาพักผ่อนที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะมีคนเห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิป และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกจับกุมในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งความผิดข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
ขณะที่ภายหลังการสอบสวน ทางด้านผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ได้ให้การยอมรับในที่สุด โดยฝ่ายชายบอกว่า เคยเป็นแฟนเก่าของหญิงคนดังกล่าว และในวันนี้ได้มาเจอกัน จากนั้นจึงได้ไปแอบมีอะไรกัน ที่บริเวณด้านหลังเจดีย์ โดยไม่คิดว่าจะมีคนเห็น เนื่องจากด้านหลังเป็นที่ลับตา และส่วนตัวก็ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ที่โบราณสถาน ซึ่งทางตนกับฝ่ายหญิง ก็อยากขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอโทษชาวเชียงใหม่ที่กระทำการในลักษณะดังกล่าวไป จนกลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีก.