วันศุกร์, 3 พฤษภาคม 2567

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมผู้ประกอบการซิปไลน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งตรวจสอบเข้มมาตรฐานความปลอดภัย

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมผู้ประกอบการซิปไลน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งตรวจสอบเข้มมาตรฐานความปลอดภัย หลังเกิดกรณีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ พร้อมให้ทุกอำเภอนำเครื่อง GPS ตรวจสอบพิกัดที่ตั้งเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับทางป่าไม้ หากพบมีการบุกรุกใช้พื้นที่ป่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย

DSC_0019

วันนี้(14 ต.ค.58) เวลา 09.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางและกำหนดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย โดยเฉพาะการเล่นโหนสลิง หรือ ซิปไลน์ (Zip Line) ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประกอบการซิปไลน์ 14 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ขึ้นทะเบียนไว้ หลังจากเกิดกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนเสียชีวิตจากการเล่นซิปไลน์ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.58 ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมหารือในครั้งนี้ เนื่องจากกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เสียชีวิตจากการเล่นซิปไลน์ในพื้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับพนักงาน 2 คน ของผู้ประกอบการซิปไลน์ดังกล่าวแล้วในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยทั้ง 2 คนได้เข้ามอบตัวแล้วเช้าวันนี้ ทั้งนี้สิ่งที่ทางจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการต่อไปก็คือการเร่งรัดดำเนินคดีให้เสร็จภายใน 15 วัน และจะมีการเร่งรวบรวมเงินชดเชยเยียวยาเบื้องต้นจากทุกส่วนเพื่อมอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตในต้นสัปดาห์หน้า โดยจะมอบให้กับญาติที่เดินทางมาเชียงใหม่ หรือผ่านทางกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ประเด็นสำคัญที่สุดหลังจากเกิดกรณีนี้แล้วคือจะต้องทำการตรวจสอบเครื่องเล่นซิปไลน์ที่มีการเปิดให้บริการทั้งหมดในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ว่ามีความปลอดภัยและได้มาตรฐานหรือไม่ ทั้งมาตรฐานอุปกรณ์และบุคลากรที่ให้บริการ เนื่องจากปัจจุบันการเล่นซิปไลน์เป็นที่นิยมอย่างมาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจะมีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมอาคาร ที่จะต้องให้มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบรับรองให้ก่อนที่จะมีการขออนุญาตของท้องถิ่น ซึ่งเวลานี้กำลังเร่งรัดดำเนินการ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ทุกอำเภอนำเครื่อง GPS เข้าทำการตรวจสอบพิกัดที่ตั้งของผู้ประกอบการซิปไลน์ทั้งหมดว่ามีการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าหรือไม่ โดยน่าจะทำการตรวจพิกัดแล้วเสร็จในวันนี้แล้วจะนำไปเปรียบเทียบกับพิกัดของป่าไม้ ซึ่งหากพบว่ามีการใช้พื้นที่ปาโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

CNX NEWS รายงาน

DSC_0019 DSC_0022 DSC_0024


จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมการกำหนดแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวของจังหวัดในสถานการณ์วิกฤติ

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมการกำหนดแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวของจังหวัดในสถานการณ์วิกฤติ

ImageProxy

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมการกำหนดแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวของจังหวัดในสถานการณ์วิกฤติ และสร้างการรับรู้ แก่ประชาชนในการช่วยสอดส่องดูแลในที่สาธารณะ

วันนี้ 20 สิงหาคม 2558 ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 5 อาคารอำนวยการศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 13.30 น . นายมนตรี ปิยากูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมการกำหนดแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในสถานการณ์วิกฤติ โดยมีหน่วยงานราชการ เอกชน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า เข้าร่วมประชุม เนื่องจากสถานการณ์เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในที่ประชุมได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อให้นักท่อเงเที่ยวต่างชาติ มีความเชื่อมั่นสูงต่อประเทศไทย โดยได้มีการกำหนดแนวทางด้านมาตรการป้องกัน จัดตั้งศูนย์ประสานงานสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย และการแจ้งให้สานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการ เช่น โรงแรม สถานบริการ ห้างสรรพสินค้า กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง และจัดชุดปฏิบัติการณ์แก้ไขสถานการณ์หากมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้มีสภาพใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดกำลังตำรวจ ตำรวจท่องเที่ยวและอาสาสมัคร ตรวจตราแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สนามบิน สถานีขนส่ง อย่างเข้มงวด และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ แก่ประชาชน ช่วยสอดส่องในที่สาธารณะ เช่น การวางสิ่งของที่ไม่มีเจ้าของที่ทิ้งไว้นาน สังเกตตามถังขยะ หรือคนแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย และมาตรการณ์แก้ไขสถานการณ์หากเกิดสถานการณ์ ให้มีศูนย์แจ้งเหตุ ชุดปฏิบัติการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบแหตุ หน่วยประสานงานของโรงพยาบาลต่างๆ จัดตั้งศูนย์ War Room ของสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ศูนย์แก้ไขปัญหาการหลวกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม จัดเตรียมที่พักสำรองให้นักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บ การรายงานสถานกาณณ์ จะต้องมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อมูลก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จริงเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อเป็นการเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในจังหวัดเชียงใหม่.

CNX NEWS รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมวางแผนการบิน ภารกิจสลายหมอกควัน

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมวางแผนการบิน ภารกิจสลายหมอกควัน 

 

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมวางแผนการบิน ภารกิจสลายหมอกควัน เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมวางแผนการบิน ภารกิจสลายหมอกควัน เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยจะเน้นสร้างความชุ่มชื้นในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลดความเข้มข้นของหมอกควัน

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น.นายชนะ  แพ่งพิบูลย์ เป็นประธานในการประชุมวางแผนการบิน ภารกิจสลายหมอกควัน เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ณ ห้องประชุมกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมุ่งเป้าสร้างความชุ่มชื้น ลดความเข้มข้นของหมอกควัน เครื่องบินของกองทัพอากาศที่มาตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่กองบิน 41 ปฏิบัติการสนับสนุนช่วยเหลือ การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ดูในพื้นที่ที่เกิดจุด Hotspot อยู่ที่ อำเภออมก๋อย อำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอดเป็นส่วนใหญ่

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม ว่ายังเหลือจุดไหนเป็นจุดสำคัญ แต่ในวันนี้จะเริ่มดูพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่ให้มีความชุ่มชื้น ลดบรรยากาศหมอกควันให้น้อยลง สำหรับผลของการปฏิบัติการฝนหลวง โปรยสารเคมี ทำให้เกิดฝนตกมีผลทั้งจังหวัดลำพูน และลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งความกดอากาศที่แผ่ลงมาปกคลุมในพื้นที่ภาคเหนือ กับลมตะวันตกทำเกอดฝนตก พื้นที่ของท่าอากาศยานเครื่องบินสามารถขึ้นลงได้อย่างปกติ อีกประการหนึ่งคือ ขอความสนับสนุนเครื่องบินจากกองทัพอากาศเพื่อโปรยน้ำสร้างความชุ่มชื้น ในเขตจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับคุณภาพอากาศในพื้นที่เขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ (25 มี.ค.57) พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10ไมครอน(PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานแล้ว คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง หลังจากที่พบค่า PM10 โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่พบค่า PM10 จำนวน 282 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 171 ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10 จำนวน 17ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 21 โดยเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.57) มีรายงานสถิติการรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับ ไฟป่า จำนวน 10 ครั้ง ในพื้นที่ 6 อำเภอ พื้นที่ป่าเสียหาย 120 ไร่ ส่วนสถิติการเกิดไฟป่าสะสมจนถึงเมื่อวานนี้ พบเกิดขึ้น 721ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 6,933 ไร่ สำหรับจุด Hot spot ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้มีจำนวน 8 จุด โดยเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1 จุด พื้นที่ป่าสงวน 7 จุด ส่วนสถิติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 24 มีนาคม 2557 เกิดขึ้นรวม 1,600 จุด ในพื้นที่ 23 อำเภอ โดย 2 อำเภอที่ยังไม่เกิดจุด Hot spot เลย ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอสารภี

 

 

ำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมหารือการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมหารือการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว 

จังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมหารือความคืบหน้าการพัฒนาและฟื้นฟูข่วงหลวงเวียงแก้ว ของคณะกรรมการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว ครั้งที่ 1/2557 เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางในการพัฒนาและความคืบหน้า ข่วงหลวงเวียงแก้ว

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว ร่วมประชุมหารือการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว ประกอบด้วย 4 ประเด็น

1.การแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว

2.สรุปผลการศึกษา/การรับฟังความคิดเห็นการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว

3.การกำหนดแนวทางและกลไกการดำเนินงานเพื่อการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว

4.การกำหนดกิจกรรมและกรอบระยะเวลาดำเนินงาน เชียงใหม่ ได้มีการวางแผนที่จะพัฒนาเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในเขตตัวเมืองที่ควรได้รับการพัฒนา หนึ่งในนั้นคือ ข่วงหลวงเวียงแก้ว ซึ่งเป็นบริเวณของทัณฑสถานหญิงที่ถูกย้ายออกไปจากใจกลางเมืองเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว ทางสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการโครงการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว เพื่อระดมความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน สำหรับใช้ประกอบเป็นแนวทางในการดำเนินการพัฒนาฟื้นฟูข่วงหลวงเวียงแก้ว อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

การดำเนินการตามโครงการ มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางในการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว พร้อมสรุปความคิดเห็นต่อการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้วที่สามารถนำไปใช้ประกอบในการดำเนินการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้วต่อไป ผลจากการรับฟังความคิดเห็น ประมวลแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

1. ควรรื้อทัณฑสถานและบ้านพักราชการออก แต่ก่อนรื้อถอนควรจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปจัดแสดงเป็นนิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์

2. ปรับพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่โล่ง ปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้พื้นเมืองที่มีคุณค่า ทำเป็นสวนกว้าง เพื่อจัดงานพิธีการ งานแสดงสำคัญ

3.ควรมีการขุดค้นทางโบราณคดี โดยขุดสุ่มตรวจ หากพบส่วนใดที่มีความสำคัญทางโบราณคดี จึงทำการขุดค้น และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ และหน่วยงานควรหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อจัดการพื้นที่ต่อไป

4. พิจารณาจัดสร้างเวียงแก้วหรือหอพระ อาจสร้างนิทรรศการบนกำแพง หรือศาลาราย รวบข่วง เพื่อแสดงเรื่องราว 700 ปีเศษ ของการใช้พื้นที่ข่วงหลวงกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งรวมถึงการสร้างคุกเมื่อช่วงศตวรรษที่ผ่านมา

5.เสนอเป็นหลักการให้ผู้บริหารเมืองจัดทำโครงการต่อเนื่องเพื่อขยายพื้นที่นี้ออกไปให้กว้างขวางขึ้น

6. พื้นที่ข่วงหลวงควรใช้ประโยชน์เพื่อการจัดพิธี จิตวิญญาณ ศิลปวัฒนธรรม การผักผ่อน การศึกษา และนันทนาการต่างๆ แต่ไม่ควรอนุญาตให้จัดทำเป็นตลาดนัดหรือพื้นที่จัดจำหน่ายสินค้าตลอดเวลา เป็นต้น

ทั้งนี้จะดำเนินการอย่างไรนั้นต้องรอการพิจารณาอีกครั้งในภายหลัง การพิจารณาข่วงหลวงเวียงแก้วจะพัฒนาต่อไปอย่างไรนั้น ต้องให้ประชาชนเป็นผู้กำหนดและแสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกัน

 

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ ( ก.บ.จ. )

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ ( ก.บ.จ. )

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดการประชุมคณะกรรมการแบบบูรณาการ ( ก.บ.จ. ) เพื่อชี้แจงยุทธศาสตร์ประเทศ และยุทธศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ ( 10 ตุลาคม 2556 ) เวลา 10.00 น. นายวิเชียร  พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุม และนายฤทธิพงศ์   เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการประชุมคณะกรรมการแบบ      บูรณาการ ( ก.บ.จ. ) ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ที่ประชุมได้ชี้แจงยุทธศาสตร์ประเทศ โดยมีวิสัยทัศน์คือ ประเทศมีความสามารถในการแข่งขัน คนไทยอยู่ดี กินดี มีความเสมอภาคและความเป็นธรรม หลักการยุทธศาสตร์ประเทศคือต่อยอดรายได้จากฐานเดิม สร้างรายได้จากโอกาสใหม่ เพื่อความสมดุลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน วัตถุประสงค์คือ 1) รักษารายได้เดิมและสร้างรายได้ใหม่ 2) เพิ่มประสิทธิภาพของระบบการผลิต (ต้องผลิตสินค้าได้เร็วกว่าปัจจุบัน)  3) ลดต้นทุนให้กับธุรกิจ (ด้วยการลดต้นทุนค่าขนส่งและโลจิสติกส์) และมี 4 ยุทธศาสตร์หลัก 1) ยุทธศษสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 2) ยุทธศาสตร์สร้างโอกาสบนความเสมอภาคและเท่าเทียมกันของสังคม 3) ยุทธศาสตร์การเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4) ยุทธศาสตร์ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ

จังหวัดเชียงใหม่ มีวิสัยทัศน์คือ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง ( City of Life and Presperity ) เป็นเมืองที่มีความสุขและชีวิตที่มีคุณค่าแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนในฐานะเมืองน่าอยู่และน่าท่องเที่ยวระดับโลก ศูนย์กลางการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวสู่สากล และสังคมน่าอยู่บนพื้นฐานความสง่างามทางวัฒนธรรมล้านนา พันธกิจ 5 ด้านได้แก่

1) ด้านเศรษฐกิจ สร้างความมั่งคั่งยั่งยืน ตามแนวทางด้านเศรษฐกิจพอเพียง

2) ด้านสังคม ส่งเสริมชาวเชียงใหม่ให้มีความสุขดี มีการศึกษามีอาชีพมั่นคง โดยใช้หลักศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น และมีความพอเพียงในการดำเนินชีวิต

3) ด้านความมั่นคง ชุนชนเข้มแข็งสังคมสันติสุข พื้นที่ชายแดนมีความมั่นคงและปลอดภัย

4) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชาชนอยู่ดีมีสุขบนฐานทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์และยั่งยืน

5) ด้านบริหารจัดการ ประชาคมเชียงใหม่มีส่วนร่วมพัฒนาธรรมาภิบาล และองค์กรภาครัฐ มีขีดสมรรถนะและระบบที่ทันสมัยพึงพอใจในการใช้บริการของภาครัฐ

รองผู้ว่าราชการเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดทำแผนจังหวัดต้องทำให้เป็นแนวทางเดียวกัน จังหวัดเชียงใหม่ต้องเตรียมการให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ภาคสังคม ส่งเสริมอัตลักษณ์ล้านนา ผลักดันศูนย์การศึกษา การเตรียมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ปัญหาขยะ หมอกควันไฟป่า การจัดหาที่ทำกิน การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ณัฏฐ์   สินันตา                                                สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่     10 ตุลาคม 2556

สำนักข่าว cnxnews รายงาน