จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการจังหวัดเคลื่อนที่ “โครงการผู้ว่าฯ พบประชาชน”

.

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพบประชาชน หรือโครงการ จังหวัดเคลื่อนที่ ให้บริการประชาชนเชิงรุกแก่ประชาชน

เมื่อวันที่  23 เม.ย. 58  นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพบประชาชน หรือโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ พร้อมด้วยนางมนัญญา ประสาทบัณฑิตย์ นายกเหล่ากาชาด จังหวัดเชียงใหม่ นำส่วนราชการให้บริการประชาชนตามโครงการผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงใหม่ หน.ส่วนราชการและผู้บริหาร อปท. พบปะประชาชน ณ อบต.ห้วยทราย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนมาร่วมรับบริการคึกคักรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โครงการผู้ว่าฯ พบประชาชน เป็นโครงการที่นำการบริการทุกประเภทจาก ส่วนราชการ องค์กรสาธารณกุศล และภาคเอกชน ออกมาให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ ที่ห่างไกลความเจริญ เป็นการบริการในเชิงรุก ทั้งนี้เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ เพื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ในทุกๆ ด้านอย่างเหมาะสม อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐ ได้โดยสะดวก รวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายในการติดต่อราชการ ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานของรัฐ กับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ สร้างความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนค่านิยมและความคิดของประชาชน ให้เอื้อต่อการพัฒนาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น และส่งเสริมให้ชาวบ้าน ได้น้อมนำเอาแนวพระราชดำริ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปปรับใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตการออกหน่วยบริการของหน่วยงานในครั้งนี้ เป็นการให้บริการเชิงรุกแก่ประชาชน ของส่วนราชการหน่วยต่างๆ เพื่อเพิ่มช่องทาง ให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการส่งเสริมให้ภาคราชการเข้ารับทราบปัญหา ความต้องการของประชาชนในพื้น การตรวจสุขภาพ เละหน่วยบริการกาชาด

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า

จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า แถลงสถิติคดีด้านป่าไม้และสถานการณ์ด้านการบุกรุกและลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดือนตุลาคม 2556 ถึงเดือนพฤษภาคม 2557  และการพิจารณาเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขป้ญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่แตง และเชียงดาวต้องเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์และให้คำนึงถึงว่าทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน

วันที่ 10 มิถุนายน  2557 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ สำนักงานชลประทานที่ 1 ถนนทุ่งโฮเต็ล ตำบลวัดเกตุ อำเมืองเชียงใหม่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ จัดการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวาระ จังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า แถลงโดย นายจงคล้าย วรพงศธร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ได้จัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดเชียงใหม่ (คปป.จ.ชม.) โดยมีสถิติคดีด้านป่าไม้และสถานการณ์ด้านการบุกรุกและลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดือนตุลาคม 2556 ถึงเดือนพฤษภาคม 2557  ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีคดีเกิดขึ้นจำนวน 152 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 79 คน ซึ้งพื้นที่ถูกบุกรุก จำนวน 1,162 ไร่ 98 ตารางวา สามารถตรวจยึดไม้ท่อนได้จำนวน 603 ท่อน และตรวจยึดไม้แปรรูปได้จำนวน 1,257 แผ่น โดยมีสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนในเขตป่าอนุรักษ์ มีคดีเกิดขึ้นจำนวน 178 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 65 คน ซึ่งแบ่งออกเป็นคดีตัดไม้จำนวน 68 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 33 คน โดยสามารถตรวจยึดไม้ท่อนได้จำนวน 314 ท่อน และตรวจยึดไม้แปรรูปได้จำนวน 895 แผ่น และคดีบุกรุกพื้นที่จำนวน 95 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 17 คน โดยพื้นที่ป่าถูกบุกรุกไปจำนวน 613 ไร่ 78 ตารางวา คดีสัตว์ป่าจำนวน 6 คดี มีผู้ต้องหา 10 คน อีกทั้งยังมีคดีอื่นจำนวน 9 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 5 คน โดยมีสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เป็นผู้รับผิดชอบ

ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิมเติมว่า การพิจารณาเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขป้ญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่แตง และเชียงดาว ต้องเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์และให้คำนึงถึงว่าทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน.

สำนักข่าว

จังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการผลิต 2555/56 แล้ว

จังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการผลิต 2555/56 แล้ว หลังจากที่มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงอำเภอแม่แจ่ม ร่วม 500 คน เดินทางมาปักหลักชุมนุมเรียกร้องขอความช่วยเหลือ 2 วันเต็ม สร้างความพอใจแก่เกษตรกรและสลายตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว

วันนี้ (7 มี.ค.56) เวลา 17.00 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เดินทางมาชุมนุมเรียกร้องขอความช่วยเหลือปัญหาราคาหอมแดงตกต่ำ สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ปลูกหอมแดงของอำเภอแม่แจ่ม จำนวน 1,211 ราย ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูก 5,219 ไร่ โดยผลผลิตที่ได้นั้นอยู่ที่ประมาณ 18,268,250 กิโลกรัม ซึ่งหลังจากที่มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้แทนกลุ่มเกษตรกรที่เดินทางมาชุมนุมและคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด จังหวัดเชียงใหม่อยู่หลายรอบ จากนั้น จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 7 มีนาคม 2556 เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการผลิต 2555/56 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 และมติคณะทำงานกำหนดราคารับซื้อและจำหน่ายหอมแดง จังหวัดเชียงใหม่ ปีการผลิต 2555/56

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2556 เห็นชอบให้ซื้อนำตลาดในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อระบายผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง และสร้างความต้องการของตลาด โดยมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยรับซื้อผลผลิตหอมแดงจากเกษตรกร ในราคากิโลกรัมละ 17 บาท และนำไปจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 22 บาท (รวมค่าบริหารจัดการด้านการตลาด) ซึ่งหลังจากออกประกาศฉบับดังกล่าว นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมาแจ้งประกาศดังกล่าวแก่ผู้ชุมนุมซึ่งสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ชุมชนเป็นอย่างมาก จึงได้สลายตัวกลับภูมิลำเนาในช่วงเย็นวันนี้ (7 มี.ค.56)สำหรับสาระสำคัญในประกาศจังหวัดกำหนดฉบับดังกล่าว เป็นการกำหนด หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจังหวัดเชียงใหม่ ปีการผลิต 2555/56 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2556

โดยกำหนดหลักเกณฑ์การรับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจังหวัดเชียงใหม่ และได้มีการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานเกษตรอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ เท่านั้น โดยจะต้องนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง ณ จุดรับซื้อด้วย ซึ่งหอมแดงที่เกษตรกรนำมาจำหน่าย ต้องเป็นหอมแดงที่เกษตรกรเพาะปลูกเอง ในปีการผลิต 2555/56 และเกษตรกรต้องนำมาจำหน่าย ณ จุดรับซื้อด้วยตนเอง กรณีนำหอมแดงของบุคคลอื่นมาสวมสิทธิ์มีความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับสำหรับราคารับซื้อหอมแดง ณ จุดรับซื้อในพื้นที่ กำหนดไว้ในราคากิโลกรัมละ 17 บาท โดยต้องเป็นหอมแดงปึ๋ง ตากแห้งแล้วไม่น้อยกว่า 15 วัน ผ่านการคัดแยกหอมเน่าเสียหาย/เสื่อมสภาพ เศษดิน และวัตถุอื่น ๆ ออกจนหมด แล้วนำมาเสนอขายที่หน่วยรับซื้อ ซึ่งดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะรับซื้อผลผลิตหอมแดงของเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมดตามที่ผลิตได้จริง

โดยใช้ปริมาณผลผลิตตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับเกษตรอำเภอแต่ละอำเภอ โดยหน่วยรับซื้อจะต้องดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงไม่เกิน 3 วันทำการ สำหรับขั้นตอนต่อไปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับซื้อหอมแดงจากเกษตรกรแล้วนำมาบรรจุถุง ๆ ละ 5 กิโลกรัม ก่อนนำไปจำหน่ายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้กับจังหวัด ซึ่งกำหนดราคาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ ราคากิโลกรัมละ 22 บาทโดยหน่วยรับซื้อจะรับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการด้านการตลาดเองตั้งแต่การรวบรวม การบรรจุถุง การขนส่ง จนถึงการจัดจำหน่ายผลผลิตหอมแดงไปยังหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป

ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=130307205737

สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน