เฝ้าติดตามสถาณการณ์ อากาศเชียงใหม่
จนถึงวันนี้ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.57 ที่ผ่านมา คุณภาพอากาศเชียงใหม่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ค่า PM10 ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้ง 3 แห่ง พบค่า PM10 ระหว่าง 15 – 90 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ระหว่าง 19 – 81 คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง
นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในห้วง 80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 โดยสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ (3 มี.ค. 57) คุณภาพอากาศโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับดีถึงปานกลาง โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบค่า PM10 จำนวน 90 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 81 อยู่ในระดับปานกลาง ที่ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10 จำนวน 80 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQIวัดได้ 75 อยู่ในระดับ ปานกลาง และที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นสถานีตรวจวัดเคลื่อนที่ พบค่าPM10 จำนวน 15 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 19 อยู่ในระดับดี ส่วนจุด Hot spot เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2557 ซึ่งรายงานโดยส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่)พบเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวม 19 จุด ในพื้นที่ 10 อำเภอ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของกรมควบคุมมลพิษได้แจ้งขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการงดการเผา ริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่า รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะเศษวัสดุการเกษตรและกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ขอให้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวิธีการป้องกันตนเองที่ถูกต้องให้กับประชาชนด้วย ส่วนข้อแนะนำด้านสุขภาพนั้น เด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติม โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์สร้างความตระหนักถึงปัญหาไฟป่า และหมอกควันที่ส่งผลกระทบทั้งภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และที่สำคัญที่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชนเอง ดังนั้นจึงต้องช่วยกันสอดส่องดูแลในทุกพื้นที่มิให้เกิดไฟป่า หรือการเกิดไฟในพื้นที่สาธารณะ พื้นที่การเกษตร ตลอดจนริมทาง หรือหากพบเห็นการเกิดไฟไหม้ ก็สามารถแจ้งเหตุได้ที่สำนักงานทรัพยากรจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-112 725-6 โทรสาร053-112 764 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-221470 , 053-213551, 053-213872 หรือที่ทำการปกครองอำเภอ หรือ อปท.ทุกแห่ง หรือ ศูนย์ควบคุมไฟป่าทุกแห่ง
สำนักข่าว
cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน