วันพุธ, 8 พฤษภาคม 2567

ความแตกต่าง

Spread the love

ความแตกต่าง

 

บ่ายแก่ ๆ ของวันอาทิตย์ วันแห่งครอบครัว ที่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันหา …

ตลาดนัดตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เดินขวักไขว่

หลายสิบครอบครัวที่พาลูก ๆ มาเดินเที่ยวตลาด

เลือกจับจ่ายซื้อของกันอย่างเพลิดเพลิน

เสียงเจื้อยแจ้วของเด็ก ๆ ที่รบเร้าเอาของเล่นจากผู้ปกครอง

ได้ยินไปทั่วตลาดนัด ตุ๊กตา รถแข่ง เกมกด

อะไรอีกสารพัดที่พ่อค้าหาบเร่ พยายามเรียกร้องความสนใจจากเด็ก

“เหยื่อ” ผู้ที่เป็นเป้าหมายของการขาย และคนที่ต้องสนองความต้องการของ

“เหยื่อ” ก็คือพ่อแม่ หากไม่ได้ดังใจ ก็แทบจะนอนดิ้นอยู่ตรงหน้าร้านเสียให้ได้

ร้องไห้ โวยวาย กระทืบเท้าจะเอาจะเอา

พ่อแม่ที่รักลูกจับจิตจับใจ ก็จำเป็นต้องซื้อให้ นี่ก็เข้าข่าย “พ่อแม่รังแกฉัน”

สร้างนิสัยไม่ดีให้กับลูก

พ่อแม่บางคนก็อยากจะซื้อให้สุดหัวใจ แต่ด้วยฐานะ

ก็อาจจะต้องเจียมความอยากไว้บ้าง

พ่อแม่บางคนก็ไม่ยอมซื้อให้ อธิบายและชี้แจ้งให้ลูกเข้าใจ

บ้างก็หลอกว่าวันอาทิตย์หน้าค่อยมาซื้อ

หลากหลายยุทธวิธีในการห้ามทัพ สำหรับเด็ก ๆ ที่อยากได้ของเล่น

บางคนพอได้ไป ใหม่ ๆ ก็เห่อ เล่นได้ทั้งวัน ข้าวปลาไม่ยอมแตะ ไม่ยอมกิน

นาน ๆ ไป ก็เริ่มเบื่อ และต้องการที่จะได้สิ่งใหม่ ๆ …

เด็กผู้หญิงผมสั้นกุด ดูละม้ายคล้ายเด็กผู้ชาย

อายุประมาณแปดเก้าขวบ สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ มีรอยปะชุน

เด็กน้อยนั่งอยู่ริมฟุตบาท มือก็ถือถุงน้ำอัดลม

ก้มหน้าก้มตาดูดน้ำ เงยหน้ามองผู้คนเดินไปมา

ไม่มีใครรู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เพราะนั่งอยู่ตามลำพัง

ไม่มีพ่อแม่คอยจูงมือเดิน หรืออุ้มเหมือนใครเขา

หน้าตามอมแมม แต่แววตานั้นยังฉายแววแห่งความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก

น้ำอัดลมจืด ๆ ในถุงหมดแล้ว เหลือแต่น้ำแข็งที่เริ่มละลายไม่กี่ก้อน

เด็กน้อยลุกขึ้น เอาถุงพลาสติกในมือทิ้งลงในถังขยะข้าง ๆ ร้านขายของเล่น

เด็กผู้ชายอ้วน ๆ คนหนึ่ง เดินผ่านมา ขว้างถุงลูกชิ้นปิ้งมาตกข้าง ๆ เด็กน้อย

ร่างเล็ก ๆ นั้น แหงนหน้าขึ้นมอง เด็กชายตัวอ้วนไม่สนใจ เดินตามพ่อแม่ลับตาไป

เด็กน้อยก้มตัวลงเก็บถุงลูกชิ้นขึ้นมาดู เหลือลูกชิ้นอยู่หนึ่งลูก มันยังไม่เปื้อนนี่นา

ว่าแล้วก็หยิบขึ้นมากินด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนที่จะเอาถุงไปทิ้งที่ถังขยะอันเดิม

เด็กชายตัวอ้วน อาจจะคิดว่า … เหลือแค่ลูกเดียวเอง

แต่สำหรับเด็กหญิงตัวน้อย เธอคิดว่า … เหลือตั้งหนึ่งลูก ทำไมถึงทิ้งมันล่ะ

เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง สวมชุดกระโปรงสีชมพูหวาน

เดินตามก้นคุณพ่อคุณแม่  หันมาสบตา แล้วเดินผ่านเด็กน้อยมอมแมมไป

เธอก้มหน้าลงจับเสื้อตัวเอง เสื้อเก่า ๆ ขาด ๆ

พลันสายตามองไปเห็นกระเป๋าตังค์ผู้หญิงใบหนึ่งตกลงมาจากกระเป๋าถือ

ของคุณแม่เด็กน่ารักคนนั้นเอง เด็กน้อยรีบวิ่งไปหยิบขึ้นมา

แล้วเดินตามครอบครัวนั้นไป

“กระเป๋าตังค์หาย” เสียงผู้หญิงเอะอะโวยวายขึ้น ผู้คนพากันแตกตื่น

“ต้องโดนล้วงแน่ ๆ เลย ไปแจ้งตำรวจกันเถอะคุณ” ชายผู้เป็นสามีเอ่ย

ทันใดนั้นเอง ทั้งหมดก็หันกลับไปมองข้างหลัง

เด็กผู้หญิงหน้าตามอมแมมคนหนึ่งยืนอยู่  ในมือมีกระเป๋าตังค์ใบหรูกำอยู่แน่น …

“เด็กขี้ขโมย เอากระเป๋าคืนมาเดี๋ยวนี้นะ แจ้งตำรวจมาจับเดี๋ยวนี้เลย”

เด็กน้อยตกใจ ถอยหลังไปทีละก้าว ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

หญิงสาวเงื้อมือกำลังจะตีเด็กน้อยมอมแมมคนนั้น

แต่มือน้อย ๆ ของลูกสาวเอื้อมมาคว้าไว้

ผู้เป็นแม่ก้มลงมองลูกสาว แล้วหันไปมองเด็กน้อยอีกคนที่กำลังยกแขนขึ้นปกป้องตัวเอง

“เด็กคนนี้เค้าเก็บกระเป๋าตังค์ให้คุณแม่ หนูเห็นมันหล่นลงมาจากกระเป๋า แต่หนูเก็บไม่ทัน”

เด็กน้อยมอมแมมยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เด็กน้อยในชุดสีชมพูหวาน

ยื่นกระเป๋าตังค์ให้ แล้ววิ่งจากไป

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร้อยแปดทรรศนะ

ของผู้คนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์ด้วยความสนใจ ………..

 

โดย: หนึ่งเกลียวคลื่นบนพื้นทะเล

ขอบคุณภาพจาก http://women.kapook.com/view12156.html

สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ