วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

14 กุมภา 58 วันวาเลนไทน์ เมื่อรักฝืด เพราะเศรษฐกิจซึม

11 ก.พ. 2015
1309
Spread the love

14 กุมภา 58 วันวาเลนไทน์

เมื่อรักฝืด เพราะเศรษฐกิจซึม

Card and roses isolated on white background

                  วันที่ 14 กุมภาพันธุของทุกปี ชาติตะวันตกและผู้นับถือศาสนาคริสต์เรียกวันนี้ว่า วันวาเลนไทน์

                   วันวาเลนไทน์ ตั้งตามชื่อของนักบุญวาเลนไทน์หรือ เซ็นต์วาเลนไทน์ ประวัติศาสตร์แบบย่อๆบันทึกว่า ยุคสมัยโรมันมีการทำศึกสงครามตลอดเวลาบ้านเมืองต้องการทหารไปรบทัพจับศึก

                     แต่ท่านนักบวชที่ชื่อวาเลนไทน์กลับนิยมความรัก

                      ท่านเป็นผู้บุกเบิกการแต่งงานของหนุ่มสาวชาวโรมันในยุคนั้น การที่หนุ่มสาวรักกันแต่งงานกันทำให้เกิดความรัก เกิดครอบครัว เวลาที่ชายหนุ่มจะต้องไปเป้นทหารไปรบราฆ่าฟันก็เกิดความวุ่นวายเพราะไม่มีใครอยากจากครอบครัวไปทำศึกสงคราม จักรพรรดิในยุคนั้นจึงแก้ปัญหาด้วยการจับท่านเซ็นต์ไปขังคุกเพื่อมิให้มีการแต่งงาน ท่านเซ็นต์ติดคุกแล้วก็ไปพบรักของตนเองกับสาวตาบอดในคุกอีก  ท่านมีความรักแต่รักของท่านไม่สมหวัง  เพราะจักพรรดิ์สั่งประหารท่านเซ็นต์ในวันที่14 กุมภาพันธ์

                      วันดังกล่าวจึงเป็นวันแห่งความรัก วันที่ระลึกถึงท่านเซ็นต์

                       วันแห่งความรักเลยกลายเป็นกระแส กลายเป็นวันทำมาหากินของคนสมองใส ขายดอกกุหลาบราคาแพงลิบลิ่ว ขายช๊อกโกแลท ขายๆๆๆ เพื่อให้ชายหนุ่มไปบอกรักหญิงสาว

                       สำหรับเมืองพุทธอย่างเมืองไทยโดนกระแสตะวันตกเล่นงานจนผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองปวดหัวตัวร้อนหาทางแก้ปัญหาเรื่องรักเลยเถิดของวัยรุ่น

ทุกปี รณรงค์กันทุกปี จนน่ารำคาญ

                           แต่ปีนี้กลับมาแปลก ตรงที่วาเลนไทน์ค่อนข้างจะเงียบเหงา แถมยังมีข่าวว่ากำลังซื้อที่เคยบ้าคลั่งในอดีต มาปีนี้ถดถอยเพราะคนไม่ค่อยมีทรัพย์

                             ตามรายงานข่าวนี่เลยครับ

                      ข่าวแจ้งว่าคุณธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติ พฤติกรรม และการใช้จ่าย ช่วงวันวาเลนไทน์ ปี 2558 โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดแค่ 3,513 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงร้อยละ 4.52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

  ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี

ทั้งที่วันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ และการจับจ่ายไม่สูงมาก แสดงให้เห็นว่าคนยังไม่มั่นใจในการจับจ่าย รวมทั้งส่วนใหญ่ยังเห็นว่าสินค้ามีราคาแพง

น่าตกใจนะครับ

ผลสำรวจระบุด้วยว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 61.7 เห็นว่าบรรยากาศวันวาเลนไทน์คึกคักเท่าเดิม ร้อยละ 20.2 มองว่าคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ส่วนใหญ่เห็นว่าบรรยากาศปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลงร้อยละ 52 ตอบว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น รองลงมาร้อยละ 41.6 เห็นว่าราคาสินค้าแพงขึ้น ส่วนอีกร้อยละ 5.4 กังวลเรื่องความปลอดภัย

ผลสำรวจให้รายละเอียดเจาะลึกลงไปอีกว่า กิจกรรมและการซื้อของในช่วงวันวาเลนไทน์ ร้อยละ 30.8 จะซื้อดอกไม้ให้คู่รัก รองลงมาร้อยละ 30 ออกไปทานข้าวนอกบ้าน และอีกร้อยละ 19.7 ซื้อช็อกโกแลต โดยคิดเป็นวงเวินที่ใช้เฉลี่ยต่อคนประมาณ 1,901 บาทต่อคน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่เฉลี่ยต่อคนประมาณ 1,813 บาท

เป็นอันว่าวาเลนไทน์มีอันกร่อย

ในความกร่อยของวาเลนไทน์ ก็มีข่าวตามมาอีกว่ากำลังซื้อในตลาดต่างจังหวัดหรือภูธรแถบภาคอีสาณ  ภาคไต้และภาคตะวันออกบางจังหวัด  กำลังซึมหนัก เนื่องมาจากของแพงอีก    เอาเข้าไป

ข่าวบอกว่า กำลังซื้อภูธรเดือนมกราคมา ซึมหนัก อ่วมพิษราคาข้าว-ยาง เอกชนวอนเร่งอัดฉีดเงินเข้าระบบ-ภาครัฐช่วยฟื้นเศรษฐกิจด่วนเพราะ คนประหยัดเงินฉุดสินค้าฟุ่มเฟือยยอดหด

คุณสุทัศน์ เลิศมโนรัตน์   ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เปิดเผย ว่า กำลังซื้อในจังหวัดสุราษฎร์ธานีช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาถือว่าทรงตัว โดยเฉพาะในเขตตัวเมือง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต่ำ และปาล์มที่ยังไม่มีผลผลิต ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวอีกครั้งทั้งในด้านการเงิน การตลาด การบริหารเงินทุนหมุนเวียน การดูแลสต๊อกสินค้า

“ภาคค้าปลีกถือว่ายังไม่ตก ยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นก็ยังดีอยู่ แต่สินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับชะลอตัวลงไปบ้าง และยังมีส่วนที่กระเตื้องขึ้นบ้างคือการท่องเที่ยวทางฝั่งเกาะสมุย และหากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรก็จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี คาดว่าช่วงเดือนกุมภาพันธ์เศรษฐกิจจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น”

มาทางภาคอีสาณ  คุณเกรียงศักดิ์ ประตูน้ำขอนแก่น กรรมการบริหาร บริษัท ประตูน้ำขอนแก่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในไตรมาสแรกของปี 2558 จะยังชะลอตัว โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มแฟชั่น เสื้อผ้า กิฟต์ช็อป และเบ็ดเตล็ด ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยบรรยากาศการซื้อขายยังไม่คึกคักเท่าที่ควร จากปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรไม่หวือหวา ทำให้กำลังซื้อระดับกลาง-ล่างลดลง

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มลูกค้าจาก สปป.ลาวเข้ามาชดเชย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจลาวยังคงขยายตัวไปในทิศทางที่ดี ทำให้ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งฝั่งลาวคึกคัก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเข้ามาซื้อสินค้าที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อนำไปจำหน่าย

คุณสมศักดิ์ สีบุญเรือง เลขาธิการหอการค้าจังหวัดมุกดาหารกล่าวว่า ราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรทั้งยางพาราและข้าวยังตกต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจมุกดาหารช่วงเดือนมกราคมยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร

มาฝั่งตะวันออกบ้าง  คุณสุนทร ธัญญวัฒนกุล ประธานหอการค้าจังหวัดชลบุรีกล่าวว่า ชลบุรีเป็นจังหวัดที่ต้องพึ่งเศรษฐกิจโลกทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การลงทุนขณะนี้การส่งออกแย่มาก ข้าวราคาตก ยางพาราก็แย่ ส่งออกไม่ได้ก็ต้องงดการผลิต ซึ่งเห็นได้จากบริษัทที่ต้องมาจด CO (Certificate of Origin) หรือหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้ากับหอการค้าลดลงไปถึง 60% ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็เริ่มกู้ธนาคารไม่ได้ ตอนนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็แย่ไม่มีใครซื้อเลย การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากนักท่องเที่ยวรัสเซียหายไป 50% แต่ก็ได้ตลาดจีนและอินเดียกลับมา

คุณอนุชิดา ชินศิรประภา ประธานหอการค้าจังหวัดระยองกล่าวว่า กำลังซื้อของจังหวัดระยองถือว่าทรงตัวจากการสอบถามร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ลดลงเล็กน้อย อีกทั้งระยองเป็นเมืองคนทำงาน มีนิคมอุตสาหกรรมและโรงงานมากจำนวนคนที่เข้าร้านอาหารถือว่าไม่น้อย แต่อาจจะสั่งอาหารน้อยลงเพราะสินค้าแพงขึ้นแต่รายได้ลดลง ทำให้กำลังซื้อลดลงตาม คอนโดมิเนียมเริ่มชะลอซื้อและทิ้งมัดจำเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ให้ระวังการใช้เงินในอนาคตเพราะคาดการณ์ว่าปีนี้ลูกค้ารายย่อยจะไม่มีเงินจ่ายบัตรเครดิต ธุรกิจโรงแรมเดือนกุมภาพันธ์ถือว่าเงียบกว่าทุกปี แม้รัฐบาลจะกระตุ้นโดยการจัดสัมมนาก็ตาม

ภาคกลาง คุณสุพจน์   ประสงค์สุขสันต์   ประธานหอการค้าจังหวัดสิงห์บุรีกล่าวว่า เศรษฐกิจสิงห์บุรียังคงซึมทุกภาคส่วนเนื่องจากกำลังซื้อส่วนใหญ่ในจังหวัดสิงห์บุรีมาจากเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาซึ่งขณะนี้ไม่สามารถเพาะปลูกข้าวได้ และไม่มีรายได้จากทางอื่น อีกทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมก็จำเป็นต้องลดคนงานเพราะสู้ค่าแรงไม่ไหว โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอีที่ยังไม่ทันโตก็โดนมรสุมเศรษฐกิจ จึงหวังว่าเม็ดเงินจากภาครัฐที่ลงมาในระบบเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรจะช่วยกระตุ้นได้บ้าง

  ทางเหนือไม่มีรายงานครับ น่าเสียดาย

         ถ้ามี แล้วจะมารายงานใหม่……….

 

อรุณ ช้างขวัญยืน / รายงาน……

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ