“ไทรักธรรม” เปิดสาขาพรรคภาคเหนือ ยันไม่ใช่นอมินีพรรคไหน ส่ง ส.ส.ลงสมัคร 499 คน
การเมืองเชียงใหม่/วันที่ 11 ตุลาคม 2561 นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคฯได้ทำการเปิดที่ทำการอาคารสาขาพรรคฯประจำภาคเหนือ เลขที่ 111-111/1 ถนนรอบเมือง หางดง-สะเมิง ตำบลหนองควาย อำเภอหาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนชาวเขียงใหม่ให้ความสนใจและเดินทางมาลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกเป็นจำนวนมาก และมี พ.ต.ท.ปกรณ์กฤษณ์ ใหญ่โต ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้างานพรรคการเมือง สำนักงานคณกรรมการการเลือกตั้ง กกต.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมสังเกตการณ์โดยชูคำขวัญ “เราคนรุ่นใหม่ นำความคิดสู่การสร้างสรรค์”
นายมาพิระวิทย์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเนื่องจากพรรคไทรักธรรมเป็นพรรรคการเมืองตาม พรบ.2550 ก็ได้ปฎิบัติตามคำสั่งของ คสช.ทางพรพรรคก็ได้เริ่มหางสมาชิกพรรคได้เพียง2วันก็มีสมาชิกชาวเชียงใหม่ที่สนใจจำนวน 600 กว่าคน แต่ต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 500 คนจึงจะสามารถเปิดเป็นสาขาได้ ทางคณะกรรมการบริหารพรรคจึงได้หารือกันและขออนุญาต กกต.กลางเพื่อทำการเปิดสาขาประจำภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่แรก
ส่วนสำหรับที่จะเปิดสาขาต่อไปในจังหวัดอื่นนั้น ทางเราได้เปิดสาขาที่ 001.ที่จังหวัดสงขลา สาขาที่. 002 ภาคอีสานที่จังหวัดเลย ที่นี้เป็นสถานที่ที่ 3 และต่อไปวันที่ 16 จะเปิดที่จังหวัดลพบุรี หลังจากนั้นวันที่ 19 ตุลาคมก็จะจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และกรรมการสรรหาทั่วประเทศ
ส่วนนโยบายพรรคไทรักธรรม 1.ส่งเสริมและสร้างอาชีพเสริมพร้อมการตลาด 2.สร้างวัฒนธรรม ผสมการท่องเที่ยวทุกจังหวัด 3.สร้างระบบเครือข่ายการเมือง สหกรณ์ออนไลน์แก่ประชาชน 4.ให้ความเข้าใจใหม่แก่เกษตรทุกประเภทไม่ให้เสียเปรียบนายทุน 5.เปิดโอกาสรับฟังปัญหาต่างๆจากชาวบ้านเพื่อเป็นนโยบาย เราขอใช้หลักธรรมะ หลักธรรมชาติ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชนระดับรากหญ้า ทั่วประเทศ
ในการที่อาจจะมองว่าเราเป็นนอมินีพรรคใดไหม อันนี้ยืนยันเลยว่าไม่มี เราเป็นพรรคเอกเทศและและพรรคการเมื่อที่ไม่รับนายทุน เพราะฉะนั้นไม่มีใครมาครอบงำพรรคนี้ได้อย่างแน่นอน
พรรคมีนโยบายส่งผู้สมัครครบ 350 เขต ซึ่งภาคใต้ได้ผู้สมัครครบ 50 เขต ภาคเหนือที่เชียงใหม่ ครบ 9 เขต ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศยังขาดอีก 100 คน ส่วน สส.ระบบบัญขีรายชื่อจะส่ง 149 คน รวมผู้สมัครทั้งสิ้น 499 คน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งหน้าเหลือบัตรลงคะแนนเพียงใบเดียวเราคงสู้พรรคการเมือง หรืออดีต ส.ส.เก่าไม่ได้ แต่ทุกคะแนนไม่ได้สูญหาย ทุกจังหวัดขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดไม่สามารถระบุหรือคาดหวังได้ ส.ส.มากน้อยแค่ไหนคิดอย่างเดียวว่านโยบายพรรรโดนใจชาวบ้านหรือไม่ ต่อให้แพ้ทุกเขตทั่วประเทศก็ยังมีคะแนนพรรคหรือปาร์ตี้ลิสต์เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อได้
