ไทย-ออสซี่ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม Codex สาขาตรวจสอบและออกใบรับรองสินค้าอาหารนำเข้า-ส่งออก ครั้งที่ 20
ระหว่างวันที่ 18-22 ก.พ 56 พร้อมพิจารณา 4 ประเด็น มุ่งเพิ่มความปลอดภัยผู้บริโภค ลดข้อขีดกันทางการค้า
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมแชงกรีลา จังหวัดเชียงใหม่ นายยุคล ลิ้มแหลมทองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์ (Codex) สาขาระบบการตรวจสอบและการออกใบรับรองสินค้าอาหารนำเข้าและส่งออก ครั้งที่ 20 พร้อมด้วย ตัวแทน 57 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์สาขาระบบการตรวจสอบและการออกใบรับรองสินค้าอาหารนำเข้าและส่งออก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ประเทศไทยได้ร่วมกับประเทศออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการโคเด็กซ์สาขาระบบการตรวจสอบและการออกใบรับรองสินค้าอาหารนำเข้าและส่งออก เพื่อส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถการจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารซึ่งจะเอื้อต่อการส่งออกของไทยและเอื้อต่อความร่วมมือในการพัฒนาด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหารที่นำเข้าส่งออกและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอีกทางหนึ่ง
ในการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 200 คนจาก 57 ประเทศและ 9 องค์กรระหว่างประเทศ และมีประเด็นพิจารณา 4 ประเด็นสำคัญได้แก่ หลักการและแนวทางปฏิบัติสำหรับระบบควบคุมอาหารภายในประเทศ การประเมินประสิทธิภาพของระบบควบคุมอาหารของประเทศตนเองและประเทศคู่ค้า การปรับปรุงแนวทางปฏิบัติสำหรับควบคุมอาหารในภาวะฉุกเฉิน และปัญหาความซ้ำซ้อนของการกรอกแบบสอบถามจากประเทศผู้นำเข้า ทั้งนี้เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรฐานกลาง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 3 จากทั้งหมด 8 ขั้นตอน ก่อนที่จะประกาศมีผลบังคับใช้ในทุกประเทศที่เป็นมาตรฐานสากล
สำหรับประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารคิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี โดยเป็นสินค้าเกษตร 7 แสนล้านบาท สินค้าเกษตรของไทยที่ส่งออกอันดับหนึ่งของโลกได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง ไก่สุก กุ้ง สับปะรด ขณะที่ข้าวส่งออกอยู่ในอันดับสามตกมาจากอันดับหนึ่ง ประเทศไทยมีมาตรฐานส่งออกอันดับต้นๆ ของโลก ขณะนี้มีการออกมาตรฐานไปแล้วกว่า 200 มาตรฐานและปีนี้จะจัดทำอีก 25 มาตรฐาน การจัดทำมาตรฐานสินค้าเพื่อลดข้อกีดกันทางการค้า รองรับประชาคมอาเซียนและการส่งออกทั่วโลก
นายยุคล เพิ่มเติมว่าเราเชื่อมั่นว่าการประชุม CCFICS ครั้งนี้จะเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแน่นอน เพราะเป็นการร่วมวางระบบประเทศเพ่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งการตรวจสอบและรับรองสินค้าอาหารที่นำเข้าและส่งออก ซึ่งนอกจากช่วยป้องกันคุ้มครองผู้บริโภคและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันแล้ว ยังลดปัญหากีดกันทางการค้าที่ไม่จำเป็นด้วย.
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน
