แรงงานพม่าเชียงใหม่โวยนายจ้างขูดรีดค่าแรง

แรงงานพม่าเชียงใหม่โวยนายจ้างขูดรีดค่าแรง

แรงงานก่อสร้างชาวพม่าประมาณ 50 คน เดินขบวนประท้วงนายจ้างไปตามถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ไม่เป็นธรรมหักค่าแรงโหดเกินความเป็นจริง จัดหางานจังหวัดเร่งเจรจาหาข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 30 พ.ค.56 ได้มีกลุ่มแรงงานชาวพม่าจำนวน 50 คนถือป้ายเดินขบวนมารวมตัวประท้วงบริเวณคูเมือง หน้าวัดทรายมูลพม่า ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่และจ้าหน้าที่จากกองร้อยสารวัตรทหาร มทบ.33 ได้เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในบริเวณวัด

ต่อมาทางด้าน นายดิเรก ทะจันทร์ จัดหางานจังหวัดเชียงใหม่พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มแรงงานชาวพม่าและขอให้ส่งตัวแทนจำนวน 5 คนเข้ามาเสนอปัญหาและข้อเรียกร้อง โดยตัวแทนแรงงานชาวพม่าเปิดเผยว่าพวกเขาได้เดินทางเข้ามาใช้แรงงานเป็นคนงานก่อสร้างของ บริษัท เก่งดี พัฒนา ได้ทำงานก่อสร้างบริเวณใกล้กับสี่แยกปอยหลวง โดยทางบริษัทดังกล่าวได้มีการเก็บค่าหัวแรงงานชาวพม่าก่อนที่จะมาทำงานจะหักจากค่าแรงรายละ 13,000 บาท และให้ยืมเงินอีกรายละ 2,000 บาท  ทั้งหมดรวมแล้วเป็น 15,000 บาท  ทางบริษัทก็ได้หักจากค่าแรงไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 18,745 บาทก็น่าจะเพียงพอแล้วได้ทางบริษัทก็แจ้งว่าจะมีการหักเงินเพิ่มเติมถึง 22,000 บาทและทางบริษัทก็จะให้เซ็นยินยอมกันทุกคน ถ้าไม่เซ็นก็จะส่งกลับบ้านอีกจึงทำให้พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมและจึงได้รวมตัวกันเดินขบวนมาที่วัดแห่งนี้ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า

ด้าน นายโสรส เกษตรธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท เก่งดี พัฒนาได้เปิดเผยว่า ตนได้รับช่วงรับเหมามาจาก บริษัท PONER LINE ด้วย มีแรงงานชาวพม่าที่ส่งมาทำงานที่เชียงใหม่ประมาณ 200 กว่าคนใน 1,000 กว่าคนทั่วประเทศ ทั้งนี้แรงงานที่เดินทางมาทำงานไม่มีที่นอนติดตัวมาด้วยทางบริษัทจึงให้ยืมเงินแล้วทำเป็นสัญญายินยอมใช้หนี้โดยจะหักจากค่าแรงที่ได้ประมาณ 17,000 บาท จำนวน 12 งวด แล้ว 6 เดือน พวกเขาก็ยินยอมและทำสัญญาหักนี้สินกันเป็นภาษาพม่าปนภาษาไทยด้วย สำหรับที่แรงงานชาวพม่าว่าจะถูกหักเงินถึง 22,000 บาท นั้นเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ โดยทั่วไปแรงงานกลุ่มอื่นก็ไม่มีปัญหาถ้าพวกเขาอยากกลับตนก็จะส่งกลับพม่าไป

ดังนี้นายดิเรก ทะจันทร์ จัดหางานจังหวัด จึงได้เชิญตัวแทนบริษัท เก่งดี พัฒนา พร้อมกับกลุ่มแรงงานชาวพม่าทั้งหมดไปยังที่ศูนย์ราชการเพื่อหาข้อสรุปกับปัญหาเรื่องนี้ต่อไป

ทีมข่าว cnxnews รายงาน