เศรษฐกิจทรุด บ.น้ำดื่ม ร่อน จม.ขอความเมตตาผู้บริโภคขึ้นราคา

24 เม.ย. 2013

1497

Spread the love

เศรษฐกิจทรุด บ.น้ำดื่ม ร่อน จม.ขอความเมตตาผู้บริโภคขึ้นราคา

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 14 00 น.ของวันที่ 23 เม.ย.56 หมู่บ้านวังน้ำริน หมู่ 2 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยมีรถส่งน้ำของ บริษัทกลาเซียร์ จำกัด ได้น้ำจดหมายการปรับขึ้นราคาสินค้าน้ำดื่มแต่ละชนิดมาแจ้งให้ผู้บริโภคและผู้ที่มีอุปการะคุณได้รับทราบ

ทั้งนี้ นายสมภาพ ศรีวนิชย์ กรรมการผู้จัดการ บ.น้ำดื่มกลาเซียร์ ได้แจ้งในจดหมายว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปรับค่าแรงทั่วประเทศเป็นวันละ 300 บาท โดยที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ขยับขึ้นค่าแรงงาน ครั้งที่ 1 วันที่ 1 เม.ย.55 ปรับเพิ่ม 40 % เท่ากับ วันละ 251 บาท ครั้งที่ 2 ปรับเมื่อวันที่ 1 ม.ค.56 ให้เป็นวันละ 300 บาท

ปกติค่าแรงของจังหวัดเชียงใหม่ก่อนปรับขึ้นจะเท่ากับ วันละ 179 บาท เพราะฉะนั้นเมื่อปรับค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายค่าแรงอีก 120 บาท ต่อคน/ต่อวัน ทาง บ.น้ำดื่มกลาเซียร์ มีพนักงานถึง 250-260 คน ตลอดมาทาง บ.น้ำดื่มกลาเซียร์ ได้พยายามประคับประคองรักษาระดับราคาของสินค้าให้คงเดิมเสมอมาโดยตลอด แม้ในสภาวะที่ประสบกับปัญหาต้นทุนค่าแรงงาน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดได้แปรผันขยับขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งทาง บ.น้ำดื่มกลาเซียร์ ก็ได้ยืนหยัดรักษาราคามาโดยตลอด 12 เดือน เพราะไม่ต้องการปรับราคาให้เป็นภาระต่อลูกค้าผู้บริโภคทุกราย แต่ปรากฏว่าความพยายามรักษาระดับราคาสินค้าดังกล่าว กลับทำให้ใช้จ่าวสะสมขึ้นภายในองค์กร ทำให้ บ.น้ำดื่มกลาเซียร์ ไม่สามารถต้านทานสถานการณ์นี้ได้อีก

จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขอรบกวนขอความเมตตา ลูกค้าผู้บริโภคได้ปรับราคาสินค้าแต่ละชนิด 3-4 บาทต่อหน่วย ซึ่งการปรับราคาในครั้งนี้เป็นการคำนวณเฉพาะค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นยังมิได้รวม ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส และค่าวัตถุดิบต่างๆ ที่จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตามทาง บ.น้ำดื่มกลาเซียร์ ได้พยายามหาทางลดค่าใช่จ่ายอย่างที่สุดแล้ว

ผู้สื่อข่าวยังได้รายงานต่อไปอีกว่าอย่างไรก็ตามทางชาวจังหวัดเชียงใหม่ก็ต้องค่อยติดตามดูการขยับตัวปรับราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างอื่นอีกด้วยว่า จะมีการปรับขึ้นราคาอีกมากน้อยเท่าไหร่ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดว่าจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จะมีมาตรการควบคุมราคาสินค้าเหล่านี้ที่เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้น้อยที่สุด แม้แต่ทุกวันนี้ผู้บริโภคต่างก็ใช้แก๊สและเชื้อเพลิงที่มีราคาแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว