วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

เชียงใหม่เตรียมพร้อมรับมือปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่า

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่เตรียมพร้อมรับมือปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าในปี 2558 แล้ว

k1

       จังหวัดเชียงใหม่เตรียมพร้อมรับมือปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าในปี 2558 แล้ว โดยจัดประชุม/สัมมนาประเมินผลเพื่อถอดบทเรียน กำหนดมาตรการ และจัดทำแผนเตรียมความพร้อมนำไปสู่การแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าอย่างยั่งยืน ในปี พ.ศ.2558 ในวันนี้ที่โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ โดยมีผู้แทนส่วนราชการระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท่องถิ่น องค์กรเครือข่าย ทสม. ผู้นำชุมชน สื่อมวลชน กว่า 100 คน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.57  เวลา 10.00 น. นายชนะ  แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาประเมินผลเพื่อถอดบทเรียน กำหนดมาตรการ และจัดทำแผนเตรียมความพร้อมนำไปสู่การแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าอย่างยั่งยืน ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น ณ โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยมีผู้แทนส่วนราชการระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท่องถิ่น องค์กรเครือข่าย ทสม. ผู้นำชุมชน สื่อมวลชน กว่า 100 คนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

นายจงคล้าย  วรพงศธร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ รายงานถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปีนี้ว่า คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ มีค่า PM10 สูงสุด 282 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2557 ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองในอากาศ เกินมาตรฐานไป 20 วัน เกิดไฟป่า 942 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 9,147 ไร่ เกิด Hotspot (จุดความร้อนเผ่าในที่โล่ง) 2,381 จุด บางอำเภอ พบ Hotspot มาก ในขณะที่อีกหลายอำเภอพบการเกิดจุด Hotspot จำนวนน้อย ในส่วนของการแก้ไขปัญหา ได้มีการกำหนดวันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ภายใต้ชื่อ “ 80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ห้วงระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมและมีบทบาทในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าเพื่อลดความรุนแรงของภัยที่เกิดขึ้น ในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวให้ได้รับทราบถึงสถานการณ์ โดยในส่วนของของรัฐบาลและผู้บริหารระดับสูงก็ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและตรวจติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลรายงานพบว่า สถิติจุดความร้อนที่คาดว่าเป็นการเผาในที่โล่ง (hotspot) ในปีนี้สะสมจำนวน 2,381 จุด มากกว่าปี 2556 ซึ่งมีจำนวน 2,153 จุด เนื่องจากหน่วยงาน และประชาชนยอมรับในเรื่องการลดปริมาณเชื้อเพลิงโดยการชิงเผากันมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนวันที่ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานเพียง 20 วัน ซึ่งน้อยกว่าปี 2556 ซึ่งมีจำนวน 25 วัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะอิทธิพลของลมพายุอันเนื่องมาจากหมอกควันไร้พรมแดน ในการดำเนินงานของจังหวัดเชียงใหม่นอกจากประกาศให้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องแล้ว ยังจัดกิจกรรมรณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ พิธีลงนามบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือ “รวมพลัง 9 จังหวัด ลดไฟป่า ลดหมอกควัน” ตลอดจนดำเนินกิจกรรมรณรงค์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น กิจกรรมการรณรงค์ “ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” กิจกรรม “เติมรักให้อากาศ” กิจกรรม “วันรณรงค์ปลอดควันพิษจากไฟป่า” โครงการพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ และการสร้างความชุ่มชื้นให้อากาศโดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง และกองทัพอากาศโดยกองบิน 41 รวมถึงกิจกรรมธนาคารใบไม้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และการเพิ่มมูลค่าจากเศษกิ่งไม้ใบไม้ เศษวัสดุเหลือใช้และขยะในการทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถึงแม้จะสามารถแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันประสบผลสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง แต่เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว จึงกำเป็นต้องกำหนดมาตรการและจัดทำแผนเตรียมความพร้อมในปี 2558 สำหรับใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันให้ยั่งยืนต่อไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในปี 2558 มีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้เสนอแนะให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการ กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์การเตรียมความพร้อม หรือ kick off ในพื้นที่แหล่งกำเนิดไฟป่า/หมอกควัน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้ รับทราบ และเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน นอกจากนั้นเห็นควรชี้แจง ทำความเข้าใจแก่ผู้นำท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในพื้นที่ รวมทั้งดึงเอาผู้ที่มีประวัติเข้าไปจุดไฟจนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าลุกลามเข้ามาเป็นคณะกรรมการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้วย ในส่วนของความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และเมียนมาร์ ซึ่งมีชายแดนติดกันนั้น ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างผู้นำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาไฟป่า/หมอกควันร่วมกัน นอกเหนือจากการเจรจาเพื่อร่วมกันผลักดันเรื่องการค้าชายแดน ณ จุดผ่อนปรนในพื้นที่อำเภอเวียงแหง และ เชียงดาว

ในส่วนของผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้แทน อปท.ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 25 อำเภอ ได้เสนอแนะให้มีการจัดประชุมผู้นำชุมชนซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและ    ไฟป่าในพื้นที่ เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจถึงแนวทาง และมาตรการในการแก้ไขปัญหา เพื่อนำไปขยายผลในการขอความร่วมมือประชาชนในชุมชนของตนเองเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่อไป

 

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ