วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

ฮือฮาในโลกโซเชียลสักรูปแบบใหม่สักรายชื่อแพ้ยากันตายหญิงสาวสักรายชื่อยาที่แพ้พร้อมอาการและโลโก้เภสัชหลังเกิดแพ้ยารุนแรง

Spread the love

เชียงใหม่-ฮือฮาในโลกโซเชียลสักรูปแบบใหม่สักรายชื่อแพ้ยากันตายหญิงสาวสักรายชื่อยาที่แพ้พร้อมอาการและโลโก้เภสัชหลังเกิดแพ้ยารุนแรง เผยคนอื่นสักยันต์สักน้ำมันตามความเชื่อ แต่ตนเองสักแพ้ยากันตาย เพราะหากเกิดเหตุแพทย์สามารถดูรายชื่อยาที่แพ้ได้ทันทีก่อนรักษา คนแห่แชร์เรื่องราวอย่างต่อเนื่องจนฮือฮา
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 24 เ.ม.ย.61 เป็นที่ฮือฮาและส่งต่อแชร์กันในโลกโซเชียลอย่างมากกับรูปรอยสักกันตาย ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกล้าที่จะออกมาสักรายชื่อยาที่แพ้และอาการ ตลอดจนโลโก้เภสัชกรโลกโดยสักติดแขนขวา มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆนานาอย่างมาก หลังรับแจ้งจึงเร่งรุดไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 232/1 ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พบนางสาวศิริอร กาสุยะ อายุ 32 ปี หรือน้องแอน เจ้าของรอยสักคนดังกล่าวอยู่บ้าน โดยโชว์รอยสักพร้อมเปิดเผยว่า เริ่มแรกมีเพื่อนไปสัก แล้วมีงานมินิมอลที่เป็นตัวเล็ก ตนเองก็ชอบรอยสักอยู่แล้ว ก็หาลายที่เป็นตัวเองไม่ได้ซักที จนมาช่วงตุลาคมปีที่แล้ว ตนเองเป็นที่ชอบแพ้อาหารและยาบ่อยๆ จนตกเลือดหลังคลอด แล้วแจ้งทางโรงพยาบาลไปแล้ว แล้วก็ฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าไปเป็นยาแก้แพ้ แต่เป็นคนละกลุ่มที่ตนเองแพ้ แต่ปรากฏว่าแพ้หนัก ถึงขั้นต้องเข้าห้องไอซียู 2 คืน เป็นการแพ้ขั้นรุนแรง จากนั้นก็เกิดความกลัว เพราะหากเราได้รับสารเดิมๆเข้าไป การแพ้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของรอยสักนี้ เอาไว้เผื่อบอกให้เค้ารู้ว่ารายชื่อยาที่เราแพ้และอาการที่แพ้ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นไม่สติบอกว่าเราแพ้อะไรบ้าง ทางแพทย์ผู้รักษาจะได้อ่านตรงนี้ได้ และระวังกับการใช้ยาของเรามากขึ้น คิดว่าหากได้รับยาซ้ำอาจไม่รอด แม้ตัวหนังสือจะเล็กอาจจะไม่เห็น จึงติดสัญลักษณ์ งูพันถ้วยยาของเทพีไฮเยีย ซึ่งอยู่ในวงการแพทย์วงการยาจะเข้าใจทันที  
นางสาวศิริอร เปิดเผยต่อไปว่า การเริ่มต้นของรอยสักนี้ก็เพราะความกลัวตายจริงๆ หลายๆคนอาจให้ความปลอดภัยกับชีวิตโดยการสักยันต์สักน้ำมันเพื่อให้ตัวเองมีความปลอดภัยมากขึ้น ตนเองถือว่ารอยสักนี้คือยันต์สำหรับตนเองที่คอยป้องกัน เพราะนอกจากอุบัติเหตุใดๆที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายก็คือการแพ้ทั้งปวงที่อันตรายต่อชีวิตตน ก็มีคนแชร์เรื่องราวก็มาทักสอบถามกันเยอะมาก ก็สนใจอยากสักบ้าง ที่ผ่าสนมาหากแพ้อาหารก็หลีกเลี่ยงไม่ทาน แต่ยาเราหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะเราเองไม่ใช่คนนำเข้า เพราะบางทีถ้าเราสลบเป็นลมไป แม้จะมีบัตรแพ้ยา แต่ผู้หญิงทั่วไป ไม่ได้พกกระเป๋าตังใส่ไว้ในกระเป๋า ส่วนมากใส่ในกระเป๋าหิ้วกระเป๋าถือ ถ้ามันผละออกจากตัวไป ก็ไม่มีสิ่งที่จะแสดงว่าเราแพ้ยาพวกนี้ ถ้ายิ่งแพ้รุนแรงก็มีความน่าเป็นห่วง 

edf

edf