วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

หมดเวลาน้ำมัน -ใช้น้ำ1 ลิตร เติมมอเตอร์ไซค์วิ่งได้ไกลถึง 500 ก.ม.

Spread the love

 

สกู๊ปพิเศษ CNX NEWS

หมดเวลาน้ำมัน -ใช้น้ำ1 ลิตร เติมมอเตอร์ไซค์วิ่งได้ไกลถึง 500 ก.ม.

       ท่านผู้อ่านครับ ความฝันในการใช้น้ำเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์ ใกล้ความจริงขึ้นทุกขณะ เมื่อนักประดิษฐ์ชาวบราซิลสร้างเครื่องยนต์โมโตพาว เอชทูโอใช้น้ำแทนน้ำมันเป็นผลสำเร็จครับ

            สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ริคาร์โด อาเซเวโด นักประดิษฐ์ชาวบราซิล และลูกชาย ได้สร้างรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำเป็นตัวขับเคลื่อนได้สำเร็จ โดยปรับปรุงจากรถจักรยานยนต์คันเก่ารุ่นปี 2536 เข้ากับวิชาความรู้ด้านเคมี โดยทั้งสองให้ชื่อระบบเครื่องยนต์นี้ว่า “โมโตพาวเวอร์ เอชทูโอ”

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นจักรยานยนต์พลังงานน้ำ แต่ระบบการทำงานของมันซับซ้อน เพราะ โมโตพาวเวอร์ เอชทูโอ ใช้แบตเตอรีรถยนต์ เพื่อผลิตไฟฟ้า และแยกโมเลกุลไฮโดรเจนออกจากโมเลกุลน้ำ เมื่อได้ปริมาณไฮโดรเจนเพียงพอ ผลลัพธ์ที่ได้คือการเผาไหม้จนได้พลังงานสำหรับการขับเคลื่อน ทั้งนี้ ริคาร์โด ได้ทดลองนำก๊าซไฮโดรเจนตนเองแยกได้ มาทดสอบผ่านการจุดด้วยไม้ขีดไฟผลที่ได้คือการปะทุระเบิด ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาสามารถแยกก๊าซไฮโดรเจนได้จริง และ การทดลองแบบไฮบริดของจักรยานยนต์แบบโมโตพาวเวอร์ เอชทูโอ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรด้วยปริมาณน้ำเพียงลิตรเดียว

ข่าวบอกว่า ริคาร์โดใช้เวลา 6 เดือน ในการศึกษาและประดิษฐ์ โดยควักทุนส่วนตัวเพื่อลองผิดลองถูกราว 50,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวหวังว่าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ เพราะสิ่งที่ออกจากท่อไอเสียคือไอระเหยของน้ำ ไม่ใช่คาร์บอนมอนอกไซด์เหมือนรถจักรยานยนตร์คันอื่น ๆ

ศาสตราจารย์ มาร์เซโล อัลเวส ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมเครื่องยนต์ แห่งมหาวิทยาลัยเซา เปาโล  บราซิล กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่สามารถทำได้ในทันที แต่ก็เคารพในสิ่งที่ ริคาร์โดตั้งใจทำเพื่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี โครงการแบบนี้ต้องใช้งบประมาณพัฒนาอีกมาก เพื่อจะพัฒนาอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ และกลายมาเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย สำหรับผู้ที่ต้องการใช้น้ำขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์   ท่านศาสตราจารย์บอกอีกว่า“สิ่งเดียวที่ต้องทำคือบอกกับประชาชนว่า เราไม่มีตัวเลือกที่จะช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตพลังงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจริง ๆ แล้ว รถของริคาร์โดเป็นรถพลังงานไฟฟ้าไม่ใช่พลังงานน้ำ แต่ก็ต้องยกย่องทุกคนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ และต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขาพัฒนายานพาหนะจนสามารถเป็นทางออกได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับคนที่อยากใช้รถในลักษณะนี้ได้”ริคาร์โด บอกด้วยว่า น้ำที่ใช้กับโมโตพาวเวอร์ เอชทูโอ ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำสะอาด เพราะจากการทดลองแม้ใช้น้ำจากแม่น้ำที่สกปรก ระบบเครื่องยนต์ก็สามารถแยกไฮโดรเจนออกมาได้

                    เรื่องทำนองเดียวกัน มีข่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังเร่งพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตที่ใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหนึ่งในนั้นมี “รถยนต์พลังไฮโดรเจน” เป็นพระเอก และหมายมั่นปั้นมือที่จะนำรถยนต์ต้นแบบที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานขับเคลื่อนมาวิ่งโชว์ให้โลกได้เห็นภายในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2020 ที่ญี่ปุ่นกำลังจะเป็นเจ้าภาพ

ข่าวบอกว่า โตโยต้า ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซุ่มพัฒนารถยนต์พลังไฮโดรเจนมานาน และเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทก็เพิ่งเปิดเผยความคืบหน้าของแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่จะสามารถผลิตไฮโดรเจนออกมาราววันละ 1.2 ตัน ซึ่งเพียงพอสำหรับการเติมรถพลังไฮโดรเจนจำนวนเกือบๆ 1,500 คันต่อวัน โรงงานดังกล่าวมีชื่อว่า ไตร-เจน (Tri-Gen) ตั้งอยู่ในย่านลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นโรงไฟฟ้าที่นำเศษวัสดุทางการเกษตรมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่สิ่งอื่นๆ
ที่ได้นอกเหนือจากไฟฟ้าก็คือ นํ้า และไฮโดรเจน กำลังการผลิต (ไฟฟ้า) จะอยู่ที่ประมาณ 2.35 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องการผลิตในปี 2563

             เราสามารถสรุปได้ว่า ในอนาคต การนำ น้ำ มาเป็นพังงานแทนน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ จากข่าวที่ผมนำเสนอ ทางบราซิลได้ติดตั้งเครื่องยนต์เข้าไปในมอเตอร์ไซค์ เติมน้ำลงไป แล้วเครื่องยนต์นั้นจะแปลงน้ำเป็นไฮโดรเจนเอาไปทำให้เครื่องยนต์หมุน ถ้าเขาสามารถพัฒนาได้ ก็สามารถเติมน้ำแทนน้ำมันได้เลย ส่วนโตโยต้า ญี่ปุ่น ตั้งโรงงานผลิตไฮโดรเจนก่อนเพื่อเอามาเติมรถยนต์

                   พอจะเห็นภาพหรือยังครับว่าอนาคต เราสามารถใช้ น้ำ แทนน้ำมันได้แล้ว ไม่ว่า ทางตรงแบบบราซิล หรือ  ทางอ้อม แบบญี่ปุ่น

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก..กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

อรุณ ช้างขวัญยืน/เรียบเรียงและรายงาน