สืบสวนเมืองเชียงใหม่ จับหนุ่มหล่อขับแท็กซี่ Grabcar อนาจารสาววัย 17 ปี

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.60 เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.สรายุทธ     สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.อภิวัขร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.บัณฑิต จิตต์ภาคภูมิ รอง ผกก.สส.ฯ, นำโดย พ.ต.ท.ฐนศกน ประมาณ สว.สส., พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.อนันต์ คำมี รอง สว.สส., ร.ต.ท.อนันต์ พรหมมานอก ด.ต.ศักดา ถุงเงิน ด.ต.พนาพันธ์ ผ่องพันธ์ ด.ต.ธนวินท์ พรมวังขวา ด.ต.สมทรัพย์ ดวงคำ จ.ส.ต.ประดิษฐ์ แก้วก๋อง และ ส.ต.ต.เสถียร เปาแก้ว ได้ร่วมกันรับมอบตัว นายจรัญ หรือเติ้ล เนตะวัน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276/1 หมู่ 1 ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร นำส่งพนักงานสอบสวนในข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุ 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี และใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้

โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 20.20 น. น.ส.เอ(นามสมมติ) ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน โดยแจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 เวลาประมาณ 18.05 น. ได้เรียกรถรับจ้างจาก แอพพลิเคชั่น Grabcar มารับเพื่อไปอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมามีนายเติ้ล ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุล ผู้ต้องหานี้ ขับขี่รถยนต์เก๋งมิตซูบิชิมิราจ ทะเบียน4088 (จำหมวดอักษรและจังหวัดไม่ได้)มารับ น.ส.เอ ที่หน้าบ้าน โดยนั่งทางด้านหลังคนขับ ระหว่างที่ น.ส.เอ นั่งอยู่ในรถผู้ต้องหาได้ชวน พูดคุย และพูดในทำนองจีบ ผู้ต้องหาได้ชวน น.ส.เอฯ ไปขับรถเที่ยวรอบเมืองและ น.ส.เอฯ ตกลงไปด้วย เมื่อถึงบริเวณถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาได้จอดรถให้น.ส.เอฯ ไปนั่งข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความไว้ใจ น.ส.เอ จึงลงจากรถไปนั่งด้านหน้ากับผู้ต้องหา ระหว่างนั่งรถผู้ต้องหาได้กระทำอนาจาร น.ส.เอฯ หลายครั้ง แต่น.ส.เอฯ ไม่กล้าขัดขืน เนื่องจากกลัวผู้ต้องหาจะทำร้าย และ น.ส.เอ บอกว่าผู้ต้องหาได้พาขับรถไปบริเวณพื้นที่เปลี่ยว มืด และไปจอดรถหน้าหอพักไม่ทราบชื่อ น.ส.เอ ถูกผู้ต้องหากระทำอนาจารอีกหลายครั้ง และเมื่อผู้ต้องหากลับมาส่ง น.ส.เอ บริเวณประตูท่าแพ ผู้ต้องหาได้บอกกับ น.ส.เอ ว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร ผู้เสียหายจึงได้ มาแจ้งความร้องทุกข์

ต่อมาใน 26 พ.ค.60 เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่ารถคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน ขษ 4088 เชียงใหม่ มีนายจรัญฯ เป็นคนขับ จึงออกตามหาจนทราบว่านายจรัญพักอาศัยอยู่ที่หอพักมาวินเพลส ถนนศรีภูมิซอย 3 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบเมื่อพบนายจรัญเจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นายจรัญฯ ได้สำนึกผิดและยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง Grabcar ประมาณ 4 เดือนแล้ว เมื่อวันที่ 21 พ.ค.60 เวลาประมาณ 18.00 น. มีผู้ใช้บริการแอพพลิเคชั่น Grabcar เรียกให้ตนไปรับที่ย่านช้างคลาน แล้วไปส่งที่ถนนคนเดินท่าแพ ระหว่างทางได้มีการพูดคุยหยอกล้อกันจนกระทั่งขับรถถึงที่หมายแต่ยังขับรถวันต่อไปเรื่อยๆบริเวณนั้น เพราะตนเองรู้สึกชอบ น.ส.เอ ผู้เสียหาย และได้บอกกับผู้เสียหายว่าตนเองจะขอกอดจากนั้นได้กอดและจูบแต่ผู้เสียหายมีอาการหวาดกลัวจึงหยุดและพาไปส่งที่ถนนคนเดิน โดยนายตะวันสมัครใจยินยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอแจ้งเตือนสมาชิกที่เป็นหญิงสาวให้ระมัดระวังตัวหากต้องเดินทางคนเดียวอาจจะไม่ปลอดภัย

CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

รายงาน

สืบสวนเมืองเชียงใหม่ จับผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ นักท่องเที่ยว ย้ำให้ระวังของมีค่าห้ามใส่ตะกร้า !!!

วันที่ 11 ธันวาคม 2556 ณ หน่วยงานสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าตำรวจสืบสวน นำโดย พ.ต.อ.วีรวุฒิ เนียมน้อย รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดเชียงใหม่,พ.ต.อ.อักษร วงค์ใหญ่ ผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่,พ.ต.ท.ศักดิ์ศรี ยะปาละ รอง ผกก.สืบสวนฯ,พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สสฯ,พ.ต.ต.ยุทธการ เมธาสว.สสฯ,,ร.ต.อ.กฤตภาส ธนวัฒนันทกุล,ร.ต.อ.จริศักดิ์ หาญเตชะ,ร.ต.ท.อนันต์ คำมี,ร.ต.ท.ชัยพล ชัยชนะ,ด.ต.เกียรติศักดิ์ หลักดี,ได้ร่วมกันเจ้าหน้าที่กงศุลจีน แถลงผลการจับกุม
นายบัญชาหรือปุ้ย ฤทธิ์ไธสง อายุ 30 ปี ที่อยู่ 202/16 หมู่ที่ 6 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จว.เชียงใหม่ พร้อมของกลางกว่าร้อยรายการ
ในข้อหา”วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร”
พฤติการณ์แห่งการณ์จับ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.56 เวลาประมาณ 23.00 น.นักท่องเที่ยวชาวจีน Mr.Luyi fan ได้ถูกคนร้ายวิ่งราวทรัพย์กระเป๋าสะพายภายในบรรจุโทรศัพท์และทรัพย์สินมีค่าไป จากการสอบถามผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตำหนิรูปพรรณของคนร้าย จึงได้ออกติดตามสืบสวน ผู้ที่มีพฤติการณ์และมีลักษณะตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั้งวันที่ 10 ธ.ค.56 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ครั้งนี้คือนายบัญชาหรือปุ้ย ฤทธิ์ไธสง จึงได้ไปเฝ้าบริเวณหน้าบ้านที่พักของนายบัญชาฯ ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไป นายบัญชาฯได้แสดงท่าทางมีพิรุจจะขับขี่รถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำตรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้แล้วทำการขอตรวจค้นตัว พบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 ตรวจสอบหมายเลขเครื่องปรากฎว่าตรงกับของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ถูกวิ่งราวทรัพย์ไป สอบถามนายบัญชาฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จริง แล้วได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นตรวจยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์
จากการขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาและจากการให้การของนายบัญชาฯ รับว่าก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวจีน โดยเริ่มทำความผิดมาตั้งแต่ปลายกันยายนที่ผ่านมาดังนี้
1.เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2556 ที่หน้าโรงแรมบีพี ถนนราชมรรคา ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
2.เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 2556 ที่เยื้องหน้าโรงแรมบีพี ถนนราชมรรคา ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
3.เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2556 ที่ถนนราชดำเนิน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
4.เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2556 ที่ถถนมณีนพรัตน์ หน้าวัดป่าเป้า ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
5.เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2556 ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ ถนนราชมรรคา ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
6.เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2556 ที่ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
7.เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2556 ที่หน้าวัดมณเฑียร ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
8.เมื่อวันที่ 3 .ธ.ค.2556 ที่ปากซอย 1 ถนนพระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
9.เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2556 ที่แยกยาคูลท์เก่า ถนนสามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
10.เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2556 ที่หน้าโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ถนนราชวิถี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของการเป็นผู้ต้องหาให้ทราบ ผู้ต้องหา”ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาแผ่นดินต่อไป

คลิปข่าว

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=TH0_ga9HMJM[/youtube]

สืบสวนเมืองเชียงใหม่ จับไทยใหญ่ก่อเหตุปล้นทรัพย์ทำร้ายร่างกายเหยื่ออาการสาหัส!!!

ตำรวจสืบเมืองเชียงใหม่จับกุมไทยใหญ่ตั้งก๊วนปล้นทรัพย์วัยรุ่น ไล่เอามีดดาบเข้าฟันทำร้ายอาการสาหัส

เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 17 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา ที่ห้องสืบสวน สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อักษร วงศ์ใหญ่ ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.ศักดิ์ศรี ยะปาละ รอง ผกก.สส.สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส.สภ.เมือง พ.ต.ท.ยุทธการ เมธา สว.สส. ร.ต.ท.ศิริศักดิ์ จิตรหาญ รอง สว.สส. ร.ต.ต.เสนาะ เขียวอยู่ รอง สว.สส. พร้อมกับพวกร่วมกันจับกุมตัวนายเพชร หรือขวด จ่าหลิง อายุ 17 ปี นายอ่อง หรือเอก ลุงปัน อายุ 20 ปี นายพง หรือเคอ ลุงทูล อายุ 17 ปี นายสาย หรือเมือง อ่องคำ อายุ 19 ปี และนายดาว หรือ ดาว สายคำ อายุ 20 ปี ทั้งหมดเป็นชาวไทยใหญ่ ปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยจับกุมได้ที่หอพักย่านถนนช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 16 มิ.ย.56 เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันบนถนนช้างคลาน – ป่าพร้าวนอก ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หน้าร้านอาหารซิสเตอร์ จึงได้ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชายวัยรุ่น อายุ 16 ปี และ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง จำนวน 2 คน ถูกอาวุธมีดฟันตามศรีษะ แขนและขาอาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทำการรักษา จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียหายทั้งสอง กำลังเดินเล่นบนสะพานเหล็ก ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระหว่างนั้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเป็นชาวไทยใหญ่ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจำนวน 3 คัน  เข้ามาโดยสองคนในนั้นมีมีดดาบยาว ไล่ฟันกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่บนสะพานดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายเห็นดังกล่าวจึงขับหนี แต่กลุ่มไทยใหญ่ยังคงไล่ตามทำร้าย จนไปรถล้มที่บริเวณหน้าร้านอาหารซิสเตอร์ จึงถูกรุมฟันและปล้นเอาโทรศัพท์มือถือไปจำนวน 1 เครื่อง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสืบสวนจนจับกุมตัวได้ทั้งหมด สอบสวนให้การรับสารภาพ โดยนายเพชร หรือขวด และนายอ่อง หรือเอก ใช้มีดดาบยาวเข้าฟัน ส่วนนายสาย หรือเคอ ใช้สนับต่อย ส่วนที่เหลือใช้ต่อยและเตะ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป