วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

รูดม่าน เก็บฉาก นโยบายรถยนต์คันแรก เพิ่มรถบนถนนล้านกว่าคัน

Spread the love

รูดม่าน เก็บฉาก นโยบายรถยนต์คันแรก

เพิ่มรถบนถนน     ล้านกว่าคัน

scoop

รัฐสูญรายได้ไปแล้ว   8หมื่นกว่าล้าน

           ท่านผู้อ่านครับ เมื่อต้นเดือนกันยายน 2558ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า กระทรวงการคลังเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการรับมอบรถยนต์ตามโครงการรถยนต์คันแรก โดยกำหนดให้สิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งผู้ขอใช้สิทธิ์จะได้รับสิทธิ์ตามโครงการรถยนต์คันแรกได้จะต้องรับมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้เท่านั้น ส่วนการยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้ยื่นภายใน 90 วัน นับถัดจากวันรับมอบรถยนต์ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังระบุชัดเจนว่า หากรับมอบรถยนต์ภายหลังวันที่ 30 ก.ย.2558 ให้ถือว่าไม่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการรถยนต์คันแรก และจะเรียกร้องสิทธิและค่าเสียหายใดๆกับทางราชการไม่ได้

          เป็นอันสิ้นสุดนโยบายอะไรก็มิทราบได้ ไปเสียที

           ลองมาทบทวนความหลังกัน

           โครงการรถยนต์คันแรกเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2554-31 ธ.ค.2555 โดยมีมติ ครม.เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2555 ระบุว่า ในวันที่ 31 ธ.ค.2555 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดโครงการทางกระทรวงการคลังในขณะนั้นเห็นว่า ผู้ขอใช้สิทธิ์ในโครงการรถยนต์คันแรก อาจจะยังไม่ได้รับมอบรถยนต์หรือ จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกไม่ทันตามกำหนดเวลา ส่งผลให้ไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆได้ภายในวันสิ้นสุดโครงการ จึงผ่อนผันให้ผู้ใช้สิทธิ์นำเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมมายื่นภายใน 90 วัน นับจากวันถัดจากการรับมอบรถยนต์ ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาการสิ้นสุดของการรับมอบรถยนต์ที่จะขอใช้สิทธิ์ตามโครงการรถยนต์คันแรกไว้ ทำให้โครงการไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด

            มีตัวเลขกลมๆโชว์ออกมา ว่าตั้งแต่เริ่มโครงการรถยนต์คันแรกมีผู้ขอใช้สิทธิ์จำนวน 1,259,113 ราย

             คิดเป็นเงินที่รัฐจะต้องจ่ายคืนจำนวน 92,813 ล้านบาท

             ถึงวันนี้  มีผู้ได้รับเงินคืนตามโครงการแล้วจำนวน 1,101,751 ราย รัฐ สูญรายได้ไปแล้วเป็นเงิน 81,190 ล้านบาท

                  ปัจจุบันยังมีผู้ยังไม่ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมจำนวน 113,483 ราย โดยกรมสรรพสามิตได้ส่งแบบสอบถามความประสงค์การขอใช้สิทธิ์ไปยังผู้ขอใช้สิทธิ์จำนวน 111,865 ราย ปรากฏว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมาจำนวน 10,289 ราย ไม่มีผู้รับจำนวน 1,391 ราย และมีผู้ไม่ตอบแบบสอบถามจำนวน 100,176 ราย โดยในจำนวนแบบสอบถามที่มีผู้ตอบกลับมามีผู้ประสงค์ยังขอใช้สิทธิ์อยู่จำนวน 2,397 ราย ไม่ระบุความประสงค์จำนวน 281 รายและไม่ประสงค์ขอใช้สิทธิ์ 7,620 ราย

                 อนึงเมือวันที่ 23 กันยายน 2558 สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ รายงานข่าวว่า     ตามที่ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติและจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการรถยนต์คันแรก และจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 จำนวน 30,000 ล้านบาท เพื่อคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินคันละ 100,000 บาท นั้น

             นางสาวสุภาวิตา ผลประเสริฐ สรรพสามิตพื้นที่ลำพูน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี ได้มีมติกำหนดวันสิ้นสุดการรับมอบรถยนต์ โดยให้ผู้ที่ยื่นใช้สิทธิ์ จะต้องรับมอบรถยนต์ตามแบบและรุ่นที่จองไว้ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2558 และให้นำเอกสารการรับมอบรถยนต์และเอกสารที่เกี่ยวข้องยื่นต่อสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ลำพูน ที่ได้ยื่นคำขอใช้สิทธิ์ไว้ในครั้งแรก ภายใน 90 วัน นับถัดจากวันรับมอบรถ หากไม่ได้รับมอบรถยนต์หรือรับมอบรถยนต์หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2558 ถือว่าไม่ได้รับสิทธิ์คืนเงินตามโครงการดังกล่าว และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิค่าเสียหายใดๆกับทางราชการได้

                         สำหรับจังหวัดลำพูน ได้มีผู้มายื่นขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้นจำนวน 8,559 รายและได้เงินคืนไปแล้ว จำนวน 7,350 ราย คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 492,077,216 แต่ขณะนี้ ยังมีผู้ที่ได้ยื่นขอใช้สิทธิ์ฯ โดยได้ยื่นคำขอใช้สิทธิ์พร้อมใบจองรถยนต์ไว้ แต่ยังไม่ได้รับมอบรถยนต์จากผู้จำหน่ายรถยนต์ ตามแบบและรุ่น ที่ได้จองไว้อีกประมาณ 600 กว่าราย ซึ่งในเงื่อนไขของการใช้สิทธิ์รับเงินคืนนั้น จะต้องยื่นเอกสารการรับมอบรถยนต์และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายใน 90 วัน นับถัดจากวันรับมอบรถยนต์

                    ท่านใดมีข้อซักถาม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ลำพูน หมายเลขโทรศัพท์ 053-511039 และ 053-560706 ในวันเวลาราชการ และทางเว็บไซต์ http://lamphun.excise.go.th

                 รีบๆหน่อยครับโอกาสยังพอมี พ้นจากวันที่30กันยายนไป ถือว่า จบข่าว.

 

อรุณ ช้างขวัญยืน/เรียบเรียงและรายงาน

 สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ