ย้าย444นักโทษเข้าคุก’ซูเปอร์แม็กซ์ตัดวงจรเครือข่ายยาบ้า
ระยะหลังๆ มานี้ การจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดแทบทุกครั้งมักเชื่อมโยงไปยังนักโทษที่ต้องขังอยู่ในเรือนจำเป็นผู้บงการอยู่เสมอ ล่าสุดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงมอบหมายให้กรมราชทัณฑ์แก้ปัญหานี้โดยเร่งด่วน โดยให้ย้ายนักโทษคดียาเสพติดที่มีพฤติการณ์เป็นผู้บงการซื้อขายยาเสพติดไปคุมขังไว้ที่เรือนจำเขาบิน แดน 6 จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่คุมขังความมั่นคงสูงสุด หรือ “ซูเปอร์แม็กซ์” เพื่อตัดวงจรเครือข่ายค้ายาเสพติด
การเคลื่อนย้ายนักโทษไปคุมขังยังเรือนจำกลางเขาบิน กรมราชทัณฑ์เตรียมแผนดำเนินการไว้ 3 ระยะ โดยระยะแรกได้ย้ายนักโทษที่มีพฤติการณ์สั่งค้ายาเสพติดในเรือนจำต่างๆ ไปคุมขังที่แดนความมั่นคงสูงเรือนจำเขาบินแล้ว 129 คน อยู่ระหว่างการดำเนินการระยะที่ 2 คือให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คัดกรองข้อมูลด้านการข่าวว่ามีนักโทษรายใดมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดกับเครือข่ายยาเสพติดภายนอก เบื้องต้นมีรายชื่ออยู่ระหว่างดำเนินการแล้ว 93 คน ซึ่งกรมราชทัณฑ์เตรียมจะเคลื่อนย้ายนักโทษจำนวนนี้เข้าคุก “ซูเปอร์แม็กซ์” ให้ครบทั้งหมดในเร็วๆ นี้
สำหรับระยะที่ 3 กรมราชทัณฑ์จะพิจารณาจากบัญชีรายชื่อผู้ต้องขังจากเรือนจำทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีอีกประมาณ 200 คน ที่มีพฤติการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดภายนอก ส่งไปควบคุมตัวในคุก “ซูเปอร์แม็กซ์” เช่นกัน ซึ่งแดนซูเปอร์แม็กซ์ปัจจุบันนี้ สามารถรองรับนักโทษได้เต็มที่จำนวน 444 คน
พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ระบุว่า จากการติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติดในปัจจุบันพบว่า หลายเครือข่ายเชื่อมโยงกับนักโทษที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งล่าสุดในบัญชีของ บช.ปส.มีนักโทษจำนวน 60 ราย ที่ยื่นรายชื่อเสนอให้กรมราชทัณฑ์ย้ายจากสถานที่คุมขังเดิมไปอยู่ในเรือนจำความมั่นคงสูง หากรวมกับของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมีอยู่อีกประมาณ 33 คน จะมีผู้ต้องขังลอตนี้มากถึง 93 คน ต้องเร่งย้ายไปคุมขังยังคุก “ซูเปอร์แม็กซ์”
“ในเรือนจำมีนักโทษคดียาเสพติดถูกคุมขังอยู่จำนวนมาก มีไม่น้อยที่ฉวยโอกาสเจรจาซื้อขายยาเสพติดระหว่างกัน โดยมีหลายรายที่สามารถโทรศัพท์สั่งซื้อยาเสพติดได้จากต่างประเทศแล้วนำมากระจายต่อให้เครือข่าย โดยอาศัยจังหวะที่ญาติเข้าเยี่ยมนัดหมายซื้อขายยาเสพติด หรืออาจจะอาศัยจังหวะที่ออกนอกคุก เช่น การไปขึ้นศาลต่อสู้คดี หรืออ้างเจ็บป่วยจำเป็นต้องรักษาพยาบาล เพื่อหาช่องทางซื้อขายยาเสพติดกัน” พล.ต.ท.สุรพล กล่าว
ส่วนแหล่งผลิตยาเสพติด พล.ต.ท.สุรพล ยืนยันว่า ยังคงอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มีการลักลอบนำเข้าไทยทางชายแดนภาคเหนือและภาคอีสาน ก่อนจะถูกนำมาพักในพื้นที่ชั้นในทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อกระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ รวมถึงชุมชนต่างๆ ในกรุงเทพมหานครและใกล้เคียง
สอดคล้องกับ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ยอมรับว่า ปัญหาการค้ายาเสพติดที่มีนักโทษในเรือนจำเป็นผู้บงการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับว่าบางเรือนจำมีเจ้าหน้าที่ของราชทัณฑ์มีพฤติการณ์พัวพันยาเสพติดเสียเอง โดยมีการนำเข้าไปในเรือนจำเสียเอง ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์มีการดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่เหล่านี้ตั้งแต่เบาไปหาหนัก
“บางเรือนจำยังมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งได้ดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ตั้งแต่การไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับระบบควบคุม ย้ายออกไปพื้นที่อื่นไปจนถึงไล่ออกจากราชการ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการที่เด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
สำหรับการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับคุก “ซูเปอร์แม็กซ์” ยืนยันว่ามีความพร้อมเต็มที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ปฏิบัติการอยู่ที่นั่นมีการคัดกรองมาอย่างดี ขณะที่ตัวสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ มีความพร้อมสูง พร้อมจะใช้ในการคุมขังนักโทษยาเสพติดรายใหญ่ และนักโทษที่มีอิทธิพลรายสำคัญที่มีพฤติกรรมใช้เคลื่อนไหวโดยการใช้โทรศัพท์มือถือสั่งยาเสพติดจากภายในเรือนจำ หรือใช้การติดต่อสื่อสารเพื่อสั่งการเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมภายนอก
สถานที่คุมขังนักโทษคดียาเสพติดแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในแดน 6 เรือนจำกลางเขาบิน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี บนเนื้อที่ 9 ไร่ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556 ใช้งบประมาณไป 286,867,000 บาท สามารถรองรับนักโทษได้ 444 คน หรือเต็มที่ไม่เกิน 500 คน แบ่งเป็นห้องแยกขังที่ชั้น 4 จำนวน 60 ห้อง ส่วนชั้น 2 และ 3 เป็นห้องขังรวมห้องละ 12 คน แต่ไม่เกิน 15 คน จำนวน 32 ห้อง
นายยศพนต์ สุธรรม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่อยู่ในแดนความมั่นคงสูงต้องปฏิบัติตามกรมราชทัณฑ์กำหนดทุกอย่าง รวมไปถึงความเป็นอยู่ ของใช้ เสื้อผ้า ส่วนผู้ต้องหาที่ขังเดี่ยวจะไม่มีเจ้าหน้าที่ส่งอาหารให้ถึงห้องขัง และจะให้ออกมาภายนอก เพื่อผ่อนคลายร่างกายอาทิตย์ละ2 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนผู้ต้องขังที่ถูกขังรวมสามารถออกมาผ่อนคลายได้ทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง
ส่วนญาติที่มาเยี่ยมจะต้องเป็นญาติตามกฎหมายเท่านั้น เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ถ้าเป็นภรรยาต้องจดทะเบียนสมรส หรือภรรยาที่มีลูกด้วยกัน หากนอกเหนือจากนั้นจะอนุญาตให้เป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้เครือข่ายยาเสพติดแฝงตัวเข้ามาพบกับนักโทษยาเสพติดในฐานะญาติได้
“คุกซูเปอร์แมกซ์ของเรือนจำกลางเขาบินจะคัดย้ายผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศที่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการสั่งยาเสพติด การใช้โทรศัพท์มือถือ หรือสนับสนุนให้มีการค้ายาเสพติด ซึ่งขณะนี้มีนักโทษจากเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศย้ายมาแล้วจำนวน 219 คน ครั้งที่ 2 ย้ายเข้ามาอยู่จากข้อมูลของ ป.ป.ส. จำนวน 68 คน และอีก 2 ราย จาก จ.ร้อยเอ็ด และ จ.อำนาจเจริญ ก็เตรียมที่จะย้ายเข้ามาอยู่หลังคดีสิ้นสุด รวมถึงนักโทษจากข้อมูล ป.ป.ส.ของเรือนจำกลางเขาบิน จำนวน 15 คน ซึ่งทยอยนำตัวเข้าคุมขังใน “ซูเปอร์แมกซ์” แล้ว 386 คน” นายยศพนต์ เปิดเผย
ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน ยืนยันว่า ในคุกซูเปอร์แม็กซ์มีความทันสมัย สามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์ได้ 100% มีการบริหารจัดการและควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มีกล้องวงจรปิด 360 ตัว แม้แต่การเยี่ยมญาติก็ใช้ระบบวิดีโอแบบซิสเต็มส์ ไม่ให้เปิดโอกาสให้ญาติสัมผัสตัวผู้ต้องขัง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแลทางจอภาพ และถ้ามีปัญหาเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงตัวผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว ในการควบคุมดูแลนักโทษ จะไม่ให้เจ้าหน้าที่กับผู้ต้องขังพบกัน
ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20140630/187326.html
สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ