วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทาน มอบช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

Spread the love

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทาน มอบช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

DSC_0031

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระราชูปถัมภ์ จัดหน่วยสงเคราะห์เคลื่อนที่ ออกช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ราษฎร

วันนี้ (9 ก.ย. 57) เวลา 11.30 น. ที่หอประชุม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงษ์ ประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และคณะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง มอบช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ราษฎรผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชนะ  แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด กิ่งกาชาดอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการจากหน่วยงานทุกสังกัดในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ และได้ร่วมกันนำถุงยังชีพพระราชทานมอบช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้มอบถุงยังชีพพระราชทาน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ชราภาพ ผู้พิการ ผู้ด้วยโอกาส และราษฎรผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อน รวมจำนวน 1,000 ครัวเรือน ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสบอุทกภัย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.แม่อาย หมู่ที่ 2-5 และหมู่ที่ 7-12 ต.สันต้นหมื้อ หมู่ที่ 1,3,4 ต.ท่าตอน หมู่ที่ 9 ต.มะลิกา หมู่ที่ 6 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,259 ครัวเรือน จำนวน 3,238 คน

โดยสิ่งของพระราชทานที่นำมามอบแก่ราษฎรในครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้บังเกิดความปลาบปลื้ม และความปลื้มปิติยินดีแก่ราษฎรทุกหมู่เหล่า ซึ่งราษฎรประชาชนที่ได้รับมอบถุงยังชีพพระราชทานต่างซาบซึ้ง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความห่วงใย ของทั้ง 2 พระองค์ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรอย่างล้นพ้น

CNX NEWS รายงาน


มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบผ้าห่มกันหนาว

24 ธ.ค. 2013
655
Spread the love

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานมอบกับราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

 

       มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานมอบกับราษฎรผู้ประสบภัยหนาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. นายประวิทย์   หาญณรงค์ รองประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในการนำผ้าห่มกันหนาวพระราชทานมามอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ที่ทำการอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

นายชนะ   แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยหนาวที่เกิดขึ้นหลายจังหวัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น ราษฎรหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากความหนาวเย็นจำนวนมากรวมทั้งทำให้การดำรงชีวิตประจำวันได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้เดือดร้อนจากภันหนาวครั้งนี้ไปแล้วบางส่วนแต่ยังไม่ทั่วถึง ต้องกราบขอบพระคุณคณะกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้กรุณาสงเคราะห์ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยหนาว ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและมูลนิธิประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์

นายบุญลือ   ธรรมธรานุรักษ์ ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองรักษาการแทนนายอำเภอเชียงดาว เปิดเผยว่า อำเภอเชียงดาว เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ระยะห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 72 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 7 ตำบล 83 หมู่บ้าน มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 9 แห่ง มีพื้นที่ประมาณ 2,169 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,355,625 ไร่ มีประชากรทั้งหมด 81,291 คน เป็นชาย 41,044 คน เป็นหญิง 40,247 คน จำนวนครัวเรือน 27,414 ครัวเรือน ภูมิประเทศ ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะยอดดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอำเภอเชียงดาว สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 2,275 เมตร และสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ

สถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ทุกปีในห้วงตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวเย็น และหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในช่วงฤดูหนาว ประมาณ 13 – 15 องศาเซลเซียส ยกเว้นหมู่บ้านที่อยู่บนพื้นที่สูง เช่น บ้านสันเกี๊ยะ หมู่ 5 ตำบลเมืองคอง บ้านแกน้อย หมู่ 2 บ้านไชยา หมู่ 9 และบ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ตำบลเมืองนะ มีอุณหภูมิประมาณ 5 – 7 องศาเซลเซียส สำหรับอุณหภูมิในพื้นที่ราบของอำเภอเชียงดาว ที่ตรวจวัด ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอเชียงดาว มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกินกว่า 3 วันตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2556 และวัดได้เมือเช้านี้ 9.4 องศาเซลเซียส โดยอำเภอเชียงดาวได้รายงานเหตุด่วนสาธารณภัยเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว สำหรับความต้องการเครื่องนุ่งห่มกันหนาว อำเภอเชียงดาว ได้สำรวจและรายงานจังหวัดเชียงใหม่ ตามรายละเอียดดังนี้ ผู้ได้รับความเดือดร้อน 30,240 คน แยกเป็น ผ้าห่มนวม จำนวน 21,325 ผืน เสื้อกันหนาว จำนวน 4,717 คน ผ้าห่มไหมพรม จำนวน 4,198 ผืน

 

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน


มูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบถุงยังชีพ พระราชทานช่วยเหลือ จ.แม่ฮ่องสอน

Spread the love

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสพภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯบ้านแม่สุริน อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสพภัย

 

บ่ายวันนี้ (25 มี.ค 56) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงษ์ ประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำสิ่งของพระราชทานเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ณ ศูนย์พักพิงบ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้รับความเดือดร้อยจากเหตุเพลิงไหม้ศูนย์ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. 2556 ซึ่งประกอบด้วยถุงยังชีพพระราชทาน และเครื่องครัว รวมทั้งเครื่องห่มกันหนาวทั้งหมดกว่า 500 ชุด นายกองเอกวิลาศ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้คนไทย แต่ก็เป็นผู้อพยพที่เข้ามาพึ่งพาอาศัยในแผ่นดินไทย เมื่อเกิดความเดือดร้อนก็ต้องให้การช่วยเหลือ ขอให้ทุกคนที่เดือดร้อนได้บรรเทาทุกข์ ขอให้มีความสุขและช่วยกันดูแลพื้นที่ต่อไปเพื่อความอุดมสมบูรณ์แห่งป่าไม้และสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย

นายชาญชัย ศรีเสถียร นอภ.ขุนยวม กล่าวว่า ขณะนี้ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ จำนวน กว่า 2,300 คน ได้อพยพออกมาปักหลักอยู่ห่างบริเวณแคมป์ที่เกิด เหตุไฟไหม้ประมาณ 500 เมตร พักเป็นการชั่วคราว ทางด้านองค์กรเอกชนข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ UNSCR ได้ให้การสนับสนุนเต้นท์ 800 หลัง ผ้าห่ม 1,200 ผืน เสื้อผ้า 1,200 ตัว สิ่งของทั้งหมดขนเข้าไปยังศูนย์แล้วและใช้งานได้ทันทีภายในวันนี้ ส่วนที่พักใหม่ที่จะก่อสร้างแทนที่ถูกไฟไหม้ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ที่ดูแลศูนย์ พักพิงจะดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนในพื้นที่เดิม

ทางด้านนายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เผยถึง การการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุเพลิงไหม้ที่ศูนย์พักพิงแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน โดยทีมแพทย์ พยาบาลและจิตแพทย์ตรวจรักษา ตั้งแต่วันที่ 22 – 25 มีนาคม 2556 มีผู้มารับบริการรักษาพยาบาล จำนวน 123 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไอ เจ็บคอ อุจจาระร่วง ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต 18 ราย ส่วนใหญ่เครียด กังวล มีอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ ส่วนการเฝ้าระวังโรคระบาดที่เกิดจากคนอยู่รวมกันจำนวนมาก มีระบบสุขาภิบาลมีจำกัด ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องสุขาภิบาลความสะอาดน้ำดื่ม กำจัดขยะมูลฝอย และจัดทำสุขาชั่วคราวให้เพียงพอ

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน

 


มูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบสิ่งของพระราชทานแก่เด็กนักเรียน

09 พ.ย. 2012
655
Spread the love

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบสิ่งของพระราชทานแก่เด็กนักเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 

 

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปภัมภ์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นำชุดนักเรียนพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 967 ชุด มอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (8 พ.ย. 55) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปภัมภ์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นำชุดนักเรียนพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปมอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จำนวน 967 ชุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 นับเป็นสถานศึกษาที่ได้รับ   พระมหากรุณาธิคุณ จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ 9 ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เด็กด้อยโอกาสทั้ง 10 ประเภทได้ศึกษาเล่าเรียนและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นโรงเรียนลำดับที่ 31 ในจำนวน 43 โรงเรียนทั่วประเทศ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยทุกภาคเรียนและทุก ๆ ปี มูลนิธิราชประชานุเคราะห์จะออกเยี่ยมเยือนและติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ทั้ง 43 โรง พร้อมนำสิ่งของพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบให้กับนักเรียน ซึ่งปีนี้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิ        ราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ไปมอบสิ่งของพระราชทานแทน นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ   อันหาที่สุดมิได้ ของนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 และเหล่าพสกนิกรชาวอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ทุกคนด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ไม่เคยทอดทิ้งพสกนิกร ทรงห่วงใย ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้อานาประชาราษฎร์ อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา

นางยุพิน คำปัน ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31  กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รวม 24 ห้องเรียน มีนักเรียนทั้งสิ้น 967 คน พักอยู่ในโรงเรียนทั้งหมด เป็นนักเรียนที่ต้องได้รับโอกาสทางการศึกษาเนื่องจากเป็นชนกลุ่มน้อยบ้านอยู่ห่างไกลจากสถานศึกษา โดยเป็นชนเผ่าต่าง ๆ ดังนี้ คือ เผ่ากระเหรี่ยง จำนวน 700 คน ลีซอ จำนวน 8 คน ละว้า จำนวน 7 คน เผ่าลั้ว จำนวน 132 คน เผ่าม้ง จำนวน 72 คน พื้นราบ 48 คน มีข้าราชการครู 25 คน พนักงานราชการ 39 คน ลูกจ้างประจำ 1 คน ครูอัตราจ้าง 2 คน เจ้าหน้าที่ธุรการ จำนวน 1 คน พนักงานบริการ พนักงานขับรถ ยาม นักการภารโรง คนครัว พี่เลี้ยงเด็ก รวม 21 คน รวมบุคลากรทั้งสิ้น 27 คน

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 มุ่งจัดการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาสที่มีคุณภาพและมาตรฐาน พัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณธรรมจริยธรรม ทักษะอาชีพและทักษะการดำรงชีวิตที่ดีและเป็นสถานศึกษาต้นแบบแหล่งความรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภายในปี 2558 โดยได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนที่เน้นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อาทิ โครงการสถานศึกษาพอเพียง โครงการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ และเน้นพัฒนาทักษะอาชีพโดยโรงเรียนจัดให้มีโครงการส่งเสริมอาชีพอิสระเพื่อการมีรายได้ระหว่างเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนทุกคน เข้าร่วมโครงการ โดยฝึกอาชีพประเภทต่าง ๆ ดังนี้ อาชีพปลูกพืชผักสวนครัวไร้สารพิษ ทำสวนกล้วย ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ ทำขนม อาหาร ทอผ้าและทำผลิตภัณฑ์จากผ้าทอพื้นเมือง ผลิตสินค้าศิลปหัตกรรมท้องถิ่น ผลิตน้ำดื่มจำหน่าย บริการตัดผม บริการนวดเพื่อสุขภาพ การแสดงดนตรีทั้งดนตรีไทย ดนตรีสากล และนาฏศิลป์ และการวาดภาพโดยยืมเงินพระราชทาน ฝึกอาชีพ และระดมทุนจากสมาชิก จากผลการดำเนินงานด้านอาชีพของนักเรียนทำให้โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้แสดงผลงาน ทั้งในระดับภูมิภาค และ ระดับประเทศ มาอย่างสม่ำเสมอ นักเรียนมีโอกาสได้เผยแพร่แสดงผลงาน ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะนำไปสู่การประกอบอาชีพต่อไป ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเน้นการทำเกษตรกรรมตามหลักเกษตรทฤษฏีใหม่ ในภาคเรียนที่ผ่านมาโรงเรียนผ่านการประเมินศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นศูนย์การเรียนรู้โครงการตามพระราชดำริ ประจำอำเภอแม่แจ่ม จากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม

 

ขอบคุณข่าวจาก ไผท  สุวรรณเสวตร     สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

สำนักข่าว 
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน