มช.จัดประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติ ครั้งที่ 8
คณะแพทยศาสตร์ มช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส)
พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติดและสำนักยุทธศาสตร์
จัดประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติ ครั้งที่ 8
ศูนย์เสพติดภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) จัดประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติ ครั้งที่ 8 เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาด การป้องกัน และแก้ไขปัญหาสารเสพติดทั้งของประเทศไทยและต่างประเทศ ให้เกิดความรู้และความเข้าใจเพื่อนำผลไปประยุกต์ใช้ในเชิงนโยบายและทางปฏิบัติทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคในการพัฒนานักวิชาการสารเสพติดรุ่นใหม่ให้มีความเข้าใจและมีทักษะที่เกี่ยวข้องในงานวิชาการสารเสพติดที่ทันสมัย การประชุมจัดให้มีขึ้นในระหว่าง วันที่ 2-4 กันยายน 2556 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส
นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการสารเสพติดครั้งที่ 8 เปิดเผยว่า การประชุมวิชาการสารเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 8 สำนักงาน ป.ป.ส ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อรองรับแบ่งเบาพระราชภาระขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเพื่อการปลูกพืชทดแทนพืชฝิ่น ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่อย่างหาที่สุดมิได้ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ของการครองสิริราชสมบัติ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยามเสพติดได้มีนโยบาย ยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เป็นที่ทราบกันดีว่าการดำเนินงานต่างๆ ของภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวไม่อาจจะทำให้สังคมปลอดยาเสพติดได้หากแต่จำเป็นต้องมีการดำเนินการร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคประชาชน จึงจะนำไปสู่การแก้ไขป้องกันปัญหาที่ได้ผลและมีความต่อเนื่องยั่งยืน ดังนั้นสำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการใช้องค์ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาที่ถูกต้องมาเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการวางนโยบาย เป้าหมมาย ยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ ในการป้องกันแก้ไขปัญหาให้ได้ผล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติดและสำนักยุทธศาสตร์ ที่ได้ร่วมมือกันจัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น โดยจะมีการแลกเปลี่ยน การอภิปลาย การจัดนิทรรศการผลงานวิชาการ องค์ความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับชุมชน และก่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนักวิจัย นักวิชาการ ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานและตัวแทนภาคประชาสังคม อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการร่วมมือกันอย่างแนบแน่นในการแก้ไขป้องกันปัญหายาเสพติดที่เข้มแข็งยั่งยืนต่อไป
ด้าน ผศ.ดร.นพ. อภินันท์ อร่ามรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการสารเสพติดภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดของประเทศในปัจจุบันจัดได้ว่าอยู่ในขั้นวิกฤต โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมีการผลิตยาเสพติดทั้งภายในประเทศและมีการลักลอบนาเข้ามาจากต่างประเทศมากมายหลายชนิด อาทิ เฮโรอีน ยาบ้า ยาอี ก่อนที่จะมีกฎหมายห้ามเสพห้ามค้ายาเสพติด ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของสารเสพติดมากว่า 50 ปีที่ ถึงแม้มีการดาเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวด ใช้ทรัพยากรทั้งบุคคลและงบประมาณอย่างมากมาย ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะได้ปราบปรามจับกุมการค้ายาเสพติดอย่างเข้มงวดและจริงจัง แต่ก็ไม่ทาให้การแพร่ระบาดของยาเสพติดลดลงเลย กลับมีการเปลี่ยนแปลงทั้งชนิดของยาเสพติด รูปแบบการเสพ กลุ่มประชากรที่เสพ ตลอดจนกระบวนการผลิต ลักลอบขนส่งและจัดจาหน่ายดังจะเห็นได้จากในอดีตการแพร่ระบาดของเฮโรอีนในกลุ่มประชากรวัยทำงาน เปลี่ยนมาสู่การแพร่ระบาดของยาบ้าในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุลดน้อยลง โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดนอกจากนี้สภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ของประเทศก็มีความแตกต่างกันไปตามภาวะแวดล้อม ทั้งทางภูมิประเทศ สังคม วัฒนธรรม ตลอดจนกลุ่มประชากร ทาให้การแก้ไขปัญหาทั้งด้านการป้องกันและปราบปรามสารเสพติด ต้องแตกต่างและหลากหลายไปตามความแตกต่างของแต่ละพื้นที่ การแก้ไขปัญหาจึงต้องการข้อมูลที่ทันสถานการณ์ของทั้งปัญหาเดิมที่ยังแก้ไขไม่ได้และการแพร่ระบาดใหม่การประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติจัดต่อเนื่องทุก 1-2 ปี ในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 8 คาดว่าจะมี ผู้เข้าร่วมราว 300 คน ซึ่งเป็นบุคลากรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติ สำหรับการประชุมประกอบด้วยประเด็นสำคัญ อาทิ สถานการณ์ปัญหาการแพร่ระบาดของสารเสพติดในปัจจุบันของประเทศไทย นโยบายด้านยาเสพติดและการบำบัดในชุมชนของไทยและต่างประเทศ บทเรียนการบำบัดยาเสพติดในชุมชนจากสำนักงานอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ จากออสเตรเลีย จากมาเลเซีย จากเวียดนาม การปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านการบำบัดยาเสพติดในชุมชน 4 ภาคของไทย ยุทธศาสตร์ระดับท้องถิ่นชุมชนในพื้นที่ชุมชนเมือง เขตชนบท แนวชายแดน และพื้นที่ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้การประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติจึงเป็นเวทีและเป็นโอกาสให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดจะได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้และนำกลับไปใช้ประโยชน์ในงานและในหน่วยงานของตน เพื่อการก้าวทันต่อสถานการณ์ต่อสภาพปัญหาสารเสพติดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาต่อไป
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ