ประชุมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.กับผู้บริหาร ป.ป.ช.ส่วนกลาง

                     รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่นำหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและ อำเภอเข้ารับฟังการประชุมทางไกลเรื่องการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.กับผู้บริหาร ป.ป.ช.ส่วนกลาง เพื่อสร้างความเข้าใจถึงกระบวนการสรรหาก่อนที่จะดำเนินการสรรหาให้เกิดความ โปร่งใส และได้ผู้มีความรู้ความสามารถและเสียสละเข้ามาเป็นกรรมการ เบื้องต้นดำเนินการใน 32 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ด้วยวันนี้ (24 เม.ย.56) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับฟังการชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะทำงานที่ปรึกษาการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดและนายอำเภอ ผ่านระบบ Video Conference จาก นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. และคณะ โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ผู้แทนจาก 25 อำเภอได้รับฟังการประชุมชี้แจงผ่านระบบ Video Conference ด้วยการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. เกิดขึ้นสืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 246 วรรคท้าย บัญญัติให้มีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด โดยคุณสมบัติ กระบวนการสรรหา และอำนาจหน้าที่ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงได้ออกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่า ด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ.2555 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัด ซึ่งระเบียบดังกล่าว ได้กำหนดให้มีการคัดเลือกคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. ขึ้นมาคณะหนึ่งก่อนในแต่ละจังหวัด โดยให้ผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรในแต่ละจังหวัด รวม 9 กลุ่มองค์กรหรือหน่วยงานคัดเลือกกันเองให้เหลือหน่วยงานหรือองค์กรละหนึ่งคน รวม 9 คน ประกอบด้วย 1. สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์หรือสมาคมทางการศึกษา 2. สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย 3.สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน 4.สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด 5.กลุ่มอาสาสมัคร 6. องค์กรเอกชน 7.องค์กรเกษตรกร 8.สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน และ 9.หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด โดยจะเริ่มกระบวนการสรรหาครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2556 เป็นต้นไปในพื้นที่ 32 จังหวัด ซึ่งรวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ส่วน 44 จังหวัดที่เหลือจะดำเนินการในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม 2556สำหรับขั้นตอนต่อไปเมื่อได้ทำการคัดเลือกคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.เรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.ในแต่ละจังหวัด โดยดำเนินการตรวจคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ประวัติ และพฤติการณ์ของผู้สมัครเป็นกรรมการ ป.ป.จ. แต่ละราย ซึ่งแต่ละจังหวัดมีจำนวนไม่เท่ากัน แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คนและต้องไปไม่เกิน 5 คน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ ป.ป.จ. และกรรมการ ป.ป.จ. โดยจะมีการประกาศรับสมัครจากบุคคลที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณสมบัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.จะพิจารณาคัดเลือกไว้เป็นสองเท่าของจำนวนกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตประจำจังหวัด แล้วนำรายชื่อจัดทำบัญชีเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งให้เป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตประจำจังหวัดตามจำนวนของแต่ละจังหวัดต่อไป โดยประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดจะได้รับค่าตอบแทน เป็นรายเดือน ๆ ละ 57,650 บาท ส่วน กรรมการ ป.ป.จ. ได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน ๆ ละ 47,240 บาทสำหรับบทบาทหน้าที่ของ กรรมการ ป.ป.จ. จะมีบทบาทในการส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งประสานความร่วมมือกับประชาชนและส่วนราชการเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้ ประชาชนในทุกระดับได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริต อันเป็นการป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับความ ซื่อสัตย์สุจริตให้ประชาชนหรือกลุ่มบุคคลในทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับพื้นที่ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ จะมีกรรมการ ป.ป.จ.จำนวน 5 คน และคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.จะต้องพิจารณาคัดเลือกไว้รวม 10 คน จากนั้นจะจัดทำบัญชีรายชื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตประจำจังหวัด (กรรมการ ป.ป.จ.) จำนวน 5 คน โดยขอเชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและพฤติการณ์ ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.จ. เพื่อให้การคัดเลือกของจังหวัดเชียงใหม่เป็นไปอย่างโปร่งใสและได้บุคคลที่ เป็นคนดีในพื้นที่ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการส่ง เสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเข้ามาเป็นกรรมการ ป.ป.จ. ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในแต่พื้นที่ที่จะเร่งระดมปูพรมกำจัดการทุจริต อย่างต่อเนื่องและครบวงจรต่อไป โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5389-6201-3, 0-5389-6029-30 โทรสาร 0-5389-6202-3, 0-5389-6029

ขอบคุณที่มา http://region3.prd.go.th

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ