วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัด CBG พัฒนาพลังงานทดแทน

Spread the love

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัด CBG พัฒนาพลังงานทดแทน

 

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัด CBG พัฒนาพลังงานทดแทน สร้างความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต ที่จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (15 ก.พ.56) เวลา 09.30 น. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัด CBG(Compressed Bio – methane Gas) เพื่อการคมนาคมแห่งแรกของประเทศไทย ณ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่เกิดจากการบูรณาการจากหลายภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาพลังงานทดแทน โดยนำวัตถุดิบจากภาคเกษตร โดยเฉพาะในกลุ่มหญ้าเลี้ยงช้างซึ่งถือเป็นพืชพลังงานที่สำคัญในปัจจุบัน และของเสียจากมูลสุกร มาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพและนำมาปรับสภาพเป็นก๊าซ CBG มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในยานยนต์หรือ NGV ให้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกภาคขนส่งในอนาคตนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า โครงการ CBG เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน มหาวิทยาลัยลัยแม่โจ้ และผู้เชี่ยวชาญภาคเอกชน ซึ่งร่วมกันศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการนำก๊าซชีวภาพมาผลิตเป็นไบโอมีเทนอัดหรือก๊าซ CBG โดยใช้วัตถุดิบสำคัญ 2 ส่วน คือมูลสุกรประมาณ 10-12 ตันต่อวัน จากสุกรในโครงการ 35,000 ตัว และหญ้าเลี้ยงช้างหมักประมาณ 20-23 ตันต่อวัน เมื่อนำวัตถุดิบทั้งหมดผ่านกระบวนการทางเทคนิค จะสามารถใช้งานและมีมาตรฐานตามกำหนดของกระทรวงพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตก๊าซ CBG ได้ 6 ตันต่อวัน และสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถรถยนต์ได้ประมาณ 500 คันต่อวัน หรือรถขนส่งขนาดใหญ่ได้ 40 คันต่อวัน ทดแทนการนำเข้าดีเซลได้ประมาณปีละ 2.2 ล้านลิตร ลดการใช้ก๊าซ LPG ได้ประมาณปีละ 1.6 ล้านกิโลกรัม โดยเบื้องต้นกระทรวงพลังงานจะร่วมกับ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ในการจำหน่ายเป็นโครงการนำร่องให้รถยนต์ในจังหวัดเชียงใหม่นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมผลสำเร็จของความร่วมมือในการดำเนินโครงการดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาพลังงานทดแทน และการสร้างความเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าพลังงานของประเทศได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการวิจัยด้านพลังงานทดแทน รองรับความมั่นคงทางพลังงาน นอกจากนั้นยังถือเป็นโครงการต้นแบบเพื่อขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เป็นการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

 

ขอบคุณภาพและข่าว จาก http://www.prcm.prdnorth.in.th/ct/news/viewnews.php?ID=130215204948

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน