คณะแพทยศาสตร์ มช. จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ประจำปีการศึกษา 2559
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2559 เพื่อรำลึกถึงครูผู้ไร้ลมหายใจ ผู้อุทิศร่างเป็นตำราให้เป็นวิทยาทาน แก่การศึกษาเล่าเรียนของนักศึกษา จำนวน 538 ร่าง และเป็นการบำเพ็ญกุศลรวมถึงฌาปนกิจอาจารย์ใหญ่ ในระหว่างวันที่ 16 – 18 ธันวาคม 2559
โดยในวันศุกร์ ที่ 16 ธันวาคม 2559 จะเริ่มพิธีทางศาสนา ระหว่าง เวลา 18.30 – 21.00 น. ณ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และในวันเสาร์ ที่ 17 ธันวาคม 2559 จะเคลื่อนศพอาจารย์ใหญ่ จากคณะแพทยศาสตร์ เวลา 07.00 น. ไปยังวัดวัดลัฏฐิวัน (พระนอนขอนตาลศักดิ์สิทธิ์) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และพระราชเพลิงศพ ในเวลา 14.45 น. โดยมี พระเทพโกศล เจ้าคณะ จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีโสดา พระอารามหลวง เป็นประธานพิธีพระราชเพลิงศพ ฝ่ายสงฆ์ และศ.คลินิก นพ.วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ ฝ่ายฆราวาส และในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 จัดทำพิธีทำบุญอัฐิ และลอยอังคาร (ดำเนินการโดยภาควิชากายวิภาคศาสตร์) เวลา 09.00 น. ณ แม่น้ำปิง ตรงข้ามวัดลัฏฐิวัน
นับตั้งแต่ก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ได้จัดการเรียนการสอนโดยมี “อาจารย์ใหญ่” เป็นเสมือนทั้งอาจารย์และตำราเล่มหลัก หากนักศึกษาไม่ได้ศึกษาสภาพอวัยวะจริง รวมทั้งตำแหน่ง และความสัมพันธ์กับอวัยวะใกล้เคียงจากร่างอาจารย์ใหญ่ก่อนแล้ว ย่อมเรียนวิชาชีพในชั้นปีที่สูงขึ้นได้ยาก ดังนั้นนักศึกษาและอาจารย์ทุกคนจึงเคารพและซาบซึ้งในพระคุณของอาจารย์ใหญ่ ในฐานะที่ท่านเป็นอาจารย์ และในฐานะที่ท่านเป็นผู้มีพระคุณ ทั้งต่อนักศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ และต่อคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคณะแพทยศาสตร์ว่า เมื่อจบการศึกษาแล้ว ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจอาจารย์ใหญ่ทุกท่าน โดยมีพิธีสองวัน ในวันแรกเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลช่วงกลางคืน ซึ่งเกิดขึ้นที่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนที่สองเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลช่วงเช้าและฌาปนกิจช่วงบ่าย ซึ่งเดิมจัดขึ้นที่สุสานสันกู่เหล็ก จนกระทั่งปี การศึกษา 2548 หัวหน้าภาควิชาในขณะนั้นคือศาสตราจารย์แพทย์หญิงผาสุก มหรรฆานุเคราะห์ ได้ทำเรื่องถึงสำนักพระราชวังเพื่อขอพระราชทานเพลิงศพ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพตั้งแต่ปีการศึกษา 2548 เป็นต้นมา และเนื่องจากปัญหาด้านการจราจรและพื้นที่อันจำกัด จึงได้เปลี่ยนสถานที่พระราชทานเพลิงศพเป็นที่วัดลัฏฐิวัน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 จนถึงปัจจุบัน