ขอมติประชาชน“กัลยกรณ์”ชน”เจ๊แดง เยาวภา” ชิงเลือกตั้งซ่อมส.ส.เชียงใหม่ เขต3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อ 23 มี.ค.56 ที่ผ่านมาเพื่อพิจารณาคัดเลือก ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เชียงใหม่ เขต 3 ที่ว่างลงหลังจาก นายเกษม นิมมลรัตน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยลาออก โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ นางกัลยกรณ์ เจียมกิจวัฒนา อดีตผู้สมัครของพรรค ลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส. เพราะมีคุณสมบัติเหมาะสม และเป็นผู้สมัครเก่าของพรรค อีกทั้งยังเป็นคนในพื้นที่ เป็นนักกิจกรรม และเป็นสื่อมวลชนที่เป็นที่รู้จัก พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ นายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก และกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อมด้วย
แนวทางการหาเสียงครั้งนี้จะ เน้นในเรื่องการลาออกของนายเกษมเพื่อหลีกทางให้เจ้านายตัวเอง กลับเข้ามาเป็นสส.อีกครั้ง ทำให้ต้องเสียงบประมาณในการเลือกตั้งซ่อม โดยเชื่อว่าคนเชียงใหม่จะหันมาสนับสนุนให้โอกาสผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ มติ พรรคเพื่อไทยส่ง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ลงเลือกตั้งซ่อมส.ส.เชียงใหม่ แทนที่ เกษม นิมมลรัตน์ ที่ลาออกไปก่อนหน้า มอบ บุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง นาย ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลาออกของนายเกษม นิมมลรัตน์ ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไม่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน โดยเหตุผลที่อ้าง ไม่ว่าจะเป็นการไปทำงานการเมืองท้องถิ่น หรือเรื่องของสุขภาพ เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเปิดทางให้กับเจ้าของเก้าอี้ตัวจริงได้กลับมามี ตำแหน่งในสภาฯ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าการทำงานการเมืองโดยเห็นประชาชนเป็นเพียง คะแนนที่ทำให้ตัวเองเข้าไปสู่สภาได้ ไม่ได้คำนึงถึงเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของตำแหน่ง ส.ส.ที่ควรจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนที่เลือกเข้ามา แต่กลับเป็น ส.ส.เพื่อขัดตาทัพให้เจ้านายของตัว และผู้มีอำนาจในพรรค หรือผู้ที่จะเข้ามาเตรียมตัวเป็นนายกฯ สำรองในกรณีเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเคยแถลงหลังจากที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งที่จังหวัดปทุมธานี ว่า หากต่อไปมีสมาชิกลาออกเพื่อลงเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคจะไม่อนุญาตเพราะประชาชนเบื่อการเลือกตั้งซ้ำๆ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปไม่ถึงปี เหตุการณ์เดิมก็เกิดอีก ด้วยข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลเพียงแค่หลีกทางให้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวนายกรัฐมนตรี เข้าไปคุมเกมในสภาและรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งหมดสะท้อนคำมั่นสัญญาของพรรคเพื่อไทยว่าเชื่อถือไม่ได้ หากพรรคการเมืองไม่สามารถรักษาสัจจะที่ให้กับประชาชนได้ จึงขอเรียกร้องพี่น้องเชียงใหม่ว่า เราต้องเสียค่าเลือกตั้งซ่อมครั้งแรกกรณี น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากซุกหนี้ต่อ ป.ป.ช.ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมเสียเงินไปกว่า 10 ล้านบาท คราวนี้จะต้องเสียอีก 10 กว่าล้าน เพียงเพื่อให้ นางเยาวภา เป็น ส.ส.ถือว่าประเทศลงทุนกับตำแหน่ง ส.ส.ในพื้นที่นี้มาก และขอสนับสนุนแนวคิด กกต.ว่าผู้ที่ทำให้มีการเลือกตั้งใหม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือก ตั้ง ส่วนที่มีการกระทบกระเทียบว่าหากไม่หยุดพูดจะมีการฟ้องร้องนั้น ตนยืนยันว่าเป็นการติชมโดยสุจริต ไม่กลัวการข่มขู่เรื่องฟ้องร้อง และยินดีว่าหากจะมีการใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง ก็จะต่อสู้ทุกเวที จึงขอท้าให้ฟ้องได้เลย เพราะมีแต่คนเลวกับคนทำผิดที่กลัวศาล หนีความผิดแต่ไม่ใช่พวกตนที่พร้อมเผชิญกับกระบวนการยุติธรรมทุกเวลา
ด้าน พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อคัดสรรเลือกบุคคลลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ แทนที่นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีตส.ส.ของพรรคที่ลาออกไปก่อนหน้านี้จากปัญหาสุขภาพ
โดย นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เลือก นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ให้ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ในนามของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งมอบหมายให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ด้วย
นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย มีคุณสมบัติพร้อมลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 เพราะนางเยาวภาพ้นโทษจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่เดิมที่เคยลงสมัคร และ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาว เคยลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย แต่การจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมนั้น ผู้ที่ต้องการลงสมัครต้องแสดงความจำนงผ่านคณะกรรมการบริหารพรรค และกรรมการจะเป็นผู้เลือก แต่ขณะนี้นางเยาวภายังไม่ได้พูดว่าจะลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้หากนางเยาวภาประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งจริงก็พร้อมเคารพในการ ตัดสินใจ เพราะเป็นสิทธิ์ของนางเยาวภา
นายสมชาย กล่าวต่อ ส่วนกระแสข่าวที่นางเยาวภาถูกวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรีสำรองแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนั้นไม่เป็นความจริง วันนี้ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีตัวจริง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียว กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน และ ส.ส.ในสภา และต้องมีมติพรรคอย่างเป็นทางการไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ผูกขาดเฉพาะคนตระกูลชินวัตรเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งของประชาชนและ ส.ส.การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการวางตัวนายกรัฐมนตรีสำรอง หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพ้นจากตำแหน่งก็ เลือกนายกฯ ใหม่ได้ทันที พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.265 เสียง รวมกับพรรคร่วมแล้วกว่า 300 เสียง พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งเยอะ เป็นนายกฯ ได้หลายคน อย่างไรก็ตามตนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี ประชาชนให้การยอมรับ ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แหงชาติ (ป.ป.ช.) นั้นมั่นใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำทุกอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามอยากให้รอดูการวินิจฉัยและยืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยเคารพในคำ วินิจฉัยของ ป.ป.ช.
ทีมข่าวการเมือง
สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน