แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดสุดท้ายตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์เพื่อสร้างเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวฯ
วันที่สามของการศึกษาดูงานภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ สื่อมวลชน มัคคุเทศก์ ผู้แทนสภาวัฒนธรรมและ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน (อป.มช.) ของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่ง อัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 โดยได้เดินทางไปร่วมทำบุญที่สะพานบุญ จากนั้นจึงเข้ารับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินกิจกรรมตามโครงการจากวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน
การศึกษาดูงานภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ สื่อมวลชน มัคคุเทศก์ ผู้แทนสภาวัฒนธรรมและ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน (อป.มช.) ของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งตามประเพณีและวัฒนธรรมชาวไทใหญ่ ณ สะพานซูตองเป้ สวนธรรมภูสมะ หรือ “สะพานแห่งความสำเร็จ” ซึ่งเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร เชื่อมระหว่างสวนธรรมภูสมะข้ามแม่น้ำแม่สะงา ผ่านทุ่งนาไปถึงหมู่บ้านกุงไม้สัก เพื่อให้พระภิกษุสามเณรใช้เป็นทางเดินไปบิณฑบาต และชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกในช่วงฤดูฝน จากนั้นคณะศึกษาดูงานได้เดินทางกลับโรงแรมอิมพิเรียล ซึ่งเป็นสถานที่พักแรมเพื่อเข้ารับฟังบรรยายสรุปจาก นางศันสนีย์ พุกกานนท์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้ให้ข้อมูลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า ได้ดำเนินกิจกรรมการจัดเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องอัตลักษณ์ล้านนา จากนั้นได้ว่าจ้างภาควิชาการทำการสืบค้นอัตลักษณ์ล้านนาของ 4 จังหวัด ทั้งเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน การจัดทำเวทีประชาคมเพื่อสรุปอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของ 4 จังหวัด ซึ่งอาจจะเป็นอัตลักษณ์ใหม่ที่ค้นพบ หรืออาจเป็นอัตลักษณ์เดิม มีการจัดกิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ “งานสู่เส้นทางถนนสายวัฒนธรรมเมืองสามหมอก” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกวันเสาร์ โดยครั้งแรกกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ไปสิ้นสุดวันที่ 6 ธันวาคม 2557 ซึ่งภายในงานมีการจัดแสดงแสง สี เสียงประวัติศาสตร์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน การจัดกาดฮีต ซึ่งมีลักษณะเหมือนการจัดกาดหมั้ว โดยมีสินค้าทุกชนิดมาแสดงและจำหน่าย รวมถึงสินค้าภูมิปัญญา และ สินค้าชาติพันธุ์ โดยกำหนดจัดขึ้นบริเวณ “ขัวเผือก” ทั้งนี้ชาวแม่ฮ่องสอนซึ่งมีหลายชาติพันธุ์ก็จะมาร่วมกิจกรรมการแสดงที่บ่งบอกถึงประเพณีวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ตนเองภายในงานด้วย จึงทำให้ชาวแม่ฮ่องสอนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความรักใคร่ปรองดองกันแม้ว่าจะมีชาติพันธุ์ที่ต่างกันหลังจากนั้นคณะสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพระบรมราชินูปถัมภ์ ชมนิทรรศการชาติพันธุ์ ห้องทรงงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โครงการตามพระราชดำริและสินค้าในโครงการศิลปาชีพฯ ต่อมาได้เดินทางไปสักการะพระธาตุดอยกองมู ชมทัศนียภาพเมืองแม่ฮ่องสอน และเดินทางต่อไปยังอำเภอปายโดยพักแรม 1 คืน และวันสุดท้ายของการศึกษาดูงานในพื้นที่อำเภอปาย ได้เข้าสักการะพระสิงห์ปาย พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองปาย ซึ่งประดิษฐานที่วัดศรีดอนชัย วัดแรกของเมืองปาย ต่อด้วยการเดินทางไปสักการะพระเจ้าอุ่นเมือง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ผู้ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกอบกู้เอกราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา ณ วัดน้ำฮูออกจากวัดน้ำฮู คณะสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่แวะเยี่ยมชมวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนานในประเทศไทย ณ บ้านสันติชล ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวจีนคณะชาติที่อพยพมาจากมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากพรรคก๊กมินตั๋ง ที่นำโดยนายพลเจียง ไค เชค พ่ายแพ้ให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จึนในช่วงปี พ.ศ.2492 -2493 และอพยพมาอาศัยในประเทศไทย ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นำเสนอเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนานในเมืองปายสำหรับสถานที่สุดท้ายที่คณะสื่อมวลชนเชียงใหม่เดินทางไปศึกษาดูงาน คือสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารญี่ปุ่นใช้สะพานแห่งนี้ ข้ามแม่น้ำปายเพื่อส่งเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า จากนั้นจึงเดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ