เส้นชีวิตทางการเมืองท้องถิ่น “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์” จากนายกเล็กจนถึงนายก “อบจ.เชียงใหม่” สานนโยบายรัฐส่งเสริมสินค้า OTOP เน้นการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจคนเมือง
นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อายุ 56 ปี เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2499 เป็นบุตรของนายใช้ และนางจิตรา บูรณุปกรณ์ และเกิดจากครอบครัวนักธุรกิจชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้ศึกษาชั้นประถมและชั้นมัธยมจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย รุ่นที่ 15 ศึกษาระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจบัณฑิต ปริญญาโท รัฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐ เอกชน และการเมือง รุ่นที่ 3 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.) พ.ศ.2546 และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์จัตุรภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.) พ.ศ.2548
เส้นทางการเมือง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ได้ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2542 ต่อมา ในปี พ.ศ.2543 นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ได้รับเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเมืองเชียงใหม่ให้เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ในนามของกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม
โดยได้รับการไว้วางใจของพี่น้องประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ถึงสองสมัยในปี พ.ศ.2547 ภายหลังจากได้บริหารงานได้เพียงไม่กี่เดือน นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ก็ได้ลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี จากปัญหาความขัดแย้งภายใน กระทั้งจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ก็ได้รับการไว้วางใจให้กลับมารับตำแหน่งนายกเทศมตรีอีกครั้ง โดยการสนับสนุนของพรรคไทยรักไทยและสายสัมพันธ์อันแนบแน่นใกล้ชิดกับคนในตระกูลชินวัตรและเป็นฐานเสียงสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ไว้วางใจของพรรคไทยรักไทยในสมัยนั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้นนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ก็ได้ไว้วางใจจากพรรคไทยรักไทยให้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2551 และได้รับคะแนนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศให้การรับรอง เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2551 แต่นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ยังถูกร้องเรียนในการคัดค้านผลการเลือกตั้งจากการทุจริต คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้มีการสอบสวนหาพยานหลักฐาน พร้อมกับส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางชี้มูลใน วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2552 จึงมีมติให้ใบแดงแก่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์พร้อมกับพวก 4 คน แล้วส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัยชี้ขาด ส่งผลให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นานเกือบ 3 เดือน ในที่สุดวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2552 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีคำพิพากษายกคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้คดีได้สิ้นสุดลง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์จึงได้บริหารงานจนครบวาระในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2555
กระทั้งได้มีการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ในนามผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เบอร์ 1 กลุ่มเพื่อไทยคุณธรรม ก็ได้รับคะแนนเสียงจากชาวจังหวัดเชียงใหม่ ถึง 402,484 คะแนน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศผลรับรอง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2555 จนกระทั้งมีการนับผลคะแนนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิสภาจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับรองอย่างเป็นทางการ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ได้คะแนนถึง 400,584 คะแนน นายถาวรเกียรติไชยากร ผู้สมัครหมายเลข 2 จากกลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ได้คะแนน 148,613 คะแนน ส่วนนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 95,368 คะแนน และนายขวัญชัย สกุลทอง ผู้สมัครอิสระหมายเลข 3 ได้คะแนน 41,983 คะแนน
ภายหลังจากการที่ได้กลับมาบริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสมัยที่ 2 นายบุญเลิศ บูรณุปรกณ์ ได้เปิดเผยว่าสิ่งที่จะต้องทำจากนี้ คือ การดำเนินการตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้และต่อยอดนโยบายที่ค้างไว้ในสมัยแรกให้สำเร็จ สำหรับเรื่องใหม่ที่จะต้องดำเนินการคือ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กลับมาเที่ยวอีกในจังหวัดเชียงใหม่ การดูแลสินค้า OTOP โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร เพิ่มศูนย์ฝึกอาชีพ 4 มุมเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่เคยกล่าวไว้ทุกนโยบายจะเร่งสร้างให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ การเตรียมความพร้อมของประชาชนเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเชียน จะมุ่งเน้นการพัฒนาภาษาต่างประเทศให้แก่เด็กนักเรียน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมทุกๆมิติ
สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน