วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

ตรวจประเมินผลงานชมรม จังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ

Spread the love

คณะกรรมการตรวจประเมินผลงานชมรมจังหวัด

TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ปี 2557 

 

คณะกรรมการตรวจประเมินผลงานชมรม จังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ปี 2557 ตรวจผลการดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ณ โรงเรียน  วัฒโนทัยพายัพ และ บริษัท ชอยส์ มินิสโตร์ จำกัด

นายวิเชียร  พุฒิวิญญู  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เปิดเผยว่า  จังหวัดเชียงใหม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการประกวดชมรม/จังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ปี 2557 ประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE ประเภทต้นแบบ รักษามาตรฐานต้นแบบระดับทอง ปีที่ 1 ซึ่งได้กำหนดเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ รอบที่ 1 การนำเสนอผลการดำเนินงานในพื้นที่ จำนวน 40 คะแนน และรอบที่ 2 การนำเสนอผลการดำเนินงาน ณ ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2557 จำนวน 60 คะแนน ซึ่งคณะกรรมการตรวจประเมินผลการดำเนินงานชมรม/จังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ปี 2557 ได้มีกำหนดการเข้าประเมินผลการดำเนินงานชมรม/จังหวัด TO BE NUMBER ONE เพื่อเก็บคะแนน รอบที่ 1 ของจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยภาคเช้าเวลา 08.00 น. เป็นต้นไป กำหนดเข้าตรวจประเมินผลการดำเนินงาน ณ โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ซึ่งได้มีการจัดบูธแสดงผลการดำเนินงานไว้รอรับการตรวจประเมินไว้ 11 บูธ และชุดการแสดง 2 ชุด ได้แก่ ชุด “งานสร้างสรรค์ TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่” และ ชุด “เยาวชน TO BE NUMBER ONE IDOL จังหวัดเชียงใหม่” โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 และ แรงงานจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนในการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการ  TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนในภาคบ่ายคณะกรรมการตรวจประเมินผลฯ เดินทางไปตรวจประเมินผลการดำเนินงาน ณ บริษัทชอยส์ มินิสโตร์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวถึงผลการดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่ ว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้น้อมนำพระดำรัสทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 จนถึงปัจจุบัน โดยเน้นการบริหารจัดการแบบบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ องค์กรเอกชน ภาคประชาชน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี ศูนย์ข้อมูล TO BE NUMBER ONE ในระดับจังหวัดและระดับอำเภอครบทุกอำเภอ  โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีสถานะเป็นจังหวัด TO BE NUMBER ONE ต้นแบบระดับเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นต้นแบบระดับทองในปี 2558 เพื่อก้าวขึ้นสู่ต้นแบบระดับเพชรในปี 2561 และเพื่อให้การดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่มีประสิทธิภาพและการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ปรับปรุงโครงสร้างคณะทำงานจากเดิม 5 คณะ เป็น 9 คณะ โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เป็นเลขานุการ มีการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การดำเนินงานอย่างชัดเจน โดยมีคณะกรรมการดำเนินงานทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอและระดับตำบล ถ่ายทอดนโยบายและยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งมอบหมายภารกิจแก่หน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานทุก 2 เดือน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานและรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการอำนวยการทราบ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้วางแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE ในระยะ 5 ปี เริ่มตั้งแต่การขยายเครือข่ายชมรม TO BE NUMBER ONE ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ การจัดตั้งและพัฒนาศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ให้ครบทุกอำเภอ การพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร ระหว่างสมาชิก TO BE NUMBER ONE ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้ TO BE NUMBER ONE ระหว่างจังหวัด การจัดทำแผนปฏิบัติการและบูรณาการแผนร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การบูรณาการงบประมาณดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งงบกองทุน งบประมาณของหน่วยราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และงบสนับสนุนจากองค์กรเอกชน มีการสร้างนวัตกรรม วิธีการใหม่ ๆ เพื่อให้การดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่ มีประสิทธิภาพและครอบคลุมเยาวชนกลุ่มเป้าหมายที่เสี่ยงต่อยาเสพติด โดยมีเป้าหมายการดำเนินงานปี 2557 อย่างชัดเจน ยึดแนวทาง 3 ยุทธศาสตร์หลัก ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 การรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีการจัดกิจกรรมของสมาชิกทั้งในระดับโรงเรียน ชุมชน สถานประกอบการ หน่วยงานกระทรวงยุติธรรม อำเภอและจังหวัด  ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน ทุกกลุ่มอายุ โดยจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนและสมาชิกในรูปแบบ  ต่าง ๆ การจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ตลอดจนการประกวดชมรมและศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ในระดับโรงเรียนและชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีการจัดตั้งศูนย์เพื่นใจ TO BE NUMBER ONE ในโรงเรียน 36 แห่ง ในสถานประกอบการ 29 แห่ง ในชุมชน 45 แห่ง และในเรือนจำ สถานพินิจ 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 112 แห่ง ดำเนินกิจกรรมภายใต้แนวคิด “ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนา EQ” ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีสมาชิก ชมรม TO BE NUMBER ONE กลุ่มอายุ 6-24 ปี จำนวนทั้งสิ้น 347,670 คน และมีการขยายชมรม TO BE NUMBER ONE ในโรงเรียน สถานประกอบการ ชุมชนและเรือนจำ/สถานพินิจ จำนวนถึง 1,310 ชมรม

สำหรับผลงานเด่นอันเป็นนวัตกรรมการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE มีดังนี้

1. การประสานความร่วมมือกับศิลปินพื้นบ้านในการจัดทำซีดีเพลงคำเมืองภาษาท้องถิ่น ขับร้องโดย TO BE NUMBER ONE IDOL จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์และสร้างกระแส TO BE NUMBER ONE เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติดแก่เยาวชนและประชาชนจังหวัดเชียงใหม่พร้อมกันทั้งในสถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชนและสื่อมวลชนทุกวันจันทร์และวันศุกร์ของสัปดาห์ซึ่งหพ้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

2. การขยายเครือข่ายชมรม TO BE NUMBER ONE กลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ตามแนวชายแดน ณ โรงเรียนอรุโรทัย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่มีหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อ ประกอบด้วย จีนฮ่อ ชาวไทยใหญ่ เชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอ หว้า คะฉิน มีฐานะค่อนข้างยากจน บิดามารดาทำงานนอกบ้าน ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว จึงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนจำนวนมากและเริ่มเข้าไปสู่กลุ่มเยาวชนในโรงเรียน โดยใช้จุดเด่นของวัฒนธรรมแต่ละชนเผ่า และการกล้าแสดงออกของนักเรียนมาเป็นจุดแข็ง พร้อมทั้งสร้างความตระหนักให้เยาวชนและชุมชน ให้รู้รัก กตัญญูต่อแผ่นดินเกิด เคารพยกย่องและศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงมีพระเมตตาต่อปวงชนทุกชนชั้นและทุกเชื้อชาติ

3. การจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ได้แก่ กลุ่มเด็กเร่ร่อน (street Children) ที่หนีออกจากบ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง  เป็นเด็กขอทาน ขายดอกไม้และเก็บขยะในเขตเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผลกฎหมายต่าง ๆ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือในการจัดการศึกษา ดูแลสุขภาพอนามัย จัดที่พักอาศัยชั่วคราว พร้อมทั้งจัดตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในเยาวชนกลุ่มนี้ พร้อมทั้งส่งเสริม และสนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้ที่ตนเองชอบ ทั้งในด้านดนตรี กีฬา การฝึกอาชีพ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้กับเยาวชนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พัฒนาศักยภาพและคุณภาพของเยาวชนให้เป็นคนที่กล้าแสดงออก เป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตนเอง

4. จัดตั้งศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ในศูนย์การค้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีกลุ่มเยาวชนไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีแหล่งเรียนรู้ ให้คำปรึกษา เป็นสถานที่ในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ตนเองชอบและแสดงความสามารถ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการที่ศูนย์การค้าพรอมมินาดา

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดเชียงใหม่ยึดหลักการบริหารจัดการแบบบูรณาการ มีคณะกรรมการขับเคลื่อนในทุกระดับ บูรณาการแผนงานและงบประมาณในทุกภาคส่วน เน้นการมีส่วนร่วมทั้งประชาชน ชุมชน องค์กรเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมตามยุทธศาสตร์หลักอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นเป้าหมายเด็ก และเยาวชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา

 

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน