วันอังคาร, 30 เมษายน 2567

เกมยื้อ การเมือง นกสิ้น เกาทัณฑ์ซ่อน เกม “พันธมิตร”

Spread the love

เกมยื้อ การเมือง นกสิ้น เกาทัณฑ์ซ่อน เกม “พันธมิตร”

 

แถลงการณ์การไม่เข้าร่วมชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงการณ์ถอนตัวออกจากท้องสนามหลวงของกลุ่มธรรมาธิปไตย

ทำให้ “ม็อบ” วันที่ 4 สิงหาคม-มีปัญหา แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังแสดงท่าทีในทางยุทธศาสตร์ที่จะต้องการล้ม “ระบอบทักษิณ”
แต่ไม่เข้าร่วมแม้ว่ากลุ่มธรรมาธิปไตยโดย นายทองดี นามแสงโคตร หรือ “สหายพิชิต” จะยืนยัน “ต่อต้านระบอบทักษิณจนถึงที่สุด” แต่ก็ขอถอนตัว

จึงทำให้กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณมีเพียงหน้ากากขาวชุด “หนุมานอาสา” และสันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทยเท่านั้นที่ยังเป็นแนวร่วม

ประสานเข้ากับ “ประชาธิปัตย์”

การถอนตัวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การถอนตัวของกลุ่มธรรมาธิปไตย แม้กระทำในทาง “ยุทธวิธี” มิได้กระทำในทาง “ยุทธศาสตร์”

แต่ก็ทรง “ความหมาย”

ท่าทีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นที่ปรากฏผ่านแถลงการณ์อาจอ้างเหตุผลเนื่องแต่คำสั่งศาล แต่ความจริงมีอะไรมากกว่านั้น
ที่สำคัญก็คือ การถอยในทาง “ยุทธวิธี”
ทาง 1 เปิดทางอย่างเต็มที่ให้กับองค์การพิทักษ์สยามซึ่งพัฒนามาเป็น “กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”

ทาง 1 เชิญชวนให้ “ประชาธิปัตย์” สำแดงบทบาท

ความหมายในทางเป็นจริงก็คือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้แสดงมาแล้วกระทั่งสามารถปูทางสร้างเงื่อนไขให้กับรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ได้แสดงมาแล้วกระทั่งสร้างเงื่อนไขให้กับตุลาการภิวัฒน์เมื่อเดือนธันวาคม 2551 ผลที่ตามมาก็คือ พรรคประชาธิปัตย์เสพผลพวงแห่งชัยชนะอย่างเต็มที่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ “กระสุน”

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเรื่องหอมหวานสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ แต่มองจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะมองจากมุม นายสนธิ ลิ้มทองกุล เจ็บปวดอย่างยิ่ง ขมขื่นใจอย่างยิ่ง นกสิ้น เกาทัณฑ์ซ่อน ถามว่ากองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณจะสามารถระดมมวลชนได้มากน้อยเพียงใด ทัดเทียมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่

คำตอบ 1 ดูจากการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555

คำตอบ 1 ดูจากกระบวนการเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าบนเวที “ผ่าความจริง” ไม่ว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

เวที “ผ่าความจริง” อาจร้อนแรง

แม้เวที “ผ่าความจริง” จะมากด้วยความร้อนแรง แต่บทสรุปของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คือ จะต้องดูที่วาระ 3 ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สะท้อนให้เห็นลักษณะ “ยืดเยื้อ” เพราะอย่างน้อยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเมื่อผ่านวาระ 1 ในขั้นรับหลักการในวันที่ 7 สิงหาคม ก็จะต้องเข้าสู่ขั้นกรรมาธิการ แปรญัตติ ในวาระ 2 และเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในวาระ 3 อย่างน้อยก็มากกว่า 10 วันขึ้นไป

วันที่ 7 สิงหาคมก็เสมอเป็นเพียง “อุ่นเครื่อง”

กระนั้น ภายในการอุ่นเครื่องก็สามารถอ่านเกมได้ว่าพลานุภาพแท้จริงของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณมีมากเพียงใด สายบัวบอกลึกตื้น ชลธาร อย่าลืมเป็นอันขาดว่าแม้ในทาง “ยุทธวิธี” ไม่เห็นด้วย แต่ในทาง “ยุทธศาสตร์” ยังเป็นเอกภาพ ขบวนการโค่น “ระบอบทักษิณ” จึงเป็นนวนิยายหลายตอนจบ ไม่ใช่เรื่องสั้นม้วนเดียวจอด เกมยังสามารถลากยาวไปจนถึงเดือนกันยายน

รัฐบาลจึงไม่ควร “ประมาท”

ขอบคุณภาพและข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1375503681&grpid=01&catid=12&subcatid=1200