วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

DSI แถลงผลการตรวจสอบโครงการให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อ

Spread the love

                 DSI แถลงผลการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับ กรณีโครงการให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในไต้หวัน

 

เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการตรวจสอบเบื้องต้นกรณีโครงการให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยในไต้หวัน ปรากฏดังนี้

                   จากการตรวจสอบพบข้อมูลดังนี้

– มูลนิธิการศึกษาอาชีพและเทคนิคนิติบุคล กลุ่มการเงินและสมาคมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติไต้หวัน ศูนย์การอบรมนักศึกษานานาชาติไต้หวัน(เป็นผู้ที่เข้ามาเสนอโครงการดังกล่าว กับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๔และเป็นผู้รับชำระเงินจากนักเรียนไทย)

– มหาวิทยาลัยในไต้หวัน (เป็นสถานศึกษาที่ทำการรับนักเรียนไทยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว)ได้แก่

๑. มหาวิทยาลัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเถาหยวน

๒. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ต้าหัว

๓. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนังหยง

๔. Ming Dao University

๕. Yung Ta Institute & Commerce

๖.Dahan Institute of Technoiogy

๗.HsingKuo University gonjv

-สำนัก งานเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ประจำประเทศไทย (เป็นหน่วยงานที่พิจารณาออกวีซ่าให้กับนักเรียนไทย เมื่อมีการสัมภาษณ์นักเรียนไทยเสร็จแล้ว ปรากฏว่าไม่ออกวีซ่าให้กับนักเรียนไทย โดยอ้างว่าไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ข้อเท็จจริงเบื้องต้นทราบมาว่าเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการกำหนดต่างไปจากเดิม และเพิ่งจะออกมาบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556 )

๒. การชำระเงินมีรายละเอียดการรับเงินจำนวน 3 ครั้งดังนี้

ครั้งที่ 1           จำนวนเงิน       1,240,000 บาท

ครั้งที่ 2           จำนวนเงิน       2,885,000 บาท

ครั้งที่ 3           จำนวนเงิน       1,936,450 บาท

รวม              6,061,450 บาท

รายละเอียดการรับเงินครั้งที่ 1

วัน ที่ 22 มีนาคม 2556มูลนิธิการศึกษาอาชีพและเทคนิคนิติบุคคล กลุ่มการเงินและสมาคมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติไต้หวัน ศูนย์การอบรมนักศึกษานานาชาติไต้หวัน พร้อมประชาสัมพันธ์ แนะแนวการรับสมัครนักเรียนที่สนใจเข้าเรียนต่อ ณ โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง Mr.Chu Chi Ping (Peter Chu) ประธานมูลนิธิการศึกษาอาชีพและเทคนิคนิติบุคคลกลุ่มการเงินและสมาคมการ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติไต้หวัน ศูนย์การอบรมนักศึกษานานาชาติไต้หวัน ได้รับเงินจากนักเรียน และ ผู้ปกครอง โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิรับ เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เป็นเงิน 1,240,000 บาท

                   รายละเอียดการรับเงินครั้งที่ 2

วันที่ 10 เมษายน 2556 Mr.Chu Chi Ping (Peter Chu) ประธาน มูลนิธิการศึกษาอาชีพและเทคนิคนิติบุคคล กลุ่มการเงินและสมาคมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติไต้หวัน ศูนย์การอบรมนักศึกษานานาชาติไต้หวัน ได้มารับเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เป็นการรับเงินครั้งที่ 2 จำนวน 2,885,000 บาท จากนายพิชิตพล สุทธิสานนท์ ในห้องนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 มีการลงชื่อในใบสำคัญรับเงิน โดยมีพยานบุคคลรับรู้เหตุการณ์

                   รายละเอียดการรับเงินครั้งที่ 3

วันที่ 11 เมษายน 2556Mr.Chu Chi Ping (Peter Chu) ประธาน มูลนิธิการศึกษาอาชีพและเทคนิคนิติบุคคล กลุ่มการเงินและสมาคมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติไต้หวัน ศูนย์การอบรมนักศึกษานานาชาติไต้หวัน ได้มารับเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เป็นการรับเงินครั้งที่ 3 จำนวน 1,936,450 บาท จากนายพิชิตพล สุทธิสานนท์ ในห้องนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 มีการลงชื่อในใบสำคัญรับเงิน โดยมีพยานบุคคลรับรู้เหตุการณ์โดยบอกว่าจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อตั๋ว เครื่องบิน เพื่อเดินทางตามกำหนดการครั้งแรกคือวันที่
19 เมษายน 2556

                   ทั้งนี้มีการยื่นขอวีซ่าจำนวน 3 ครั้ง

การยื่นขอวีซ่าครั้งที่ 1

วัน ที่ 12 เมษายน 2556 ยื่นวีซ่าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย จำนวน 245 คน ปรากฏว่าสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ไม่รับเอกสาร โดยไม่แจ้งเหตุผลใดๆ จึงต้องเลื่อนการเดินทางครั้งที่ 1

การยื่นขอวีซ่าครั้งที่ 2

ต้นเดือนมิถุนายน 2556 ได้ทำการยื่นวีซ่าอีกครั้ง โดยมีรองอธิการมหาวิทยาลัย Ming Dao University,รองอธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนังหยง,ภรรยาของMr.Chu Chi Ping (PeterChu),Mr.HuangJian Jung, นายพิชิตพล สุทธิสานนท์, นางจิราภรณ์ สุทธิสานนท์ เข้าประชุมร่วมกับหัวหน้าวีซ่าและต่อ Miss เฉิน เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทยเป ประจำประเทศไทย ซึ่งทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ได้ให้หัวหน้าแผนกวีซ่า และเจ้าหน้าที่ออกวีซ่าดูเอกสารยื่นขอวีซ่าของนักเรียน พร้อมทั้งขอถ่ายเอกสารเก็บไว้ และแนะนำเรื่องการเตรียมเอกสาร โดยให้เกณฑ์ประกอบการขอวีซ่าให้มาทำเอกสารให้ครบถ้วน และบอกว่าอาจจะมีการสัมภาษณ์เป็นภาษาจีน ดังนั้นจึงได้กลับมาจัดเตรียมเอกสารตามที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทยแนะนำ ผลการประชุม ทั้งสองมหาวิทยาลัยติดบัญชีดำ เป็นสองในเจ็ดมหาวิทยาลัย ตามเอกสารที่ทางหัวหน้าวีซ่านำมาบอก จึงไม่สามารถออกวีซ่าได้

การยื่นขอวีซ่าครั้งที่ 3

เดือน สิงหาคม 2556 นักเรียนยื่นเอกสารขอวีซ่าต่อสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจฯ ได้รับเอกสารไว้และนัดสัมภาษณ์นักเรียนเมื่อการสัมภาษณ์แล้วเสร็จ ปรากฏว่าสำนักงานเศรษฐกิจฯ ไม่ออกวีซ่าให้นักเรียน โดยมีการตั้งเกณฑ์ต่างจากเดิม ซึ่งได้รับทราบเกณฑ์ดังกล่าว พึ่งกำหนดออกมาเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556 เช่น GPA ต้องไม่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ย 3.00,  สเตทเม้น 6 เดือนย้อนหลังต้องมีเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท, ระดับการสอบภาษาต่างประเทศต้องระดับ TOEIC 300,การสอบสัมภาษณ์ภาษาจีน HSK ต้องระดับ LEVEL 2 จาก เกณฑ์ดังกล่าวปรากฏว่าไม่มีเด็กนักเรียนคนไหนที่ผ่านเกณฑ์นี้ทั้งหมด รวมทั้งนักเรียนไทยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ และจากสถาบันอื่นทั่วประเทศ จำนวน 700 คน ไม่ได้รับการออกวีซ่าจากสำนักงานเศรษฐกิจฯ เมื่อได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ จึงได้มีการเตรียมประชุมชี้แจงผู้ปกครองนักเรียน

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการ ต่อไปดังนี้

– การไปดูงานทั้งสองครั้งของ ผอ.โรงเรียนมัธยมศึกษาและศึกษานิเทศก์ที่มหาวิทยาลัยในไต้หวัน ได้ตรวจสอบว่ามีโครงการดังกล่าวจริงหรือไม่

– ได้ทำการตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับนักเรียนไทยไปศึกษาหรือไม่ อย่างไร ( เนื่องจากเป็นเงื่อนไขประกอบการพิจารณาในการออกวีซ่าให้กับนักเรียนไทย หากมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วจะได้มาพิจารณาต่อว่าทางสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 ได้มีการประชาสัมพันธ์กับนักเรียนไทยก่อนที่จะมีการชำระเงินหรือไม่ อย่างไร )

 

ขอบคุณที่มา https://www.dsi.go.th/index.php?option

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน