วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

7 องค์กรภาคีเครือข่ายชาวพุทธเชียงใหม่ ยื่นหนังสือถึง ผบช.ภ.5 ดำเนินคดี “กิตติศักดิ์ แสนทวีสุข”

Spread the love

S__4784157

7 องค์กรภาคีเครือข่ายชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ ยกขบวนเข้าพบ ผบช.ภ.5 ดำเนินคดี “กิตติศักดิ์

แสนทวีสุข” พร้อมหลักฐานออกรายการดีเบตทางไทยทีวีช่อง 3 ดูหมิ่นให้ร้ายคณะสงฆ์จังหวัด

เชียงใหม่

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ถ.มหิดล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 6 ภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนายสมบูรณ์ กันทะปา ที่ปรึกษาพุทธสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ นางพรรณี บุญประเสริฐ นายกพุทธสมาคมจังหวัด นายมานิตย์ ขันธสีมา นายกยุวพุทธิกสมาคมจังหวัด นายเชษฐา หิมอนุกุล ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มหนุ่มสาวจังหวัดเชียงใหม่ ผศ.ดร.อภิรมย์ สีดาคำ ประธานสมาคมศิษย์เก่า มจร.เชียงใหม่ นายวัลลภ นามวงศ์พรหม อุปนายกสมาคมสหธรรม นายพิศัณย์ มณีวรรณ์ สมาพันธ์ชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ และพระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น เลขานุการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ลงนามในหนังสือเรื่อง แจ้งความดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข โดยร้องทุกข์กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5)แต่ติดการประชุมสหกรณ์ตำรวจภูธรภาค 5 จำกัดจึงมอบให้ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 ในฐานะที่ควบคุมพนักงานสอบสวนมารับเรื่อง

เนื้อหาในหนังสือแจ้งความ ระบุว่าสืบเนื่องจาก รายการดีเบตโต้เหตุผลค้นความจริง ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2560 เวลา 16.40-17.00 น. นายภาษิต อภิญญาวาท ผู้ดำเนินรายการได้เชิญนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข อยู่บ้านเลขที่ 144/7 หมู่ที่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ไปออกรายการในช่วงสนทนา นายภาษิต ถามว่า ที่ออกมาแฉเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์อย่างไง นายกิตติศักดิ์ ได้ตอบในรายการว่า “ต้องการทำให้วงการพระสงฆ์ของจังหวัดเชียงใหม่ใสสะอาด สามารถกราบไหว้ด้วยความสนิทใจ” นอกจากนั้น นายกิตติศักดิ์ ยังได้ย้ำอีกว่า “โดยเฉพาะวงการสงฆ์เชียงใหม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนมาตั้งนานแล้วนะครับ” ดังนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงปรากฏอย่างชัดเจนว่า การที่นายกิตติศักดิ์ได้กล่าวอ้างว่า วงการสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน เป็นการส่อเจตนาดูหมิ่นให้ผู้ชมรายการได้เข้าใจว่าพระภิกษุสามเณรทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ไม่มีศีลไม่มีธรรม ละเมิดพระธรรมวินัยกันทั้งจังหวัด

อีกทั้งการพูดเช่นนี้ถือว่า เป็นการดูหมิ่นและเหยียดหยามคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ อย่างชนิดที่ยอมรับไม่ได้ เพราะจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศที่รับชมรายการนี้ โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศชาติ อาจเข้าใจผิดคิดว่าพระภิกษุสามเณรทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ประพฤติเสื่อมเสีย ละเมิดพระธรรมวินัยกันทั้งจังหวัด ก่อให้เกิดความเกลียดชังต่อพระภิกษุสามเณรในจังหวัดชียงใหม่ และอาจส่งผลถึงศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไปต่อพระพุทธศาสนา ดังนั้น จึงถือได้ว่า นายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข เป็นภัยต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา และประเทศชาติอย่างยิ่ง ภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย 1.ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ 2.พุทธสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ 3.ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดเชียงใหม่ 40กลุ่มหนุ่มสาวจังหวัดเชียงใหม่ 5.สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ 6.สมาคมสหธรรมจังหวัดเชียงใหม่ 7.สมาพันธ์ชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมหารือถึงประเด็นปัญหาเร่งด่วนดังกล่าวแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้มีการเร่งดำเนินการปกป้องพระพุทธศาสนา เกียรติและศักดิ์ศรีของคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ใดมากล่าวอ้าง ดูหมิ่น หรือใส่ร้ายป้ายสีโดยไม่มีมูลความจริง จึงเรียนมายัง ผบช.ภ.5 เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายต่อนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข ทั้งคดีอาญา และคดีแพ่งต่อไป ทั้งนี้ได้แนบบทสนทนารายการ ดีเบตโตเหตุผลค้นความจริง ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และอุปกรณ์แฟลซไดฟ์บันทึกรายการดังกล่าวมาด้วย

ต่อมา นางพรรณี บุญประเสริฐ ได้ยื่นหนังสือต่แ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า โดยกล่าวว่า เหตุที่มาร้องทุกข์ที่ภาค 5 เพราะเป็นศูนย์รวมของตำรวจ ทั้งๆที่ความเสียหายนี้รับรู้ไปทั่วสามารถแจ้งความได้ทั่วประเทศ ขณะที่นายชัยกร ปรีชาหาญ ทนายความกล่าวว่า ที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษขอดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ เพราะกล่าวให้ร้ายป้ายสีคณะสงฆ์ทั้งจังหวัด และไม่เกี่ยวกับกรณีของพระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่นายกิตติศักดิ์กล่าวโทษท่านฐานสวมบัตรประชาชนปลอม ส่วน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า กล่าวว่า เพื่อให้ความเป็นธรรมจะตั้งพนักงานสอบสวน 5 นายรับเรื่องสอบปากคำตัวแทนผู้ร้อง 5 ราย ว่าได้รับความเสียหายประการใด และเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ หากไม่เข้าข่ายก็จะคืนเรื่องให้ผู้ร้อง หากจะนำไปฟ้องร้องต่อศาลเองก็สุดแล้วแต่ จากนั้นได้เชิญนางพรรณี บุญประเสริฐ นายกพุทธสมาคมจังหวัดเชียงใหม่กับผู้ร้องเข้าไปสอบปากคำต่อไป

S__4784168

S__161423362

S__161423368

CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ

รายงาน