วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

“รถคันแรก” ส่อเค้าวุ่น ผู้เช่าซื้อ “ตายไม่ได้”ต้องคืนเงิน

Spread the love

“รถคันแรก” ส่อเค้าวุ่น ผู้เช่าซื้อ “ตายไม่ได้”ต้องคืนเงิน

 

กลายเป็นข่าวที่ฮ็อตขึ้นมามีชาวบ้านขอความเป็นธรรม ถูกกรมสรรพาสามิตทวงเงินรถคันแรก พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 หลังสามียื่นใช้สิทธิ์แต่เสียชีวิต ชี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ห้ามโอน-ห้ามขาย ขณะที่ฝ่ายกฎหมาย ระบุ สิทธิ์ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นมรดก ดังนั้น คนที่ได้รับสิทธิ์คืนเงิน ต้องห้ามตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญส่ง สุนทรนันท์ อายุ 52 ปี พร้อมด้วย นางสาวพัชรี สุนทรนันท์ อายุ 30 ปี บุตรสาว ชาวอ่างทอง ได้เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากถูกกรมสรรพสามิตทวงเงินคืนจากโครงการรถคันแรกพร้อมดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นางสาวพัชรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 สามีของตนคือ นายเดี่ยว อยู่ยืน อายุ 34 ปี ได้ยื่นใช้สิทธิ์รถคันแรกของรัฐบาล ในการซื้อรถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน มาร์ช โดยเช่าซื้อกับธนาคารไทยพาณิชย์ และทำการจดทะเบียนหมายเลข กค-8911 อ่างทอง แต่สามีของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม และตนได้เป็นผู้จัดการมรดก จึงได้นำหลักฐานการเสียชีวิตของสามีไปแจ้งเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์คันนี้ต่อไป และไม่ได้มีความประสงค์ที่จะขายต่อหรือโอนแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ได้ พร้อมบอกว่ายังไม่ให้ตนทำอะไร และขอส่งหนังสือไปหารือกับทางกรมสรรพสามิตก่อน
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ทางกรมสรรพสามิตได้โอนเงินตามโครงการเข้ามาบัญชีของตนจำนวน 60,511 บาท หลังได้รับเงินตนจึงเอาไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจัดงานศพของสามีจนหมด จนกระทั่งต้นเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ทางกรมสรรพสามิต จ.อ่างทอง ได้แจ้งถึงข้อหารือก่อนหน้านี้ โดยออกเป็นหนังสือราชการ ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 มีใจความว่า “กรณีของนายเดี่ยว เสียชีวิต ก่อนได้รับเงินตามสิทธิ์นั้นถือว่าสิทธิ์ของผู้ตายสิ้นสุดลง จึงไม่ได้รับสิทธิ์และสิทธิ์นั้นไม่ถือเป็นทรัพย์มรดก เมื่อสิทธิ์สิ้นสุดลงจึงขอให้ทายาทโดยชอบธรรมของผู้เสียชีวิตนำใบมรณะบัตรมา ยื่นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อขอทำการยกเลิกสิทธิ์ในระบบ”
นาง พัชรี กล่าวว่า แต่ในส่วนของตนนั้น ซึ่งรับเงินมาแล้วก็ต้องนำเงินดังกล่าวใช้คืนกรมสรรพสามิต พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีด้วย ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าตนไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ที่ระบุว่า “ห้ามขายโอนก่อนครบ 5 ปี” ซึ่งไม่ได้มีการระบุว่า “ห้ามตาย” อีกทั้งตนก็ไม่มีเงินใช้คืนด้วย จึงมาขอเรียกร้องความเป็นธรรมดังกล่าว
ขณะที่ นายสมชาย ศรีประทุมรัตน์ รองสรรพสามิตพื้นที่ จ.อ่างทอง เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า นายเดี่ยวเสียชีวิตเป็นเรื่องเหตุสุดวิสัย และสิ่งที่ต้องพิจารณาคือสิทธิ์รถคันแรกนั้น เป็นมรดกหรือไม่ จึงได้หารือไปทางกรมสรรพามิต และฝ่ายกฎหมายตีความว่าสิทธิ์ดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นมรดกแต่อย่างใด ดังนั้น คนที่ได้รับสิทธิ์คืนเงินรถคันแรก คือ “ห้ามตาย” ซึ่งตนได้ไปตรวจสอบบัญชีพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกเบิกออกไปหมดแล้ว จึงทวงถามทายาทให้นำเงินมาคืนกรมสรรพามิต แต่เมื่อทางทายาทใช้เงินไปแล้ว และไม่มีเงินคือให้ ในส่วนนี้ตนก็จะรายงานให้กรมสรรพามิตรรับทราบและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ล่าสุด นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เรียกเก็บเงินภาษีรถคันแรกคืนจาก นางพัชรี สุนทรนันท์ อายุ 30 ปี แม่ค้าเร่ตลาดนัดชาว จ.อ่างทอง 60,511 บาท หลังนายเดี่ยว อยู่ยืน สามีเจ้าของสิทธิเสียชีวิต ว่า
กรณีดังกล่าวนั้น ภรรยาผู้เสียชีวิตต้องนำเงินมาคืนให้กรมสรรพสามิตพื้นที่อ่างทอง เนื่องจากตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่ได้ครอบครองรถยนต์ครบ 1 ปี โดยได้รับรถยนต์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.54 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ก.ค.55 ซึ่งไม่เป็นไปตามมติครม.ระบุไว้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการผิดพลาดของระบบที่ยังไม่สมบูรณ์ ระหว่างกรมสรรพสามิตและกระทรวงมหาดไทย ทำให้ไม่สามารถตรวจพบว่าผู้ที่ใช้สิทธิ์ในโครงการรถคันแรกเสียชีวิตก่อนที่จะครอบครองรถครบ 1 ปี ทางระบบจึงโอนเงินเข้าบัญชีตามปกติ
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้รับมอบหมายนโยบายจากนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ว่า การดำเนินงานในโครงการรถคันแรก จะต้องไม่ให้เกิดปัญหาหรือให้มีปัญหาน้อยที่สุด ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้น เบื้องต้นกรมสรรพสามิตจะหาแนวทางเยียวยา เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบให้มากที่สุด

สิ้นสุดการสนทนา
ขอบคุณภาพ จาก http://www.20insure.com

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน