วันอังคาร, 19 มีนาคม 2567

ไม่เหนือความคาดหมาย ภาวะคนแก่ล้นโลก

Spread the love

ไม่เหนือความคาดหมาย ภาวะคนแก่ล้นโลก

ปัญหาที่ทุกประเทศกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

scoop

        ท่านผู้อ่านที่เคารพยิ่งครับ ทราบหรือไม่ครับว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีภาระจ่ายดูแลผู้เกษียณอายุ ทั้งระบบบำนาญข้าราชการ 2.2 ล้านคน คิดเป็นภาระงบถึง 60%     

         การจ่ายเงินเบี้ยคนชรา 7.7 ล้านคน คิดเป็นภาระงบ 20% และภาระส่วนเหลือที่อีก 20% เป็นการจ่ายสมทบให้กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)ที่มีสมาชิก 11 ล้านคน

          ต่อไปจะมีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ตอนนี้มีสมาชิก 3 แสนคน คาดสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 5 แสนคนจากแรงงานนอกระบบทั้งหมด 25 ล้านคนเป็นปัญหาใหญ่ของการพัฒนาประเทศทีเดียว และไม่ใช่แต่ประเทศไทย ทั่วโลกก็กำลังเผชิญปัญหาคนแก่ล้นโลกเหมือนกัน ลองมาติดตามข่าวนี้ดูก่อน

         เรื่องนี้คุณวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวเมื่อเร็วๆนี้ ว่าภาระงบประมาณในการดูแลผู้เกษียณอายุและดูแลคนชราภาพของรัฐบาลล่าสุดอยู่ที่ปีละ 3 แสนล้านบาทหรือประมาณ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี

             มีการประมาณการว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 แสนล้านบาท หรือ 3% ของจีดีพีซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมดูแลบริหารจัดการให้ประเทศมี รายได้เพียงพอในการดูผู้เกษียณและคนชราให้เพียงพอและยั่งยืน

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังยังเชื่อว่าภาระที่เพิ่มขึ้นไม่มีปัญหากับการเงินการคลังของประเทศ เพราะมูลค่าทางเศรษฐกิจก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามซึ่งคลังจะดูแลควบคุมภาระดังกล่าวให้เป็นสัดส่วนไม่เกินกรอบของจีดีพีเหมือนกับกำหนดกรอบความยั่งยืนทางการคลัง

“รัฐสามารถจ่ายภาระที่เพิ่มขึ้นได้อยู่แล้ว ซึ่งภาระที่ดูแลผ่านระบบประกันต่างๆ ทำให้ภาระการคลังน้อยกว่า โดยรัฐบาลจะต้องดึงประชาชนให้เข้าสู่ระบบประกันชราภาพทั้งภาคบังคับและสมัครใจให้มากที่สุด เพื่อช่วยลดภาระปลายทางของงบประมาณให้น้อยลง” คุณวิสุทธิ์กล่าว

คุณวิสุทธิ์กล่าวอีกว่าระบบการออมหลังเกษียณของไทยตอนนี้ถือว่าครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มคนทำงาน แต่ยังมีปัญหาในส่วนของแรงงานนอกระบบ 25 ล้านคน ที่ยังเข้าเป็นสมาชิก กอช.น้อย ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้แรงงานกลุ่มนี้เข้ากอช.มากขึ้นเพื่อให้มีรายได้ดำรงชีพหลังเกษียณอายุอย่างเพียงพอ

ขณะที่คุณสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ กบข. กล่าวว่าปัจจุบันระบบการออมประเทศไทยค่อนข้างครอบคลุมด้วยการออมผ่านกบข. กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 45 ล้านคน รวมถึงประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีอีก 9 ล้านคน และหากต้องการ มีรายได้สำหรับใช้จ่ายอย่างเพียงพอต้องมีรายได้ประมาณ 70% ของเงินได้ก่อนเกษียณ ดังนั้น ในส่วนของ กบข. จึงเสนอบริการออมเพิ่มภาคสมัครใจอัตรา 1-12% เพื่อให้สมาชิกสามารถสะสมเงินต้นมากขึ้น เพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้นจากเดิมประกอบกับในช่วงนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยกำลังเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะยาว จึงสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนระยะปานกลางถึงระยาว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าผลตอบแทนการลงทุนของ กบข.ปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราเงินเฟ้อ 2.5% ปัจจุบันผลตอบแทนการลงทุนของ กบข.ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนกันยายนนี้อยู่ที่ 2.5-2.7% เนื่องจาก กบข.ปรับพอร์ตการลงทุนให้กระจายความเสี่ยงมากขึ้น โดยเน้นลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง 63% เช่น พันธบัตร ตลาดหุ้นไทย 10% ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 5%

คุณสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการกอช.กล่าวว่าตั้งแต่เปิดดำเนินการ กอช.มาเป็นเวลา 1 เดือน ผู้มีอาชีพอิสระสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกเพื่อออมเงินระยะยาวกว่า 300,000 คน เนื่องจากออมผ่าน กอช.มีความยืดหยุ่นสูง เช่น หากออมเงินมาตั้งแต่อายุ 15 ปี จากนั้นจบการศึกษาได้งานทำเป็นราชการหรือรัฐวิสาหกิจ สามารถหยุดนำส่งเงินสะสมได้ เพื่อเปลี่ยนไปเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  หรือ  กบข.แทน ทำให้มีผู้สนใจสมัครจำนวนมาก(กองทุนนี้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อระดมการออมของคนหนุ่มคนสาว เพื่อเป็นทุนสำรองเลี้ยงชีพตนเองในวัยชราโดยไม่ต้องมาพึ่งรัฐบาลฝ่ายเดียว เป็นการแก้ปัญหาคนแก่ล้นโลกของประเทศไทยอีกรุปแบบหนึ่ง)

ปัญหา คนหนุ่มคนสาวชะลอการเกิด คนแก่มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น  ทำให้อัตราการตายลดลง คนแก่จึงอายุยืน ล้นโลก เป็นปัญหาให้ประเทศกำลังพัฒนามากตอนนี้และอนาคต เพราะเป็นภาระใหญ่ที่ทุกประเทศต้องแบกรับ

         โปรดติดตามแบบ อย่ากระพริบตา

อรุณ ช้างขวัญยืน/เรียบเรียงและรายงาน

 สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ