โครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยวฯ

Spread the love

                  แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดสุดท้ายตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์เพื่อสร้างเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวฯ

4IMG_6401

 

วันที่สามของการศึกษาดูงานภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ สื่อมวลชน มัคคุเทศก์ ผู้แทนสภาวัฒนธรรมและ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน (อป.มช.) ของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่ง อัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 โดยได้เดินทางไปร่วมทำบุญที่สะพานบุญ จากนั้นจึงเข้ารับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินกิจกรรมตามโครงการจากวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน

การศึกษาดูงานภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ สื่อมวลชน มัคคุเทศก์ ผู้แทนสภาวัฒนธรรมและ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน (อป.มช.) ของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งตามประเพณีและวัฒนธรรมชาวไทใหญ่ ณ สะพานซูตองเป้ สวนธรรมภูสมะ หรือ “สะพานแห่งความสำเร็จ” ซึ่งเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร เชื่อมระหว่างสวนธรรมภูสมะข้ามแม่น้ำแม่สะงา ผ่านทุ่งนาไปถึงหมู่บ้านกุงไม้สัก เพื่อให้พระภิกษุสามเณรใช้เป็นทางเดินไปบิณฑบาต และชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกในช่วงฤดูฝน จากนั้นคณะศึกษาดูงานได้เดินทางกลับโรงแรมอิมพิเรียล ซึ่งเป็นสถานที่พักแรมเพื่อเข้ารับฟังบรรยายสรุปจาก นางศันสนีย์ พุกกานนท์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้ให้ข้อมูลการดำเนินกิจกรรมตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่า ได้ดำเนินกิจกรรมการจัดเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องอัตลักษณ์ล้านนา จากนั้นได้ว่าจ้างภาควิชาการทำการสืบค้นอัตลักษณ์ล้านนาของ 4 จังหวัด ทั้งเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน การจัดทำเวทีประชาคมเพื่อสรุปอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของ 4 จังหวัด ซึ่งอาจจะเป็นอัตลักษณ์ใหม่ที่ค้นพบ หรืออาจเป็นอัตลักษณ์เดิม มีการจัดกิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ “งานสู่เส้นทางถนนสายวัฒนธรรมเมืองสามหมอก” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกวันเสาร์ โดยครั้งแรกกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ไปสิ้นสุดวันที่ 6 ธันวาคม 2557 ซึ่งภายในงานมีการจัดแสดงแสง สี เสียงประวัติศาสตร์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน การจัดกาดฮีต ซึ่งมีลักษณะเหมือนการจัดกาดหมั้ว โดยมีสินค้าทุกชนิดมาแสดงและจำหน่าย รวมถึงสินค้าภูมิปัญญา และ สินค้าชาติพันธุ์ โดยกำหนดจัดขึ้นบริเวณ “ขัวเผือก” ทั้งนี้ชาวแม่ฮ่องสอนซึ่งมีหลายชาติพันธุ์ก็จะมาร่วมกิจกรรมการแสดงที่บ่งบอกถึงประเพณีวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ตนเองภายในงานด้วย จึงทำให้ชาวแม่ฮ่องสอนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความรักใคร่ปรองดองกันแม้ว่าจะมีชาติพันธุ์ที่ต่างกันหลังจากนั้นคณะสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพระบรมราชินูปถัมภ์ ชมนิทรรศการชาติพันธุ์ ห้องทรงงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โครงการตามพระราชดำริและสินค้าในโครงการศิลปาชีพฯ ต่อมาได้เดินทางไปสักการะพระธาตุดอยกองมู ชมทัศนียภาพเมืองแม่ฮ่องสอน และเดินทางต่อไปยังอำเภอปายโดยพักแรม 1 คืน และวันสุดท้ายของการศึกษาดูงานในพื้นที่อำเภอปาย ได้เข้าสักการะพระสิงห์ปาย พระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองปาย ซึ่งประดิษฐานที่วัดศรีดอนชัย วัดแรกของเมืองปาย ต่อด้วยการเดินทางไปสักการะพระเจ้าอุ่นเมือง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ผู้ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกอบกู้เอกราชในสมัยกรุงศรีอยุธยา ณ วัดน้ำฮูออกจากวัดน้ำฮู คณะสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่แวะเยี่ยมชมวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนานในประเทศไทย ณ บ้านสันติชล ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวจีนคณะชาติที่อพยพมาจากมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากพรรคก๊กมินตั๋ง ที่นำโดยนายพลเจียง ไค เชค พ่ายแพ้ให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จึนในช่วงปี พ.ศ.2492 -2493 และอพยพมาอาศัยในประเทศไทย ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นำเสนอเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนานในเมืองปายสำหรับสถานที่สุดท้ายที่คณะสื่อมวลชนเชียงใหม่เดินทางไปศึกษาดูงาน คือสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารญี่ปุ่นใช้สะพานแห่งนี้ ข้ามแม่น้ำปายเพื่อส่งเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า จากนั้นจึงเดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ

 

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ


โครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ที่บ้านถวาย

04 ต.ค. 2014
267
Spread the love

              สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่นำสื่อมวลชนศึกษาดูงานตามโครงการเสริมสร้างอัตลักษณ์ที่บ้านถวายเป็นจุดแรก

บ้านถวาย

 

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่นำสื่อมวลชน มัคคุเทศก์ ผู้แทนสภาวัฒนธรรมและ อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน (อป.มช.) ศึกษาดูงานภาพลักษณ์การท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2557 โดยจุดแรกได้ศึกษาดูงานที่บ้านถวาย ตำบลขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับชุมชนบ้านถวายร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์ จัดกิจกรรมทางประเพณีวัฒนธรรม และประชาสัมพันธ์สู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และให้เป็นอัตลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เข้ามาสัมผัสเกิดความประทับใจและกลับมาเยี่ยมชมอีก

นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลักตามโครงการดังกล่าว ได้ให้การต้อนรับพร้อมคณะของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนคง และให้ข้อมูลว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมองเห็นว่าถ้าหากได้มีการนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่แล้วในแต่ละท้องถิ่นมาสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมกิจกรรมที่นำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ได้ก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่กันอย่างแพร่หลาย ไร้ขอบเขตข้อจำกัดความเจริญก้าวหน้า บางครั้งก่อให้เกิดความเสื่อมถอยทางขนบธรรมเนียมประเพณี และศิลปวัฒนธรรมอันดีงามที่ สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของแต่ละชุมชน ท้องถิ่น จึงควรที่จะมีการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานให้คงอยู่แพร่หลายสืบไป ซึ่งศิลปวัฒนธรรมอันดีงามเหล่านี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายควรจะร่วมมือกันสืบสานให้คงอยู่กับท้องถิ่นและไปสู่การพัฒนา ปรับปรุง ฟื้นฟู เพื่อเพิ่มพูนมูลค่าแก่การท่องเที่ยวและกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่มอบภารกิจตามยุทธศาสตร์ประเทศ ในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน จากการยกระดับแหล่งโบราณสถานให้เป็นพื้นที่วัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวที่มีชีวิต โดยการใช้ทรัพยากรทางวัฒนธรรมเป็นทุน โดยชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้ร่วมดำเนินการและได้รับประโยชน์ ตลอดจนการดำรงรักษาวัฒนธรรม ก่อนที่จะถูกทำลายหรือเสื่อมถอยไปมากกว่านี้สำหรับบ้านถวาย ถือเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP ต้นแบบของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงด้านงานศิลปหัตถกรรมไม้แกะสลัก และเป็นศูนย์รวมของสินค้าหัตถกรรมทุกแขนงทั่วประเทศ เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในคุณค่าแห่งงานหัตถศิลป์ และคุณภาพของสินค้าจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ปัจจุบันพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมลดน้อยลง ดังนั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ.2557 จังหวัดเชียงใหม่โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันดำเนินโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Identity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ขึ้น เพื่อกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหมู่บ้านถวายให้เกิดความคึกคักดังกล่าว เริ่มจาก สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ จะเข้าไปจัดการด้านสถานที่ โดยการปรับปรุงภูมิทัศน์ สถาปัตยกรรม และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความเป็นเอกลักษณ์แบบล้านนา และล้านนาผสมผสาน ตำรวจภูธรภาค 5 เข้าไปดำเนินการสร้างความปลอดภัยให้แก่แหล่งท่องเที่ยว โดยการจัดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด มาใช้ในการเฝ้าระวังและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและความมั่นคงในพื้นที่ รวม 24 จุดเสี่ยง พร้อมทั้งจัดอบรมอาสาสมัครแจ้งข่าวในพื้นที่ต้นแบบและพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วย ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่มีการจัดกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครกู้ชีพและกู้ภัยในแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุในพื้นที่บ้านถวาย ส่วนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ก็กำหนดจัดกิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม รวม 6 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดขึ้นภายในงาน LANNA EXPO 2014 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 23 กันยายน 2557 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ส่วนที่เหลืออีก 5 ครั้งกำหนดจัดกิจกรรมในพื้นที่บ้านถวาย เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2557 เป็นต้นไป ในขณะที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่จะเป็นหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตในชุมชนบ้านถวายทางสื่อทุกแขนง

 

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ


โครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยว

Spread the love

                      ตำรวจภูธรภาค 5 จัดประชุมคณะทำงานการดำเนินกิจกรรมสร้างพื้นที่ต้นแบบในการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

ตำรวจ

 

ตำรวจภูธรภาค 5 จัดประชุมคณะทำงานการดำเนินกิจกรรมสร้างพื้นที่ต้นแบบในการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Indentity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ภายใต้โครงการงบพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.57  เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต นิธิพัฒน์ พัฒนถาบุตร ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 5 ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินกิจกรรมสร้างพื้นที่ต้นแบบในการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตามโครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ (Indentity) เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ภายใต้โครงการงบพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน ฯ ครั้งที่ 2 เพื่อร่วมกันพิจารณาแผนงาน โครงการ และ กิจกรรมตามโครงการดังกล่าว ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการอนุมัติงบประมาณจำนวน 3,500,000 บาท มาดำเนินกิจกรรมการจัดสร้างพื้นที่ต้นแบบในการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ณ บ้านถวาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานการนำเทคโนโลยีมาใช้ในเฝ้าระวังและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและความมั่นคงจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 มาร่วมพิจารณาดำเนินการ จากนั้นจะมีการจัดประชุมแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ทั้งในด้านการเชื่อมต่อสัญญาณภาพและการวางสายสัญญาณภาพ จากนั้นจะดำเนินการจัดหา ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ควรติดตั้งเพิ่ม จำนวน 24 จุดเสี่ยง รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมและสั่งการประจำแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม นอกจากนั้นก็ได้กำหนดจัดอบรมการใช้ระบบการแจ้งเหตุ รับแจ้งเหตุ และบริหารจัดการข้อมูลให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านถวาย และขยายผลการจัดฝึกอบรมแก่อาสาสมัครแจ้งเหตุในพื้นที่ต้นแบบ และพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะดำเนินการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ด้วย

 

1

2

3

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ