วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

โครงการหลวงทุ่งหลวง เปิดอาคารผลิตผล หลังใหม่

02 ส.ค. 2013
327
Spread the love

โครงการหลวงทุ่งหลวง เปิดอาคารผลิตผล หลังใหม่ ประสิทธิภาพดีกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เสด็จเป็นประธานในพิธีทำบุญและเปิดป้ายอาคารผลิตผล ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง หลังใหม่ ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

ซึ่งอาคารผลิตผล ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง หลังใหม่ ภายในอาคารมีกระบวนการผลิตที่เป็นระบบ มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพราะได้นำเครื่องทำความเย็นด้วยระบบสูญญากาศ (Vacuum Cooling) มาใช้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ใช้ในการรักษาความสดของพืชผักโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผักใบ ใช้หลักในการที่น้ำเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นก๊าชในสภาวะความดันต่ำ ในขณะที่เครื่องทำงานความดันภายในตู้จะลดลงจนถึงระดับที่ 6 มิลลิบาร์ ซึ่งเป็นระดับที่น้ำภายในเซลล์ของผักมีจุดเดือดที่อุณหภูมิประมาณ 1 องศาเซลเซียล ในขณะเดียวกันเครื่องจะพ่นละอองฝอยน้ำลงบนผักเพื่อช่วยรักษาความชื้นไม่ให้สูญเสียไป โดยจะใช้เวลาประมาณ 20 – 25 นาที ต่อรอบการทำงานเท่านั้น ซึ่งสั้นกว่าระบบทำความเย็นด้วยลม ฟอร์แอร์ คลูลิ้ง (Force Air Cooling) ที่ต้องใช้เวลามากกว่า 2 – 3 ชั่วโมง ต่อรอบและมีการสูญเสียความชื้นมากกว่า

ในการทำความเย็นด้วยสูญญากาศผักจะมีความเย็นเท่ากันทั่วจนถึงแกนกลางของผักเนื่องจากความเย็นเกิดขึ้นภายในน้ำซึ่งอยู่ภายในเซลล์ของผัก ช่วยรักษาความสดและยืดอายุในการขายได้ดีกว่าวิธี Force Air หรือ Water Cooling  ซึ่ง Force Air เป็นเทคโนโลยีเดิมห้องเย็นปกติ แต่จะใช้พัดลมดึงความเย็นเพื่อให้ผลผลิตเย็นที่สุด ใช้เวลาปรับความเย็น 3 – 4 ชั่วโมง ต่อครั้ง ส่วนระบบ Water Cooling จะใช้กับจำพวกผักหัว ใช้น้ำเย็นในการลดอุณหภูมิ เพราะในหัวผักจะมีความร้อนแฝงอยู่ ดังนั้น ต้องใช้น้ำเย็นลดความร้อนเพื่อที่จะไม่ทำให้ผักเหี่ยวเฉา และปรับอุณหภูมิไม่ทัน

โครงการหลวง ปลูกพืชผักมากกว่า 100 ชนิด แต่ที่เด่นๆ คือ ผักกาดหอมห่อ (ผักกาดแก้ว) กะหล่ำปลี และผักกาดขาวปลี ปัจจุบันมีการส่งออก 3 ที่ คือ อาคารผลิตผลโครงการหลวงแม่เหียะ   จ.เชียงใหม่ ศูนย์ผลิตผลโครงการหลวงคัดบรรจุ กรุงเทพ และ บริษัท ยูฟ่าส์ (ประเทศไทย) จํากัด

 

 

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ