วันพฤหัสบดี, 18 เมษายน 2567

โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล

Spread the love

มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 

รัฐบาล

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ไปมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าท่าธาร อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แม่ตาล และป่าแม่ยุย อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่

ที่โรงเรียนบ้านฮอดพิทยาคม อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ไปมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าท่าธาร อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แม่ตาล และป่าแม่ยุย อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ รวมเนื้อที่เกือบ 8พันไร่ หลังจากได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามคำสั่งของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช.ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2507 ให้ผุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าธาร อำเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ 5,492 ไร่ และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ตาลและป่าแม่ยุย อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ 2,434 ไร่อันเป็นผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งมีราษฎรได้รับประโยชน์จากโครงการนี้จำนวน 1,279 ราย และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อย่างสมบูรณ์อยู่รอบหมู่บ้านจะได้รับการดูแลโดยชุมชนในพื้นที่ทั้งการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเป็นการดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาล ที่ได้แถลงไว้ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2 557 เรื่องการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน จากนโยบายดังกล่าวเพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรมอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและความมั่นคงของประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบให้ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติพ.ศ. 2557นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติหรือเรียกชื่อย่อว่า คทช. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและ คทช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายนี้ขึ้นอีก 4 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน โดยมี พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน อธิบดีกรมป่าไม้เป็นเลขานุการ มีหน้าที่ในการจัดหาที่ดินที่มีศักยภาพในการดำเนินการตามนโยบาย คณะอนุกรรมการชุดที่ 2 คือคณะอนุกรรมการจัดที่ดินโดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน อธิบดีกรมที่ดิน เป็นเลขานุการ มีหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และพิจารณาจากที่ดินให้กับประชาชนในรูปแบบของชุมชนที่เหมาะสม เช่น สหกรณ์ หรือรูปแบบอื่นๆคณะอนุกรรมการ ชุดที่ 3 ได้แก่ คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ โดยมีนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นเลขานุการ มีหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดตลอดจนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคนอกจากนี้ ยังมีคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำหน้าที่ประสานและตรวจสอบการดำเนินงานให้แก่คณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุดการดำเนินงานของ คทช. ในระยะแรกได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายใน 6 พื้นที่ 4 จังหวัด เนื้อที่ 53,697 ไร่ และโครงการระยะที่ 2 จำนวน 8 พื้นที่ใน 8 จังหวัด เนื้อที่ 51,929 ไร่ และพื้นที่ ส.ป.ก. 4 พื้นที่ 4 จังหวัด เนื้อที่ 5,587 ไร่ ระยะที่ 1 ได้เริ่มโครงการที่ชุมชนแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ 7,282 ไร่ โดยมีนายกรัฐมนตรีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาสำหรับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่าธาร และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ตาลและปลาแม่ยุย อีก 2 พื้นที่ที่ดำเนินการโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมสภาพ ทั้งนี้เพื่อให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างระบบ เน้นด้านการอนุรักษ์ควบคู่กับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ที่เหลืออยู่ฟื้นฟูป่าไม้ที่เสื่อมสภาพให้สมบูรณ์กับขึ้นมา การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนนั้น ที่ดินยังคงเป็นที่ดินของรัฐ โดยจะเป็นการจัดระเบียบให้ราษฎรใช้ประโยชน์อยู่อาศัยทำกินในลักษณะแปลงรวม ไม่ให้เป็นส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการซื้อขายเปลี่ยนมือและให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการดูแลป้องกันรักษาป่าโดยรอบพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตนอกจากการจัดที่ดินในลักษณะแปลงรวมแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้ กรมป่าไม้ได้จัดทำโครงการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนดังนี้ 1. การจัดตั้งป่าชุมชน รวม 6 ป่าชุมชน เพื่อให้ราษฎรได้ใช้สอยประโยชน์จากผลผลิตจากป่าเพื่อการยังชีพได้อย่างยั่งยืน 2. การส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่ปลูกป่าเศรษฐกิจชุมชนไว้ใช้สอยไม้ในชุมชนได้ในอนาคต นอกจากการจัดระเบียบการใช้ที่ดินเพื่อให้ราษฎรมีความมั่นคงในการใช้ที่ดินแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะได้มีแผนพัฒนาแหล่งน้ำ และส่งเสริมอาชีพตามความเหมาะสมและต้องการของชุมชน เพื่อความอยู่ดีกินดีรวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มและการบริหารจัดการในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งมีศักยภาพ และส่งผลต่อประเทศชาติโดยรวม นำไปสู่ประเทศชาติมั่งคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

 

 

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ