เสียงบ่นจากสาวๆ วาเลนไทน์ทีไร ได้ของขวัญแบบเดิมทุกปี

เสียงบ่นจากสาวๆ

วาเลนไทน์ทีไร ได้ของขวัญแบบเดิมทุกปี

อะไรมั่งเอ่ย

                  ขอบอกว่า ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกนะ ที่เกิดอาการเบื่อของขวัญเหล่านี้ แต่เป็นเรื่องที่เขารายงานมาจากฝั่งตะวันตก ว่า หนุ่มสาวชาวอเมริกันก็กำลังประสบปัญหาเรื่อง การเลือกของขวัญวันวาเลนไทน์ เหมือนกัน แม้พยายามเลือกสรรกันอย่างดีแล้ว แต่ของเหล่านั้นกลับได้รับคำจำกัดความว่าเป็นของขวัญที่แย่มากระดับ ของโหล ไปเลยล๊ะ

             วันนี้  มาดูกันว่า ‘ของขวัญสุดโหล‘ ที่ชาวมะกันเขายังคงส่งมอบให้สาวๆในวันวาเลนไทน์มีอะไรกันบ้าง

 1. การ์ดอวยพร     หากคุณลงเอยด้วยการซื้อการ์ดอวยพรยื่นให้แฟนของคุณ ระวังด้วย เธอ อาจจะมีอาการเบือนหน้าหนีเอาได้ง่ายๆ ก็การ์ดแสนหวานแบบนี้มันตกยุคไปแล้ว ไม่ใช่แค่น่าเบื่อ แต่ยังดูเหมือนว่าคุณกำลังโดนพิษเศรษฐกิจถล่มเอาจนต้องซื้อการ์ดใบละไม่กี่สิบบาทให้สาวๆ   แต่เมื่อมาสำรวจตัวเลขที่เขาบันทึกไว้ กลับน่าตกใจที่กลายเป็นว่า หนุ่มอเมริกันมอบให้ฝ่ายหญิง 44%  และสาวๆอเมริกันนิยมมอบให้ฝ่ายชายมากกว่าซ๊ะอีก ถึง 58 %   ตายๆๆๆ คนสำรวจเขาบอกว่า ขนาดนิยมให้กันขนาดนี้ เจ้าการ์ดแสนหวานนี่ บางครั้งก็เลี่ยนและโบราณเกิน

2. ขนมหวาน (ช็อกโกแลต) สมัยนี้ หนุ่มสาวค่อนข้างจะรักสุขภาพ ชอบดูแลตัวเองให้มีรูปร่างดีอยู่เสมอ ฉะนั้นการมอบขนมหวาน หรือช็อกโกแลต ให้แฟนในวันวาเลนไทน์ ดูท่าจะไม่ค่อยเหมาะซะแล้ว แต่ก็ยังมีบางคู่ที่นึกอะไรไม่ออกก็ขอซื้อของง่ายๆ อย่างช็อกโกแลตไปก่อนละกัน เอาตัวเลขไปดู    หนุ่มอเมริกันมอบให้ฝ่ายหญิง 47%    สาวอเมริกันมอบให้ฝ่ายชาย 50 %

รายงานเขาสรุปว่า ถึงมันจะเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์โดยเฉพาะ ก็จริง แต่  แต่ก็ทำให้สาวๆ อ้วนได้น๊ะ

3. ดอกไม้     อาจจะดูคลาสสิกในวันวาเลนไทน์ก็จริง แต่มันออกจะเกร่อไปหน่อย สำหรับของขวัญจำพวกดอกไม้หรือดอกกุหลาบ การมอบกุหลาบดอกโตราคาแพงให้กันในวันวาเลนไทน์มันก็ไม่ได้แย่หรอก แต่จะดีกว่าหรือไม่  ถ้าลองปรับเปลี่ยนเป็นซื้อต้นกุหลาบให้ทั้งต้นไปเลย แบบนี้ไม่มีเหี่ยวเฉาแน่ๆ แถมคุ้มค่าคุ้มราคา และยังเป็นการปลูกต้นรักระหว่างคุณทั้งคู่แบบเก๋ไก๋ชไนเดอร์อีกด้วย (ลองดูปีนี้เลย)

แล้วก็เอาสถิตินี้ไปดู หนุ่มอเมริกันนิยมมอบให้ฝ่ายหญิง 61%  สาวอเมริกันนิยมมอบให้ฝ่ายชาย 15 %

4. ดินเนอร์ใต้แสงเทียน ข้อนี้ อาจจะเป็นความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวบางคู่ ที่ออกแนวหัวโบราณหน่อยๆ เรียกว่ารอคอยกันเลย ว่าเมื่อไหร่วันวาเลนไทน์จะมาถึงสักที จะได้ไปนั่งรับประทานอาหารใต้แสงเทียนกันนอกบ้าน  แต่สำหรับคู่รักหัวสมัยใหม่ การออกไปดินเนอร์แบบนี้ถือว่าเชยสนิท ถ้าคุณเดทกับหนุ่มฮิปสเตอร์หรือสาวเปรี้ยวสุดชิค แนะนำว่า อย่าชวนไปดินเนอร์แบบนี้ในวันวาเลนไทน์เด็ดขาด เพราะพวกเขามักจะคาดหวังกับอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่านั้น เลยปรากฏว่า หนุ่มอเมริกันเอ่ยปากชวนฝ่ายหญิง 39%   สาวอเมริกันเอ่ยปากชวนฝ่ายชายแค่ 36 %

5. เครื่องประดับ การมอบเครื่องประดับสวยหรู ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับของขวัญวันวาเลนไทน์ แต่เอาเข้าจริง ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าคนนี้ใช่แน่ๆ การมอบเครื่องประดับอาจจะทำให้อีกฝ่ายเผลอคิดไปได้ว่า คุณกำลังจะขอเธอแต่งงาน หรืออยากผูกมัด โดยเฉพาะถ้าจะมอบแหวนให้ละก็ เป็นเรื่องที่ต้องคิดแล้วคิดอีก เอาเป็นว่าถ้ายังไม่มั่นใจว่า คนนี้ใช่ ก็ซื้ออย่างอื่นให้ก่อนเถอะ เลยทำให้ความนิยมถดถอยคือหนุ่มอเมริกันมอบให้ฝ่ายหญิง 29%   สาวอเมริกันมอบให้ฝ่ายชาย 9%

6. เสื้อผ้า  ใครที่คิดจะซื้อเสื้อผ้าให้แฟนในวันวาเลนไทน์ ถือว่าไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย เพราะเสื้อผ้าคือ ของใช้ที่พวกคุณจะจูงมือกันไปช็อปปิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ และอย่างที่รู้กันว่าวาเลนไทน์คือวันพิเศษ ฉะนั้นแฟนของคุณก็ย่อมต้องการอะไรที่มันพิเศษมากกว่าแค่เสื้อผ้าแน่นอน แม้คุณจะแย้งว่า เสื้อผ้าชุดนี้ตั้งใจซื้อหรือสั่งตัดเป็นพิเศษก็ตาม แต่ยังไงมันก็คือเสื้อผ้า เพราะฉะนั้นบอกผ่านไปได้เลย ผลสำรวจเลยเป็นแบบว่า

หนุ่มอเมริกันมอบให้ฝ่ายหญิง 14%  สาวอเมริกันมอบให้ฝ่ายชาย 18%

7. บัตรส่วนลด ของขวัญจำพวก บัตรสมนาคุณต่างๆ ถือเป็นของขวัญที่นำมาซึ่งความหายนะในวันวาเลนไทน์เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพวกคุณเพิ่งจะเดทกันใหม่ๆ ละก็ อย่าได้เอาบัตรส่วนลดมาเป็นของขวัญเด็ดขาด   นอกจากจะไม่สร้างสรรค์อย่างที่สุดแล้ว ยังบ่งบอกว่าคุณช่างเป็นคนที่ตระหนี่ถี่เหนียวอะไรอย่างนี้ แค่จะซื้อของขวัญให้แฟนสักชิ้นยังไม่กล้าจ่ายเลย จุดนี้สาวๆ ไม่ปลื้มนะ จะบอกให้!  ผลสำรวจออกมาว่า หนุ่มอเมริกันมอบให้ฝ่ายหญิง 11%  สาวอเมริกันมอบให้ฝ่ายชาย 17%

          นั่นเป็นตัวเลขที่ฝรั่งเขาเก็บมาบอก     สำหรับเมืองไทยใครจะคิดอย่างไร ทำอย่างไร คงเป็นเรื่อง ตามใจฉัน มากกว่า แต่อย่างน้อยก็พอเป็นแนวทางว่า คุณหนุ่ม คุณสาว คิดอย่างไร คิดจะมอบอะไรให้กันเนื่องในวันวาเลนไทน์ ในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังซึม กำลังซื้อถดถอย ลองติดตามข่าวนี้ดูครับ

            ข่าวบอกว่า  หลายๆคนคงนึกถึงดอกกุหลาบ ที่เป็นสื่อแทนใจของความรัก ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่  สำรวจบรรยากาศช่วงใกล้เทศกาลในปีนี้  โดยไปสำรวจตลาดดอกกุหลาบเป็นสื่อแทนใจ ที่บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครสักคน ในวันที่รายงานข่าวก็ประมาณวันที่12 ก.พ. ก็เริ่มมีผู้คนทยอย มาเลือกซื้อดอกไม้กันแล้ว เพราะได้ราคาถูกว่าการซื้อในวันเทศกาล รวมถึงร้านจัดดอกไม้ ก็ทยอยมาซื้อดอกไม้ราคาส่ง เพื่อนำไปขายต่อ แต่ พ่อค้า แม่ค้า  กลับบอกว่าปีนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ส่วนแนวโน้มราคากุหลาบ ตอนนี้ยังอยู่ในราคาปกติ เช่น กุหลาบนำเข้าจากจีน 10 ดอก อยู่ที่ 250บาท

             แต่ว่า ถ้านำไปจัดเป็นช่อ มีโบว์ มีกระดาษหุ้ม มีไม้ประดับ ราคาช่อละอาจจะถึง 500-600 หรืออาจจะเป็น 1,000 ได้ ยิ่งวันที่14 ราคาอาจจะกระโดดไปไกลได้

               ดังที่เคยรายงานไปแล้วว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เขาสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่าย แล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้อาจจะไม่คึกคัก เพราะคนยังไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และเห็นว่าสินค้าต่างๆ มีราคาแพง จึงต้องรอบคอบในการใช้จ่าย คาดว่าจะมีเงินสะพัดในเทศกาลอยู่ที่ 3,513 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี

            แบบนี้ ถ้าจะให้แนะนำ ก็จะแนะนำว่า ซื้อต้นกุหลาบให้แฟนสักกระถางไปเลย คุ้มค่าที่สุด ยามเศรษฐกิจซึม

อรุณ  ช้างขวัญยืน/ รายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ