เสียงจากตำรวจ “โรงพักใหม่” อยู่ใหน

เสียงจากตำรวจ”โรงพักใหม่” อยู่ใหน

ตำรวจทุกนายอยากที่จะเห็นที่ทำงานใหม่ภายในต้นปีนี้  396 แห่งทั่วประเทศ คาดหวังว่าจะได้สถานที่ทำงานใหม่ ไว้บริการประชาชนแต่ก็มีเห็นเพียงเสาปูนโครงสร้างอาคารที่ผู้รับเหมาทิ้งงานเผ่นเข้ากลีบเมฆส่งผลให้การก่อสร้างโรงพักต้องชะงักไม่มีโรงพักก่อสร้างได้แล้วเสร็จแม้แห่งเดียว

หลังรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อนุมัติโครงการก่อสร้างที่ทำการสถานีตำรวจ ทดแทนหลังเก่า 396 หลัง ด้วยงบประมาณกว่า 6 พันล้าน เพราะโรงพักส่วนใหญ่คับแคบ หมดอายุการใช้งาน ไม่สามารถรองรับการเติบโตของชุมนุมได้ แต่ความหวังต้องสะดุด เพราะบริษัทที่ประมูลงานได้ทิ้งงาน

แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่ารัฐบาลขณะนั้นได้เปลี่ยนแปลงระบบประมูลงาน จากที่กระจายให้กองบัญชา การภาคดำเนินการ มารวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลางจึงทำให้มีเพียงบริษัทรับเหมาเพียงบริษัทเดียวผูกขาดการประมูลไปได้
ทั้งๆที่สัญญาเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2554 ซึ่งตามกำหนดต้องแล้วเสร็จในวันที่ 17 มิถุนายน 2555 แต่ก็ได้มีการขยายเวลาให้อีกหลายครั้ง จากเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ขยับมาสิ้นสุดอายุสัญญาในวันที่ 14 มีนาคม ที่จะถึงนี้ สภาพที่เป็นอยู่จึงเห็นเพียงฐานราก เสาเข็มและโครงเหล็กเส้น
หลายโรงพักที่ถูกรื้อทิ้งทั้งหลังเพื่อสร้างใหม่ต้องเช่าอาคารเอกชนหรือบางแห่งต้องกางเต็นท์ เป็นที่ทำการชั่วคราว สร้างความยากลำบากในการทำงานในทุกด้านแม้กระทั่งห้องขังผู้ต้องหาต้องหันใช้บริการโรงพักใกล้เคียง
ด้าน พ.ต.ท.พนัส สายทอง สารวัตร หัวหน้า สภ.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เผยว่า มารับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายน 2555 ซึ่งก่อสร้างไปแล้ว ตอนนี้รุดหน้าไปกว่า 70% แต่เดือนกันยายน 2555 ปรากฏว่าผู้รับเหมาหยุดงานไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทุกคนก็ตกใจทั้งๆ ที่อุปกรณ์ก่อสร้างยังอยู่แต่ไม่มีคนทำงานถึงปัจจุบันกว่า5เดือนแล้ว ตอนนี้ใช้โรงพักเก่าอยู่ รอให้อาคารใหม่สร้างเสร็จ แล้วจะมีบริษัทที่ประมูลซื้ออาคารหลังเก่าไปมารื้อ ถ้าอาคารใหม่ไม่เสร็จ ถ้าเจ้าของที่ประมูลอาคารเก่ามารื้อก็ต้องย้ายที่ทำงานเพราะเป็นสมบัติของเขาไปแล้ว คงต้องไปขอใช้อาคารวัดหมอกจำแป่ เป็นโรงพักชั่วคราว
ตำรวจและประชาชนเห็นดีด้วยและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าของเก่าเล็กและคับแคบมาก มีการรื้อโรงพักเก่าเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2554 ปรับพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้าง ทุกคนดีใจ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25 มีนาคม 2555 เริ่มตอกเสาเข็มขนาดใหญ่เพื่อเป็นฐานอาคารมูลค่า 12 ล้านบาท แต่พอถึงวันที่ 18 เมษายน 2555 ผู้รับเหมาทิ้งงานไปจนถึงปัจจุบัน
“ช่วงที่ไม่มีโรงพักทำงาน ได้ปรับแผนใช้ทุกพื้นที่ของโรงพักที่เหลืออยู่มาทำที่ทำการ โดยเอาพื้นที่ชั้นล่างของอาคารเรือนแถวที่พักตำรวจทั้งหมดมากั้นเป็นห้องชั่วคราวแบบง่ายๆ ใช้บ้านพักหัวหน้าสถานีเป็นห้องทำงาน อาคารเล็กๆ คล้ายโรงเก็บของมาดัดแปลงเป็นห้องประชุมและที่ทำการของพนักงานสอบสวนเพื่อรับแจ้งความและสอบปากคำในคดีต่างๆเรียกว่าใช้ทุกตารางนิ้วให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ส่วนผู้ต้องขังต้องไปฝากขังไว้ที่โรงพักข้างเคียง
เป็นเสียงสะท้อนเพียงบางส่วนจากหัวหน้าโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ ที่กำลังรอคอยที่ทำการโรงพักหลังใหม่ไว้บริการประชาชนอย่างสิ้นหวังเพราะสัญญาการก่อสร้างที่บริษัทรับเหมาทำไว้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังถูกผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณายกเลิกเพื่อประมูลใหม่

ขณะเดียวกันประชาชนเจ้าของภาษีก็รอคอยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีน้ำยาพอที่กระชากโฉมหน้าผู้ที่อยู่เบื้องหลังสั่งเซ็นสัญญาก่อสร้างที่น่าอดสูมาให้สังคมเห็นได้หรือไม่ ถามใจนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล้าพอหรือไม่

ธนวรรธน์  จรณชัยวัจน์

ทีมข่าว cnxnews รายงาน