วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

เวที “เพื่อไทย”โครงสร้าง 7 ปี รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่

Spread the love

 

เวที “เพื่อไทย”โครงสร้าง 7 ปี รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่

แดงภาคเหนือล้นโรงยิม สนามกีฬา 700 ปี เข้าฟังปราศรัยเวที “เพื่อไทยเพื่ออนาคตเพื่อประเทศไทย”โครงสร้าง 7 ปี ไม่ไกลเกินจริงรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าว cnxnews เมื่อเวลา 16.00 น.เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.56 ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้จัดเวที “เพื่อไทยเพื่ออนาคตเพื่อประเทศไทย” ณโรงยิม สนามกีฬา 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของรัฐบาลและอุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ความคืบโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ความคืบหน้างานไทยแลนด์ 2020 การชี้แจงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำความเข้าใจ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  นายปลอดประสพ สุรัสวดี รอง.นายกรัฐมนตรี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.กระทรวงสาธารณสุข  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย  และนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยร่วมปราศรัยในหัวข้อการจัดเวทีเพื่อไทยเพื่อประเทศไทย ไทยแลนด์ 2020 ประเทศไทยและประชาชนได้อะไร” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.กระทรวงคมนาคม นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนช่วงท้ายจะเป็นการปราศรัยเรื่อง “รัฐธรรมมนูญ และ พรบ.นิรโทษกรรม” โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รมช.กระทรวงพาณิชย์

 

ทั้งนี้ยังมี สส.เชียงใหม่ทุกเขตได้เดินทางมาร่วมเวทีนี้ด้วย เช่น นส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์  นายกฤษดาภรณ์ เสียมภักดี   นายวิทยา ทรงคำ  นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย  นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์  นายนพคุณ รัฐผไทย  นายสุรพล เกียรติไชยากร  นายศรีเรศ โกฏคำลือ  สส.ลำพูน นายสงวน พรมมณี โดยมีคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางมาร่วมรับฟังการปราศรัยและให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยจนล้นโรงยิม สนามกีฬา 700 ปี

ในช่วงต้นของการเปิดเวที นางลัดดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีด ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.พะเยา และอดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย และนายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ไทยรักไทย ก็ได้เดินทางมาร่วมในเวทีดังกล่าวด้วย

นางลัดดาวัลลิ์  ได้ปราศรัยเป็นคนแรก ตนรู้สึกภูมิใจมากที่มีนายกรัฐมนตรีคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นคนเหนือเหมือนกัน และสามารถเข้าไปบริหารจัดการรัฐบาลทั้งๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง ปัจจุบันกำลังจะบริหารงบประมาณกว่า 5 ล้านล้านบาท โดยไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ ซึ่งถ้าปล่อยให้รัฐบาลนี้บริหารงานต่อไปประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า และพัฒนา แต่ถ้ามีการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเริ่มมีกระแสข่าวแล้วว่า มีการส่งคนเข้าไปที่กรุงเทพฯ คนเหล่านี้ได้รับการฝึกอย่างดี และมีการหลอกประชาชนไปด้วย จะไปสร้างความวุ่นวายเพื่อสร้างเงื่อนไขการยึดอำนาจ ก็จะทำให้ประเทศล้าหลังอีก เช่นเดียวกับตลอดระยะเวลาในการบริหารงาน นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำให้รายได้ของประชาชนมากขึ้น งบรายรับและรายจ่ายของประเทศสมดุลเป็นครั้งแรก แต่เมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารก็มีการขาดดุล และเป็นที่มาของการกู้ยืมเงินมาโดยตลอด ปัจจุบันการตั้งงบประมาณแบบขาดดุลเริ่มลดลงแล้ว และจะกลับมาสมดุลอีกครั้งจากนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ขณะที่นายอดิศร ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงเรื่อง งบฯ 2.2 ล้านล้านบาท มีความจำเป็น และรถไฟความเร็วสูงถ้าไม่ทำอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะกลายเป็น 8 ล้านล้าน รถไฟความเร็วสูงภาคเหนือถึง จ.เชียงใหม่ ภาคอีสานบ้านตนจะพัฒนาในอนาคตถึง จ.หนองคาย และภาคใต้ถึงปาดังเบซาร์ ซึ่งบ้านเมืองเดินไปสู่ความเจริญเติบโต แต่การเมืองของเราไม่นิ่ง ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปปราศรัยหลายประเทศทั่วโลกเรื่องประชาธิปไตย แต่ก็ถูกขัดขาตลอด

อำนาจนอกระบบเหล่านี้มักทำอย่างนี้ตลอด ตัวอย่างแม้แต่ในสภาผู้แทนราษฎรมีการกระชากเก้าอี้ประธานสภาฯ ถ้าเป็นตนจะเล่นที่ก้านคอสักที หรือด้านการใช้อำนาจปัจจุบัน ตุลาการไปตัดสินหมด ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้ประชาธิปัตย์ เหลือ ส.ส.สัก 25 คน และพรรคเพื่อไทย จะเป็นรัฐบาลต่อไปอีก 16 ปี 4 สมัยด้วย

ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เขต 6 เชียงใหม่ ได้กล่าวปราศรัยเรื่องนโยบาย โครงสร้าง 7 ปี รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-เชียงใหม่ ที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์ต่อต้าน คนเราทุกวันนี้ต้องมีการปรับตัวกับการเดินทางการสื่อสารคมนาคม ทำไมคนเชียงใหม่จะได้รถไฟความเร็วสูงซักทีหนึ่ง คนหนองคายทางภาคอีสานก็จะได้รถฟ้าเช่นเดียวกัน มันเดือนร้อนตรงไหน ตนจึงเรียนให้ทราบว่าพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนเห็นชอบในแนวทางของรัฐบาลโดยการนำของ นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยเปอร์เซ็นต์ พรรคเพื่อไทยอยู่ได้ด้วยนโยบายตอนที่ได้หาเสียงในการเลือกตั้งพวกเรายึดมั่นในอุดมการณ์ที่ว่า ประชาชนคือหัวใจ หัวใจคือประชาชน ถามว่าใครเป็นคนคิดนโยบายนี้ ยิ่งลักษณ์ทำ และใครเป็นคนคิดถ้าไม่ใช่ ทักษิณ ชินวัตรใครที่ปากว่า ทักษิณ หน้าเหลี่ยม แต่สมองดีตั้งแต่หัวลงมาถึงค้าง

วันนี้เราเดินตามแนวทางนโยบายที่ได้ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน เราเชื่อมั่นในแนวทางของพรรคเพื่อไทย ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะในอดีตที่ผ่านมา ในปี 53-54 ไม่รู้ว่าใครเป็นนายก ประเทศตกต่ำที่สดในอาเซียน วันนี้เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ประคมอาเซียนด้วยความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของภูมิภาคอีกครั้ง วันนี้เราเชื่อมั่นที่ได้ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้นำและออกนโยบายโดย ทักษิณ ชินวัตร เราได้พรรคการเมืองชื่อพรรคเพื่อไทย ที่เป็นของประชาชนของให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นและก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อประชาธิปไตย และอนาคตของประเทศไทยที่กำลังดีขึ้นทุกวันๆ

 

ทีมข่าวการเมือง cnxnews รายงาน

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ